"วิกฤติอาหาร" ขาดแคลนในสองประเทศ ม. ม้า

"วิกฤติอาหาร" ขาดแคลนในสองประเทศ ม. ม้า

สภาวะอาหารขาดแคลนอย่างร้ายแรงในโลกปัจจุบันเกิดได้จากทั้งการกระทำของธรรมชาติและจากมือมนุษย์ ประเทศ 2 ม. ม้า เป็นตัวอย่าง มาดากัสการ์ (Madagascar) คือ ม.ม้า ตัวแรก และเมียนมา (Myanmar) คือ ม.ม้าตัวที่สอง ขณะนี้คนนับล้านในสองประเทศกำลังอยู่ในสภาวะที่ลำบากมาก

มาดากัสการ์ เป็นประเทศที่เป็นเกาะ ตั้งอยู่ทางตะวันออกของชายฝั่งทวีปอาฟริกา      (ห่างจากฝั่งประมาณ 400 กิโลเมตร)    เกาะนั้นใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลกโดยมีพื้นที่ใกล้เคียงประเทศไทยคือ 500,000 ตารางกิโลเมตร    มีประชากร 28 ล้านคน     ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์    ผู้คนประกอบด้วยลูกหลานของบรรพบุรุษชาวอาฟริกาที่พายเรือออกมาตั้งรกราก     ลูกหลานของชาวเกาะที่มาจากหมู่เกาะมาเลย์ และคนพื้นเมือง รวมแล้วกว่า 6-7 ชาติพันธุ์
    มาดากัสการ์ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสเมื่อร้อยกว่าปีก่อน และได้รับอิสรภาพในปี 1960  จากนั้นก็ปกครองแบบลุ่ม ๆ ดอน ๆ อยู่ภายใต้ระบอบคอมมูนิสต์  รัฐประหาร  ประชาธิปไตย  เปลี่ยนกันไปมาแต่ที่แน่นอนก็คือประชาชนชาว Malagasy (ชื่อเดิมของมาดากัสการ์) ยากจนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง     รายได้ต่อหัวต่อปีคือ 470 เหรียญ (เมียนมา 1,400 เหรียญ    และไทย 7,600 เหรียญ)
    เกาะนี้มีความงดงามตามธรรมชาติดั้งเดิมอย่างมากเนื่องจากถูกตัดขาดจากโลกภายนอกมายาวนาน   โดยเชื่อว่าก่อนจะแยกออกมาเป็นเกาะเคยเป็นส่วนหนึ่งของอินเดียเมื่อ 88 ล้านปีก่อน กว่าร้อยละ 90 ของสัตว์ป่าบนเกาะนี้จะไม่พบเห็นที่อื่น มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก และอุดมด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ

สินค้าส่งออกอันดับหนึ่งคือฝักวานิลลา (ให้กลิ่นวานิลลา)  แร่นิกเกิล   กานพลู               แร่โคบอลต์     แร่เหล็ก      ถ่านหิน     ทองแดง     เสื้อหนาวถัก      ฯลฯ   สินค้าเกษตรอื่นที่ปลูกกันมากก็คือกาแฟ    ลิ้นจี่     มันสำปะหลัง    ฯลฯ 
    มาดากัสการ์ผลิตวานิลลาธรรมชาติเป็นอันดับหนึ่งของโลกโดยผลิตถึง 80% ของผลผลิตโลก และเป็นผู้ผลิตกานพลูรายใหญ่ของโลกด้วย     ประเทศที่ส่งสินค้าออกไปขายก็คือจีน      ฝรั่งเศส     อิหร่าน     ฮ่องกง   ฯลฯ    การท่องเที่ยวเป็นอีกแหล่งหนึ่งของรายได้ที่สำคัญ
    ประเทศร่ำรวยด้วยทรัพยากรและแร่ธาตุ  มีสัตว์ป่าและต้นไม้ที่แปลกกว่าที่อื่นจนมีนักท่องเที่ยวเยี่ยมเยือนปีละ 500,000 คน    เหตุใดผู้คนจึงยากจนมากและผู้คนทางใต้ของเกาะขณะนี้กำลังขาดแคลนอาหารอย่างหนัก     คำตอบก็คือคุณภาพของคน     การแพร่ระบาดของโควิด    และส่วนที่สำคัญคือการปกครองที่อุดมไปด้วยการเล่นพรรคเล่นพวกและคอร์รัปชั่น
    ที่กำลังลำบากคือประชากรประมาณ 1.1 ล้านคนทางใต้ซึ่งกำลังหิวโหย  ในจำนวนนี้มีเด็ก 500,000 คน ที่กำลังสุ่มเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารอย่างรุนแรง     หลายครอบครัวเอาอาหารที่ได้รับแจกจากสหประชาชาติมากินกับต้นกระบองเพชร     สาเหตุสำคัญคือการแปรเปลี่ยนสภาวะอากาศของโลก จากการเผาไหม้จน เกิดก๊าซเรือนกระจกและทำให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อความแปรปรวนของอากาศ ซึ่งคนที่นี่แทบไม่มีส่วนในการสร้างสภาวการณ์ที่เลวร้ายนี้เลย
 

บริเวณนี้ปกติก็ประสบภาวะฝนแล้งอย่างรุนแรงตลอดมาในประวัติศาสตร์อยู่แล้ว    แต่ครั้งนี้ถือว่าเลวร้ายสุดในรอบ 40 ปี     ผลผลิตของมันสำปะหลังที่เป็นอาหารหลักของคนที่นี่เป็นเพียง     60-90% ของปีปกติ และเมื่อโควิด-19 ระบาด   นักท่องเที่ยวก็ไม่มา      รายได้ที่เคยพอมีมาจุนเจือบ้างก็หายไปทั้งหมด    ประชากร 1.5 ล้านคนที่พึ่งการท่องเที่ยวถูกกระทบอย่างมาก
    การขายลูกสาวไปเป็นเมียเศรษฐีซึ่งเป็นแฟชั่นของที่นี่ระบาดไปทั่ว     เด็ก ๆ หยุดไปโรงเรียนเพื่อช่วยพ่อแม่หาผักหาปลา   ผู้คนกว่าล้านคนต้องกระเสือกกระสนหาอาหารมายังชีพซึ่งปริมาณอาหารทั้งประเทศนั้นพอมี แต่ที่เป็นปัญหาคือมันมีราคาสูงขึ้นจนคนที่ยากจนสุดในทางใต้ของเกาะเข้า      ไม่ถึง    

      ความอดอยากท่ามกลางความพอมีกินของทั้งประเทศเป็นภาพสะท้อนของสังคมในโลกจำนวนมากที่มี climate change   ซึ่งกำลังเปลี่ยนมาเป็น climate crisis   และในที่นี้คือ climate famine  เป็นสาเหตุหลักโดยมีระบบปกครองที่มีปัญหาเป็นสาเหตุประกอบที่สำคัญ
    

      ประเทศ ม.ม้าที่สองคือ "เมียนมา" มีพรหมแดนติดกับประเทศไทย   ยาว 2,400 กิโลเมตร ติดกับจีนยาว 2,100 กิโลเมตร   และติดกับอินเดีย  ยาว 1,643 กิโลเมตร    แหล่งข่าวต่างประเทศระบุว่าการขาดแคลนอาหารของผู้คนประมาณ 1 ล้านคนในปัจจุบันกำลังจะรุนแรงขึ้นทุกขณะ  ความวุ่นวายของการเมืองในเมียนมาทำให้มีคนยากจน (มีรายได้ต่ำกว่าวันละหนึ่งเหรียญสหรัฐ) เพิ่มจากยอด 2.8 ล้านคน ก่อนปี 2020  เพิ่มอีก 3.4 ล้านคน   จนกลายเป็น 6.2 ล้านคน
    ในภาพรวมของประชากรในขณะนี้ยังนับได้ว่าพอมีอาหาร แต่สำหรับคนยากจนมากที่ไม่สามารถเข้าถึงอาหารได้เนื่องจากไม่มีรายได้   ปัจจุบันก็หงุดหงิดอย่างมากอยู่แล้วกับการต่อสู้  สู้รบปรบมือกับรัฐบาล    แถมยังมีการระบาดของโควิด- เมื่อมีการขาดแคลนอาหารมาซ้ำเติมก็พอจินตนาการได้ว่าจะรู้สึกอย่างไรกัน
    ปัญหาข้างต้นของเมียนมาถือได้ว่าเป็นปัญหาเกี่ยวกับความมั่นคงของไทย  หากคนเพียงหนึ่งล้านพร้อมใจกันเดินข้ามพรมแดนไทยที่ยาวเกินกว่าจะดูแลได้ตลอดแนวเพื่อแสวงหาอาหารและชีวิตที่ดีกว่า    อะไรจะเกิดขึ้นกับสถานการณ์ระบาดของโควิดในประเทศไทย  ไทยจะมีเงินทองเพียงพอที่จะช่วยเหลือเหมือนกรณีกัมพูชาในอดีตหรือไม่    
    ไทยจะดูดีไหมในสายตาชาวโลกหากมีภาพทหารไทยถือปืนเดินตรวจแนวลวดหนามกั้นพรมแดน     คำถามเหล่านี้ต้องขบคิดเพราะมีความเป็นไปได้สูงหากเหตุการณ์ขาดแคลนอาหารมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น.