ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับซินเจียงและอุยกูร์ (จบ)

ข้าราชการมีความคิด 3 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งให้รักษาไต้หวัน ฝ่ายหนึ่งให้รักษาซินเจียง อีกฝ่ายให้รักษาทั้ง 2 อย่าง จั่วจงถัว (左宗棠) เป็นฝ่ายหลังสุด เขาเป็นหนึ่งในนายทหารของเซียงจวินและมีโอกาสกราบทูลผลดีผลเสียต่อพระนางซูสีไทเฮา เหตุผลของเขาคือ รัสเซียจะไม่หยุดเพียงซินเจียง และได้รับความเห็นชอบ แต่งบประมาณที่ได้คือ 5 ล้านชั่ง ในขณะที่ใช้จ่ายค่าปฏิกรรมสงครามให้ญี่ปุ่น 230 ล้านชั่งไม่อิดเอื้อนแม้แต่นิดเดียว จั่วจงถังใช้กำลังทหาร 8 หมื่นนายตีกำลังหลายแสนของ Yaqub แตกพ่ายไปในเวลาไม่ถึง 2 ปี ที่น่าสนใจคือเขาใช้ปืนกล Gatling ใหม่ล่าสุดจากสหรัฐ งบประมาณที่ใช้ไปจริงๆ คือ 60 ล้านชั่ง จั่วจงถังจึงต้องระดมเงินจากหลายแหล่ง หูเสว่เอี๋ยน (胡雪岩) คือพ่อค้าผู้มั่งคั่งที่ให้จั่วจงถังกู้เงินถึงกว่า 10 ล้านชั่ง

การเตรียมเรื่องเสบียงอาหาร มีการจัดตั้งกองกำลังผลิตเสบียงอาหารที่เมืองฮามิ และยังมีการจัดเส้นทางการลำเลียง 4 เส้นทางสำหรับ ส่วนที่ซื้อจากภายนอก การเตรียมการด้านยุทโธปกรณ์ มีการตั้งโรงงานผลิตอาวุธที่เลียนแบบตะวันตกที่เมืองหลานโจวและยังจัดซื้อจากต่างประเทศอีกต่างหาก

ยุทธศาสตร์ที่ใช้คือการเข้าตีซินเจียง ด้านเหนือที่มีกำลังอ่อนแอกว่า แล้วจึงเข้าตีด้านใต้ ด้านเหนือยังเป็นส่วนที่อุดมสมบูรณ์กว่าและส่งกำลังบำรุงได้จั่วจงถังยังได้กำลังจาก หม่าอันเหลียง (马安良) และต่งฟู่เสียง (董福祥) ที่เข้ามาสวามิภักดิ์ ภายหลังกบฏในมณฑลซ่านซีและกันซู่

การรบด้านซินเจียงเหนือเกิดขึ้นที่ กู่มู่ตี้ (古牧地)อูหลู่มู่ฉี (烏魯木齊)และมานาสื(玛纳斯)ด้านการรบที่หน้าด่านด้านใต้เกิดที่ ต๋าปั่นเฉิง (达坂城) และเมืองถัวเค่อซันของถูหลู่ฟัน (托克逊，吐鲁番) หลังจากนั้นฝ่าย Yaqub ก็ถอยร่นไม่เป็นกระบวนและประชาชนในท้องถิ่นก็หันมาสนับสนุนฝ่ายรัฐบาลฝ่าย Yaqub และลูกคนรองเสียชีวิตด้วยสาเหตุที่ไม่แน่ชัด แต่ลูกชายคนโตหนีเข้าไปในรัสเซีย หลังจากนั้นกองทัพชิงก็ยึดได้ 4 เมืองทางตะวันออกของซินเจียงใต้ และอีก 4 เมืองทางตะวันตก การรบเริ่มต้นในเดือนเมษายน 1876 และสิ้นสุดเดือนธันวาคม 1877

ในปี 1877 นั้นเอง รัสเซียหลอกล่อข่มขู่ให้เอกอัครราชฑูตจีนประจำรัสเซียลงนามในสัญญาไม่เป็นธรรม “ฉงเอีย” (崇约) แต่ฝ่ายจีนไม่รับรอง จั่วจงถังเองก็โกรธรัสเซียและเตรียมกองทหารเต็มอัตราศึกประชิดเมืองอีลี่ที่รัสเซียยึดอยู่ ส่วนพระเจ้าซาร์เห็นท่าเป็นรองก็ใช้กองเรือข่มขู่ทางตะวันออกในปี 1878 รัสเซียเพิ่งเสร็จศึกจากตุรกีมาหมาดๆ และสถานะการคลังย่ำแย่ จึงลงเอยกับจีนด้วยการลงนามในสัญญาอีลี่ จีน-รัสเซีย ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ยินยอมยกเลิกสัญญาปี 1877 ส่วนใหญ่ ยกเว้นพื้นที่เล็กน้อยบางส่วนและค่าปฏิกรรมสงครามที่เพิ่มขึ้น ผลงานขนาดนี้เป็นที่ยอมรับของนักการฑูตอังกฤษว่าดีมาก

ในปลายปี 1878 นั้นเอง จั่วงจงถังกราบบังคมทูลให้ทรงประกาศว่า ซินเจียงเป็น “มณฑล” อยู่ภายใต้การปกครองส่วนท้องถิ่น เหมือนๆ กับมณฑลอื่นๆ และทรงมีพระบรมราชโองการในปี 1884 ในรัชสมัยกวางซวี่ปีที่ 10

ความรู้สึกนึกคิดของผู้คนทั่วไป ต่างนึกว่าราชวงศ์ชิงหรือจีนในศตวรรษที่ 19 อ่อนแอ แต่เมื่อถึงคราวที่เหตุการณ์คับขัน จีนก็มีความสามารถทำได้ในระดับเคียงบ่าเคียงไหล่กับมหาอำนาจตะวันตกดังที่ Demetrius Charles de Kavanagh Boulger นักเขียนชาวอังกฤษ ได้กล่าวไว้ว่า

“การยึดคืนซินเจียงของชิง เป็นเหตุการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเอเซียในรอบ 50 ปีอย่างไม่ต้องสงสัยและเป็นความสำเร็จอันสดใสของกองทัพจีน ที่นำโดยนายพลจีนที่มาแทนที่ ตั้งแต่เฉียนหลงสยบประเทศนี้เมื่อกว่าศตวรรษที่ผ่านมา มันเป็นการพิสูจน์ที่ไม่ค่อยจะน่ายินดีเท่าไหร่สำหรับเราที่จีน มีคนทำงานที่ปรับตัวได้ดีที่จำเป็นจะต้องมี ในการเมืองทุกๆ วันของเอเชียกลาง พวกเขายึดคืน Kashgaria โดยใช้อาวุธยุโรปและการศึกษาอย่างละเอียดถึงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตะวันตก ทหารของพวกเขาเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างเชื่อฟังผู้ออกคำสั่ง ที่เหมือนกับฝึกมาตามหลักการทหารของปรัสเซีย และนายพลของพวกเขาเคลื่อนกำลังตามคำสอนของ Moltke และ Manteuffel แม้แต่เรื่องเล็กน้อยอย่างการใช้กล้องส่องทางไกล พวกเขาก็มีพร้อม ไม่มีอะไรที่โง่เขลาเกินไปกว่าภาพพจน์ที่บรรยายโดยพวกนักสังเกตุการณ์ที่อวดฉลาดว่า ชิงเป็นกองกำลังที่มีแต่ทหารที่ใส่เครื่องแบบรูปมังกรอันไม่เหมาะสมกับกาละเทศะ”

ในปี 1912 มองโกเลียเป็นเอกราชตามการสนับสนุนของสหภาพโซเวียตในปี 1933 อังกฤษสนันสนุนให้มูฮัมเหม็ดอีมินประกาศจัดตั้ง East Turkestanแต่ถูกเซิ่งซื่อไฉ (盛世才) คอมมิวนิสต์ฝั่งโซเวียตล้มล้าง หลังจากนั้นเพียง 1 ปีในปี 1944 ความพยายามประกาศ East Turkestan เริ่มใหม่อีกภายใต้การสนันสนุนของโซเวียตแต่กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนก็เข้ายึดซินเจียงในเดือน พ.ย.1949

ดังนั้นการเข้ายึดของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนจึงไม่ใช่การยึดประเทศเอกราช แต่เป็นการสถาปนาอธิปไตยอีกครั้ง(reinstate) ของจีนเหนือดินแดนในฐานะที่ซินเจียงเป็นมณฑลหนึ่งของจีนต่อเนื่องจากสมัยของราชวงศ์ชิง ที่พยายามสุดความสามารถในการรักษาอธิปไตยเหนือซินเจียงที่มีมาตลอดในประวัติศาสตร์ แม้ในยามที่ราชวงศ์ชิงตกอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอถึงที่สุดแต่ความสามารถของจีนก็ไม่เคยหมดไป

********** 

Ben Norton and Ajit Singh, The Grayzone.com ได้ลงข่าวว่า ผู้แถลงข่าวของ UN Office of the High Commissioner for Human Rights (OHCHR) ได้ยืนยันว่าข้อกล่าวหาต่อค่ายกักกันของจีนไม่ได้กระทำโดย OHCHR แต่ว่ามาจากคณะกรรมการอิสระที่ไม่ได้พูดในนามของ UN โดยรวมข้อกล่าวหานี้ คือส่วนหนึ่งที่พยานในการรับฟังความเห็นหมายเลข 164 ของสภาคองเกรสนำเสนอข้อกล่าวหาของคณะกรรมการอิสระที่ไม่มีอำนาจพูดในนาม UN นี้ ทำให้ข้อกล่าวหากระจายในวงกว้างและรวดเร็วในแวดวงสื่อกระแสหลักทั่วโลก นอกจากนี้ หนึ่งในคณะกรรมการอิสระดังกล่าวเป็นชาวอเมริกัน ซึ่งได้อ้างอิงถึง The Network of Chinese Human Rights Defenders (CHRD) องค์กรนี้มีสำนักงานใหญ่อยู่ในวอชิงตัน ดี.ซี. และได้รับเงินสนันสนุนจากหน่วยงานย่อยของรัฐบาลกลางสหรัฐ ที่เรียกว่า Regime-Change Arm แต่องค์นี้ไม่เคยระบุชื่อแหล่งเงินสนันสนุนเพียงแต่บอกว่ามาจากผู้บริจาคบางคน องค์กรนี้ยังระบุว่า 99.94% ของรายได้ $820,023 มาจากเงินอุดหนุนของรัฐบาลกลางแต่ The Grayzone สืบทราบมาว่า หน่วยงานนั้นคือ National Endowment for Democracy (NED) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ CIA นอกจากนี้ NED ยังเป็นผู้สนันสนุน World Uyghur Congress

Adrian Zenz เป็นนักวิจัยอิสระที่เป็นพยานอีกผู้หนึ่งในการรับฟังความเห็นหมายเลข 164 ของสภาคองเกรส ความเป็นนักวิจัยอิสระอาจมองได้ว่าดีในแง่ที่ว่าความคิดอิสระ แต่ก็มองได้ว่า การไม่มีสังกัดทำให้ไม่มีผู้ควบคุมคุณภาพว่าน่าเชื่อถือเพียงใด เขาดัดจริตในการใช้คำภาษาจีนในบทความของเขาเพื่อแสดงว่าเขารู้เรื่องจีน ที่กลับโอละพ่อแสดงว่าเขาไม่รู้อย่างโจ่งแจ้ง เช่น การใช้คำว่า 教育转化ซึ่งที่จริงก็แปลว่า ความพยายามในการใช้วิธีการสอนในห้องเรียนที่เฉพาะเจาะจงตามลักษณะของนักเรียนที่แตกต่างกันไป ส่วนคำว่า劳动教养 แปลง่ายๆ ว่าการฝึกอาชีพสำหรับผู้ต้องโทษ ซึ่งไทยเองก็มี เมื่อเป็นเช่นนั้น จะเรียกว่าไทยละเมิดสิทธิมนุษยชนเหมือนที่สหรัฐกล่าวหากระนั้นหรือ?

เมื่อถามว่าจีนมีโรงเรียนฝึกอาชีพในซินเจียงหรือไม่ คำตอบคือมีและจัดตั้งมาตั้งแต่ปี 2011 ใช้วิธีการสอนผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและสอนเฉพาะการคมนาคมทางอินเทอร์เน็ต โรงเรียนเช่นนี้มีประโยชน์ในเชิงเศรษศาสตร์คือ ประชาชนจำนวนมากขึ้นจะมีทักษะที่ใช้ประกอบอาชีพได้และรองรับต่อความต้องการทางเศรษฐกิจในยุคสมัยใหม่ของประเทศ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศโดยรวมขยายตัว ประชาชนไม่ฟุ้งซ่าน เช่น ไปรับงานที่สายลับต่างชาติให้ก่อวินาศกรรม

เหตุก่อวินาศกรรมในซินเจียง เกิดขึ้นในปี 2008 1 ครั้ง ปี 2009 2 ครั้ง ปี 2011 2 ครั้ง ปี 2012 1 ครั้ง ปี 2013 1 ครั้ง ปี 2014 5 ครั้ง แหล่งที่มาของการก่อวินาศกรรมในโลก คาดคะเนได้ไม่ยากว่ามีโอกาสมาได้กี่แหล่ง สหรัฐย่อมเป็นประเทศหนึ่งที่อาจถูกหมายตาได้ ก็ด้วยเหตุที่มี NED และมีพฤติกรรมเช่นนี้ทั่วโลกบ่อยๆ นั่นเอง หวังว่าสหรัฐคงไม่ตำหนิผู้อื่นที่กล่าวหาสหรัฐบ้าง!