"การทำงาน" ทำเรื่องยากให้กลายเป็นง่าย

ลองย้อนระลึกถึงสมัยที่ทุกอย่างเฟื่องฟู มองไปทางไหนก็เห็นหนทางทำมาหากิน ในวันที่หัวใจเต็มไปด้วยความหวัง ดวงตาเต็มไปด้วยอนาคตที่สดใส งานจะยากแค่ไหนก็ไม่เคยเกินความพยายาม ตราบเท่าที่ความหวังยังสดใส งานยากกลายเป็นงานง่ายได้เสมอ ถ้าจำยอมต้องอยู่ในภาวะหดหู่ไร้ความหวัง ควรทำอย่างไรจึงจะทำให้งานยากกลายเป็นงานง่าย

ถ้าปล่อยให้เรื่องแย่ๆ ของคนอื่นมากำหนดอารมณ์ในการทำงานของเราตั้งแต่เริ่มต้นทำงาน จะทำให้งานที่อยู่ข้างหน้าแทบทั้งหมดมีโอกาสกลายเป็นงานยากได้มากกว่าที่จะเป็นงานง่าย เพราะเรามีแนวโน้มรับรู้เรื่องแย่ ๆมาเป็นอารมณ์มากกว่าจะรับเรื่องดีๆ ดังนั้นถ้าตื่นมาแล้วรีบเปิดสมาร์ทโฟนดูรายงานคนติดโควิด หรือรีบอ่านทวิตเตอร์ว่าใครด่าใครว่าอะไรบ้าง 

 เราจะเริ่มต้นทำงานในวันนั้น ด้วยอารมณ์หดหู่ วันไหนคาดว่าจะเจองานยาก อย่าทำลายอารมณ์ทำงานของเราไปกับการรับรู้เรื่องแย่ ๆ ชะลอการติดตามเฟซบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ไปสักสองสามชั่วโมง ให้อารมณ์ดีๆ คงอยู่ไปจนว่างานจะเสร็จ สถิติที่สำรวจกันในเมืองฝรั่งบอกว่ากว่า 96%ของคนใช้สมาร์ทโฟนเปิดดูข้อมูลภายในหนึ่งชั่วโมงหลังจากตื่นนอน ถ้าเรื่องแบบเดียวกันเกิดขึ้นในบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องน่าวิตกกังวล เช้าขึ้นมาก็รับเรื่องทำอารมณ์เสียไปก่อนจะทำการงานอะไร ทุกอย่างวันนั้นจะหาอะไรที่ง่ายๆ ไม่เจอแน่นอน

คนแต่ละคนมีช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทำงานไม่เหมือนกัน ในวันแห่งความหวัง เวลาไหนก็พอทำงานให้สำเร็จได้ เพราะแรงบันดาลใจมีมากอยู่ แต่ถ้าเป็นวันหดหู่ที่ยาวนานอย่างไม่เห็นที่สิ้นสุด จะเผด็จศึกงานยาก ต้องรู้จักเลือกเวลาที่ดีที่สุดสำหรับตัวเราในการทำงานนั้น

ถ้าถนัดช่วงเวลาเช้ามากๆ ก็กวาดงานยากไปก่อนเลย แต่ถ้าเป็นมือดีช่วงบ่าย ให้เริ่มด้วยงานง่ายๆ ไปก่อนในตอนเช้า  สังเกตดูให้ดี ว่าช่วงไหนของวันที่ทำงานแล้วลื่นไหลเป็นอย่างดี แล้วลงมือทำงานให้สอดคล้องกับช่วงเวลานั้น งานยากจะง่ายมากขึ้น หรืออย่างน้อยที่สุดคืองานยากจะเสร็จได้เร็วขึ้น

อย่าเริ่มวันใหม่อย่างไม่มีแผน ยิ่งในวันเวลาที่ขาดแคลนความหวัง  วางแผนตั้งแต่เย็นวันนี้ว่าพรุ่งนี้จะทำงานใดในช่วงเวลาไหน การวางแผนล่วงหน้าลดโอกาสที่เราจะใช้เวลาทำงานมากกว่าที่ควรจะเป็น กฎของพาร์กินสันบอกไว้ว่ามีเวลาให้แค่ไหน งานยาวนานไปถึงแค่นั้นเสมอ นอกจากนั้นยังลดโอกาสที่จะเลือกทำงานที่ไม่สอดคล้องกับนาฬิกาความเก่งของเรา  คนเรามีแนวโน้มจะเลือกงานที่ง่ายที่สุดมาทำก่อนเสมอ งานไหนแรงต้านน้อย งานนั้นมักได้ทำก่อน 

เรื่องที่ต้องระวังในการวางแผนงานของแต่ละวันคือ อย่าใส่กำหนดการจนเต็มเวลาที่มีอยู่ เหลือเวลาสำรองไว้บ้าง ระลึกไว้ด้วยว่าประชุมทั้งวันไม่ได้แปลว่าทำงานทั้งวัน คนใหญ่คนโตที่ชอบบอกว่าทำงานหนักกว่าคนอื่น 

ถ้าไปแอบดูตารางเวลาทำงาน มักเจอว่าเวลาแทบทั้งหมด ได้หมดไปกับการประชุม ซึ่งประชุมกันทั้งวันทั้งคืน งานก็ไม่เสร็จถ้าไม่มีเวลาให้คนลงมือทำงานนั้น ตารางเวลาทำงานจึงต้องมีเวลาให้กับการลงมือทำงานด้วย

นอกจากช่วงเวลาแล้ว สภาพแวดล้อมที่ให้บรรยากาศเกื้อหนุนความเก่งก็ช่วยให้งานยากกลายเป็นง่ายได้ ถ้าเคยทำงานได้ดีในห้องปรับอากาศ ก็อย่าฝืนพยายามประหยัดค่าไฟฟ้าด้วยการทำงานในห้องที่อากาศอบอ้าว ถ้าทำงานได้สบายใจตรงไหน ก็ให้ทำงานยากตรงนั้น

ถ้าสังเกตตนเองดี ๆจะพบว่างานแต่ละแบบอาจทำได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน งานลุย ๆอาจชอบมุมโล่ง ๆสว่าง ๆ งานสร้างสรรค์อาจต้องการมุมสงบ ๆที่ไม่มีอะไรมาทำให้วอกแวก ห้องทำงานห้องเดิมอาจดีสำหรับบางงาน แต่อาจไม่ดีสำหรับบางงานได้เช่นเดียวกัน คนใหญ่คนโตบางคนเลยทำงานนั้นที่หนึ่ง งานนี้อีกที่หนึ่งให้เห็นกันเป็นประจำ 

งานยากในยามยาก ต้องคิดให้มากก่อนทำ อย่าลุยอย่างเดียว จะเหนื่อยเปล่าๆ.