“เเก้ผ้าเอาหน้ารอด”
เมื่อภาระหนี้มีจำนวนมาก ทางแก้ไขที่ควรจะกระทำอาจได้แก่ต้องหยุดก่อหนี้ หรือไม่ควรมีรายจ่ายเพิ่ม หรือเลือกสำรวจคัดแยกหนี้สินของตน
แต่หากยังฝืนสร้างหนี้เพิ่มเพื่อสร้างภาพ (ให้คนอื่นรู้ว่าตนไม่มีหนี้ท่วมหัว) เช่นนี้แล้วอาจไม่แตกต่างจากสุภาษิตไทย "แก้ผ้าเอาหน้ารอด" หรือการประกอบธุรกิจการค้าข้าว ที่ทราบดีว่าราคาข้าวในตลาดโลกต่ำกว่าราคาขายซื้อในประเทศ ชาวนาประสงค์จะขายข้าวให้พ่อค้าโรงสีในราคาที่ดีกว่าตลาดโลก แต่ก็ยังมีอาการดื้อดึงพยายามผลักดันให้นำข้าวจากชาวนา อาศัยพ่อค้าโรงสีกดราคาข้าว เพื่อขายข้าวในตลาดต่างประเทศเพื่อโชว์ศักยภาพ เช่นนี้แล้ว อาจไม่แตกต่างจากสุภาษิตข้างต้น
โครงการนิติบุคคลอาคารชุดชื่อ "ก" เจ้าของโครงการเป็นบริษัทจดทะเบียนมีชื่อในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โครงการดังกล่าวจดทะเบียนอาคารชุดเมื่อเดือน เม.ย.2560 พัฒนาบนที่ดิน 2 ไร่เศษ 1 อาคาร 410 ห้องชุด เมื่อปี 2560-2561 ขายกรรมสิทธิ์ห้องชุดแล้วกว่า 170 ห้องชุด คิดเป็น 42% ปีต่อมา (2562) ขายกรรมสิทธิ์ห้องชุดได้เพิ่มขึ้น "เล็กน้อย" รวมประมาณ 190 ห้องชุด คิดเป็น 46% โดยประมาณ ณ ปัจจุบัน พบว่าจำนวนห้องชุดเหลือขายยังคงมีมากกว่ากึ่งหนึ่งของทั้งหมด
ในคราวจดทะเบียนอาคารชุด ตามมาตรา 6 ของกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด ผู้ประกอบการเจ้าของโครงการหิ้วบุคคล ชื่อนาย "ส" จดทะเบียนเป็นผู้จัดการ "ครั้งแรก" กำหนดวาระ 2 ปี ด้วยค่าจ้างเดือนละ 2.5 แสนบาท โดยจะสิ้นสุดสัญญาจ้างพร้อมกันกับนาย ข ในฐานะผู้จัดการในวันที่ 25 เม.ย.2562 อย่างไรก็ตาม ภายใน 6 เดือน (ต.ค.2560 ) นาย ส จัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญเจ้าของร่วม "ครั้งแรก" ตามข้อบังคับและมาตรา 42 แต่งตั้งคณะกรรมการ (คกก.) 5 คน ตรวจสอบดูแลให้คำแนะนำนโยบายการปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการ นาย ส และนิติบุคคล บริษัทจำกัดบริการทรัพย์สินของนาย ส ไปพร้อมกัน
อย่างไรก็ดี ก่อนครบสัญญาจ้างของนิติบุคคล 2 เดือน ที่ประชุม คกก.พิจารณาประเมินผลการปฏิบัติงานของนิติบุคคลรายดังกล่าวไม่ผ่านการประเมิน ที่ประชุมฯ จึงมีมติไม่ต่อสัญญาจ้างและประกาศรับสมัครนิติบุคคล "ภายนอก" ภายใต้ข้อกำหนดขอบเขตการทำงาน (ทีโออาร์) ที่ คกก.เปิดเผยให้แก่นิติบุคคล "ภายนอก" ทั่วไปรับทราบ
ที่ประชุม คกก.มีมติอนุมัติแต่งตั้งนิติบุคคลฯ รายใหม่ ชื่อ "ค" ทำหน้าที่รับมอบงานทรัพย์ส่วนกลางกับรายเดิม ล่วงหน้า 1-1.5 เดือน เพื่อให้งานทรัพย์ส่วนกลางเกิดความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
"เรื่องแปลกแต่จริง" ทั้งผู้จัดการ นาย ส และเจ้าของโครงการ "จับมือกัน" หาเหตุจัดประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วม ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2562 นาย ส และนิติบุคคลบริษัทจำกัดของนาย ส อาศัย "จมูกคนอื่นหายใจ" ให้ร้ายป้ายสี "คณะกรรมการ" หาเหตุถอดถอน และแต่งตั้ง คกก.จนสำเร็จ แต่โชคไม่เข้าข้างนาย ส นิติบุคคล ผู้รับจ้าง และเจ้าของโครงการบริษัทจดทะเบียน (กับพวก) ประธาน คกก.ด้วยความเห็นชอบ คกก.ใช้สิทธิทางศาลฟ้องเพิกถอนมติที่ประชุม โต้แย้งสิทธิและขอคุ้มครองชั่วคราว
ต่อมานิติบุคคลผู้รับจ้าง (นาย ส) แจ้งบอกเลิกสัญญาจ้างก่อนครบกำหนดวันที่ 25 เม.ย.2562 ส่งหนังสือบอกเลิกสัญญาให้ คกก.รับทราบ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.2562 เป็นต้นไป นาย ส ผู้จัดการจึงจัดประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วม ครั้งที่ 2/2562 ในวันที่ 31 มี.ค.2562 พิจารณาแต่งตั้งผู้จัดการรายใหม่แทนรายเดิมที่ลาออกตามหนังสือบอกเลิกสัญญาจ้าง พิจารณาแต่งตั้งนิติบุคคลบริษัทจำกัดบริการทรัพย์สิน ขอบเขตอำนาจหน้าที่ คกก. ฯลฯ ที่ประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วมมีมติแต่งตั้งนาย ส และนิติบุคคล บริษัทบริการทรัพย์สินของนาย ส กลับมาเป็นผู้จัดการ และผู้รับจ้างบริการทรัพย์สินเหมือนครั้งก่อน
ทั้งนี้ ผู้ซื้อจำนวนไม่น้อยและ คกก.(ชุดถอดถอน) ตอบเป็นเสียงเดียว ได้แก่ นาย ส ผู้จัดการ ตลอดจนเจ้าของร่วม "รายใหญ่" เจ้าของโครงการกับพวก ต่างไม่ยอมรับมติ คกก.ที่อนุมัติเปลี่ยนแปลงผู้จัดการ และนิติบุคคลบริษัทจำกัด นาย ส แต่อย่างใด ผู้ซื้อและ คกก.ทุกคนต่างทราบวัตถุประสงค์ดังกล่าวเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม นาย ส ทราบวาระตำแหน่งตามข้อบังคับและประสงค์จะเข้าสู่ตำแหน่งดังกล่าวอีกวาระ ดังนั้นวันที่ 3 เม.ย.2562 นาย ส จึงส่งจดหมายเชิญประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วม ครั้งที่ 3/2562 กำหนดนัดประชุมในวันที่ 28 เม.ย.2562 พิจารณาแต่งตั้งผู้จัดการของนิติบุคคลอาคารชุดแทนรายเดิมที่ครบวาระตามข้อบังคับ
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าท่านผู้อ่านแฟนคอลัมน์คงทราบผลการประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วมครั้งที่ 3/2562 ผลจะเป็นอย่างไร หลายท่านรวมทั้งผู้เขียนเห็นสอดคล้องไม่แตกต่างจากท่าน ได้แก่ นาย ส จะกลับมาดำรงตำแหน่งอีกวาระ 100%
ถามว่าเหตุใด นาย ส จึงประสงค์กลับมาดำรงตำแหน่งผู้จัดการอีกวาระ ในขณะที่ที่ประชุม คกก.ไม่อนุมัติแต่งตั้ง ทั้งนาย ส เป็นผู้จัดการและนิติบุคคลบริษัทจำกัดบริการทรัพย์สินของ นาย ส ทำหน้าที่ฝ่ายจัดการอาคาร และทรัพย์ส่วนกลาง หรือ
เหตุใดเจ้าของร่วม "รายใหญ่" เจ้าของโครงการจึงสนับสนุนนาย ส และนิติบุคคล บริษัทบริการทรัพย์สินของนาย ส กับพวก หรือการจัดประชุมใหญ่วิสามัญเจ้าของร่วม ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2562 ขอมติถอดถอน และแต่งตั้ง คกก. ตามที่นาย ส จัดขึ้น และมีมติดังกล่าว กระทำเพื่อวัตถุประสงค์ใด ถูกต้องหรือไม่
คำตอบมีไม่กี่เรื่อง ทุกเรื่องล้วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของนาย ส นิติบุคคล บริษัทบริการทรัพย์สินของนาย ส และเจ้าของโครงการ บริษัทจดทะเบียนกับพวกทั้งสิ้น อาทิ การชำระค่าส่วนกลาง ค่ากองทุนของเจ้าของร่วม "รายย่อย" และ "รายใหญ่" เจ้าของโครงการ การอาศัยพื้นที่ส่วนกลางเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจของเจ้าของโครงการ บริษัทจดทะเบียน การอาศัยบุคคล นิติบุคคลอื่นเป็น "นอมินี" เพื่อกระทำการแทน หรือรักษาผลประโยชน์ของตน หรือการปกปิด ซ่อนเร้นที่เกี่ยวข้องทรัพย์ส่วนกลาง เป็นต้น