ใช้อินเทอร์เน็ตโดยไม่ให้ใครมาสะกดรอย

อินเทอร์เน็ตกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตแล้วในวันนี้ วันหน้าจะยิ่งมีความสดวกสบายมากขึ้นใน
เรื่องการใช้งานอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้บทบาทของอินเทอร์เน็ตกับชีวิตประจำวันยิ่งทวีคูณมากขึ้น แต่ยิ่งใช้มาก ยิ่งทิ้งร่องรอยไว้มาก และที่สำคัญที่สุดคือไม่รู้กันว่าวันใดร่องรอยเหล่านั้นจะสร้างพิษภัยอะไรตามมามากน้อยแค่ไหนกับตัวเรา วันนี้จะใช้งานอินเทอร์เน็ต ขอให้ตระหนักไว้เสมอว่าควรทิ้งร่องรอยให้ติดตามได้น้อยที่สุด
ร่องรอยแรกที่ทุกคนที่ใช้อินเทอร์เน็ตทิ้งไว้คือ บันทึกการใช้งาน มีการบันทึกว่าเราติดต่อไปที่เว็ปใด หรือติดต่อออน์ไลน์กับแอปใดบ้างตามที่กฏหมายกำหนดไว้ ใครดูเวปโป๊ วันไหน เวลาใด มีร่องรอยอยู่หมด
ดังนั้นจะไปที่เว็ปไหนแอปไหน ขอให้ดูก่อนว่าเป็นเว็ปเป็นแอปที่ติดต่อโดยมีกลไกการปกปิดข้อความที่เราติดต่อกับเว็ป โดยมองหารูปกุญแจ หรือคำว่าhttps ปรากฏอยู่ในช่องที่เราใส่ชื่อเว็ปที่เรากำลังติดต่ออยู่ เพราะกลไกการปกปิดข้อความจะปกปิดไม่ให้มีร่องรอยว่าข้อมูลสาระที่เราขอไป หรือได้มาจากเว็ปเป็นอะไร ถ้าเป็นYou Tubeก็แค่ทิ้งร่องรอยไว้ว่าเรามีการติดต่อกับYou Tube แต่ไม่มีร่องรอยว่าสาระที่เราเรียกขอ และได้รับมาคืออะไร รู้ว่าเราติดต่อกับใคร แต่ไม่รู้ว่าเราติดต่อเรื่องอะไร
ในต่างประเทศ เจ้าของกิจการต้องการทราบว่าลูกจ้างใช้เน็ตทำอะไรบ้าง ก็ไปหาเครื่องแกะรอยมาติดตามว่า ไปดูYou Tubeนั้น ดูสาระอะไรบ้าง ถ้าไม่มีเครื่องแกะรอยนี้ ก็ทราบได้แค่ว่าดูYou Tube แต่ไม่รู้ว่าดูสาระอะไรบ้าง หากมีเครื่องแกะรอยนี้ดักไว้ที่ทางออกอินเทอร์เน็ต คราวนี้กลไกการปกปิดข้อความอาจหมดฤิทธิ์ได้เหมือนกัน
ถ้าอยากให้มั่นใจยิ่งขึ้น เราจะยอมให้มีแค่ร่องรอยว่าเราติดต่อกับคนกลางคนหนึ่ง หลังจากนั้นจะไปไหนต่อไม่มีร่องรอยทิ้งไว้ ติดต่อได้สาระอะไรมาก็ไม่ทิ้งร่องรอยไว้ด้วย ต้องติดต่อโดยผ่านVPN ซึ่งบางท่านอาจไม่ค่อยสดวกที่ต้องมีขั้นตอนเพิ่มเติม วิธีง่าย ๆวิธีหนึ่งที่พอช่วยให้ทำอย่างนี้ได้ง่ายขึ้น คือดูเว็ปต่าง ๆโดยใช้โปรแกรมชื่อTORซึ่งก็เหมือนกับInternet Explorer แต่TORทำงานโดยทิ้งร่องรอยไว้น้อยกว่ามาก
ตอนใช้งานอาจจะช้ากว่านิดหน่อยจากการที่มีกลไกคอยปกปิดร่องรอยต่าง ๆ แต่แลกด้วยความสบายใจว่าท่านไม่ได้ทิ้งร่องรอยที่น่ากังวลไว้ แต่ถ้ายังคิดว่าร่องรอยที่ทิ้งไว้คงมีไม่มาก ให้ลองหาโปรแกรมGhosteryมาติดตั้งเพิ่มลงไปในโปรแกรมที่ท่านใช้ดูเว็ปต่าง ๆ พอเห็นรายงานการสะกดรอยสักเว็ปสองเว็ปว่ามีมากน้อยแค่ไหน อาจจะช่วยให้เกิดความตระหนักตัวตนเองอย่างแน่นอน สิบปากว่าเรื่องทิ้งร่องรอย ไม่เท่าตาเห็นร่องรอยที่ทิ้งไว้
จะพูดจะคุยกันเรื่องสำคัญ ย่อมต้องปกปิดไม่ให้มีร่องรอยทิ้งไว้ ขนาดคุยกันแบบพบหน้าเจอะเจอกัน วันนี้ก็มั่นใจได้ยากว่าเรารู้กันแค่นี้นะ คนอื่นไม่รู้ เพราะรอบตัวเรามีอุปกรณ์ไอทีเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าอันไหนบันทึกอะไรไว้บ้าง บางแห่งเมื่อมีการคุยกันเรื่องสำคัญ เลยมีธรรมเนียมว่าวางสมารท์โฟนไว้นอกห้องประชุม และห้องประชุมเป็นพื้นที่ที่ไม่มีสัญญานWiFi ถ้าต้องคุยเรื่องสำคัญผ่านช่องทางต่างๆบนอินเทอร์เน็ต ขอให้เลือกช่องทางที่มีการปกปิดร่องรอยแน่ ๆ ไม่เช่นนั้นจะไม่แตกอะไรไปจากการตะโกนคุยเรื่องสำคัญกันในพื้นที่สาธารณะที่ใคร ๆก็เห็น ใคร ๆก็ได้ยิน
จะส่งข้อความสำคัญระหว่างกัน ขอให้เลือกแอปที่เขาประกาศชัด ๆว่าเป็นแอปที่มีกลไกปกปิดข้อมูลการติดต่อ การสนทนานั้น เช่นจะคุยกันด้วยเสียง หรือคุยกันแบบได้เห็นหน้าตากัน ขอให้ลองใช้แอปชื่อSignalดูก่อน เพราะแอปนี้บอกว่ามีกลไกปกปิดร่องรอยไม่ให้ใครสะกดรอย หรือดักฟังได้ ส่วนแอปที่เราท่านคุ้นเคยกันอยู่นั้น ไม่เคยประกาศให้ทราบว่ามีกลไกปกปิดนี้อยู่ แปลว่ามีหรือไม่มีไม่ทราบแอปอย่างWhatappที่ประกาศว่าข้อความที่ส่งผ่านแอปนี้ มีกลไกการปกปิด จึงอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ควรสนใจ
ชีวิตกับอินเทอร์เน็ต อาจยุ่งยากขึ้นอีกนิด แต่อาจแลกคืนมาด้วยความปลอดภัยจากภัยต่าง ๆที่มาจากร่องรอยอินเทอร์เน็ตที่ทิ้งไว้ได้







