มิติใหม่ของ DW

ด้วยจุดเด่นที่สามารถใช้ซื้อขายทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นหรือดัชนีหุ้นได้โดยใช้เงินทุนน้อย และยังใช้ได้ทั้งในสภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง DW มีการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยมาแล้วกว่า 12 ปี ในปัจจุบันมี DW ให้เลือกซื้อขายกว่า 2,000 รุ่น และได้รับความสนใจซื้อขายเพิ่มเรื่อยๆ โดยในปัจจุบันมูลค่าการซื้อขาย DW คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งตลาดหรือประมาณ 8,600 ล้านบาทต่อวัน

DW ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น มีทั้งประเภทที่เป็นสิทธิในการซื้อ (Call DW) ซึ่งผู้ลงทุนสามารถใช้สร้างโอกาสทำกำไรในตลาดขาขึ้น และประเภทที่เป็นสิทธิในการขาย (Put DW) ซึ่งเหมาะกับภาวะตลาดขาลง สำหรับสินทรัพย์ที่ DW อ้างอิงนั้น ก็มีทั้งหุ้นรายตัว ประมาณ 100 ตัวที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย และดัชนีหุ้น โดยดัชนีหุ้นไทยที่ DW ใช้อ้างอิงก็คือดัชนี SET50 ซึ่ง DW ที่อ้างอิงกับดัชนี SET50 ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี มูลค่าการซื้อขาย SET50 DW ในปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ของมูลค่าการซื้อขาย DW ทั้งหมดและมีจำนวนให้เลือกซื้อขายมากกว่า 100 รุ่นหรือคิดเป็น 5% ของจำนวน DW ทั้งหมด

นอกจากดัชนี SET50 ในปัจจุบันผู้ออกยังได้เสนอขาย DW ที่อ้างอิงดัชนีหุ้นต่างประเทศ ได้แก่ ดัชนี Hang Seng ดัชนี Hang Seng Tech ดัชนี Hang Seng China Enterprise ของฮ่องกง และดัชนี S&P500 ดัชนี NASDAQ ดัชนี Dow Jones ของสหรัฐอเมริกา ซึ่ง DW ที่อ้างอิงกับดัชนีหุ้นต่างประเทศเหล่านี้ นับเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ผู้ลงทุนสามารถใช้เพื่อสร้าง Exposure ในหุ้นต่างประเทศได้

หากแต่ผู้ลงทุนควรต้องตระหนักว่า DW เป็นสินค้าที่เป็น Leverage Product ซึ่งเหมาะกับการซื้อขายในระยะสั้น สำหรับ DW ที่อ้างอิงกับดัชนีหุ้นต่างประเทศ จะดำเนินการซื้อขายโดยไม่มีการหยุดพักกลางวัน เพื่อให้ผู้ลงทุนเห็นข้อมูลการเคลื่อนไหวของดัชนีในต่างประเทศและใช้อ้างอิงในการตัดสินใจซื้อขายได้ทันสถานการณ์ นอกจากนี้ ยังทำให้ผู้ดูแลสภาพคล่องสามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ ในปัจจุบันมูลค่าการซื้อขาย DW ที่อ้างอิงกับดัชนีต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 6% ของมูลค่าการซื้อขาย DW ทั้งหมด และในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2021 มูลค่าการซื้อขายรวมก็เพิ่มขึ้นจากปี 2020 ในช่วงเวลาเดียวกันกว่า 27%

มูลค่าการซื้อขาย DW ในช่วงปี 2017-พ.ย.2021 (หน่วย: ล้านบาท)

ที่มา SETSMART

ในการซื้อขาย DW นั้น ผู้ออก DW จะทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง (Market Maker) ของ DW ที่ตนเป็นผู้ออกด้วย ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจว่า DW จะมีราคาเสนอซื้อเสนอขายในปริมาณที่มากเพียงพอให้ผู้ลงทุนซื้อขายได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ ผู้ออกยังมีการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ลงทุนที่ซื้อขาย DW โดยการประกาศตารางราคา เพื่อเป็น Indicative Price ให้ผู้ลงทุนทราบว่า ณ แต่ละระดับราคาของสินค้าอ้างอิง ราคา DW ทางทฤษฎีควรจะเป็นเท่าไร ทั้งนี้ เนื่องจากราคา DW ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเท่ากับสินค้าอ้างอิงแบบตรงตัว แต่อาจต้องใช้การคำนวณทางทฤษฎีที่ซับซ้อนพอสมควร 

ตารางราคาจึงเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนเห็นภาพได้ว่าราคา DW จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรเมื่อราคาสินค้าอ้างอิงมีการเปลี่ยนแปลง โดยผู้ดูแลสภาพคล่องก็จะพยายามเสนอซื้อเสนอขายให้เป็นไปตามข้อมูลที่ประกาศไว้ดังกล่าว นอกจากนี้ ผู้ออกยังให้ข้อมูลสำคัญอื่นๆ เช่น Effective Gearing ซึ่งเป็นตัวชี้ให้ผู้ลงทุนทราบถึง Sensitivity หรือการเปลี่ยนแปลงของราคา DW เมื่อราคาสินค้าอ้างอิงเปลี่ยนแปลงไป เป็นต้น ซึ่งในช่วงเริ่มต้นของการซื้อขาย ตารางข้อมูลดังกล่าวนับเป็นตัวช่วยให้ผู้ลงทุนเข้าใจภาพหรือกลไกการเปลี่ยนแปลงของราคาได้ง่าย แต่ในระยะยาวแล้ว ผู้ลงทุนควรที่จะทำความเข้าใจถึงปัจจัยต่างๆ และวิธีการคำนวณราคา เพื่อให้เข้าใจสินค้า ลักษณะและความเสี่ยงของ DW อย่างแท้จริง

เพื่อพัฒนา DW ให้มีความหลากหลาย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ปรับกฏเกณฑ์ของ DW โดยขยายขอบเขตของสินค้าอ้างอิงของ DW ให้ครอบคลุมหุ้นรายตัวในต่างประเทศเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับสินค้า DW และสร้างโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อขาย DW ในหุ้นต่างประเทศได้สะดวก ทั้งนี้ หุ้นที่จะเป็นหุ้นอ้างอิงได้จะต้องมีคุณสมบัติขั้นต่ำตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด เช่น เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่มี Market Cap เฉลี่ย 3 เดือนเกิน 200,000 ล้านบาท เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่าในระยะอันใกล้เราน่าจะเห็น DW ที่อ้างอิงกับหุ้นรายตัวของตลาดใหญ่ๆ ในเอเชีย เช่น ฮ่องกง ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารและความคืบหน้าได้ที่ www.set.or.th หรือเว็บไซต์ของผู้ออก DW แต่ละราย