‘โรดี้’… ลูกทุ่งจอมลุยวิสามัญ รับตำแหน่งผู้นำฟิลิปปินส์แล้ว

เมื่อวานเป็นวันเข้าทำพิธีสาบานตน
รับตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์คนที่ 16 ของโรดริโก กูเตอร์เต้ ชื่อเล่น “โรดี้” (Rody) วัย 71 ที่มีชื่อเสียงเป็นผู้นำปากร้าย พร้อมจะแก้ปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติดด้วยการ “ยิงทิ้ง” หรือ “วิสามัญ” ทุกวิธี
โรดี้สร้างปรากฏการณ์การเมืองเมื่อวาน ด้วยการทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเรียบง่าย ในทำเนียบมาลากันยัง ไม่จัดงานยักษ์กลางแจ้งเหมือนผู้นำคนก่อน ๆ
อีกทั้งยังประกาศว่าจะไม่มีงานเลี้ยงรับรองหรูหราอย่างที่เคยทำกันมา เลี้ยงน้ำชากาแฟ น้ำมะพร้าวและขนมนมเนยเล็กๆ น้อยเป็นอันเสร็จ
แขกที่ได้รับเชิญในพิธีมีจำกัดแค่ 627 คนและอาหารที่จะเลี้ยงมีง่ายๆ อย่างที่เห็นคือซุปปลา น้ำส้ม ขนมปังชุบแป้งทอดและขนมอบไส้ทุเรียน
เพราะเขาต้องการจะเป็นผู้นำที่สร้างความเปลี่ยนแปลงทั้งในรูปแบบและเนื้อหา ในฐานะที่เป็น “สามัญชน” ที่ไม่เคยเล่นการเมืองระดับชาติมาก่อน แต่สามารถได้ใจคนฟิลิปปินส์ ชนะการเลือกตั้งเสียงเด็ดขาดท่ามกลางความหวาดหวั่นว่าสไตล์ วิธีคิด และภาษาดุดันแบบชาวบ้านของเขา จะเหมาะกับการทำหน้าที่ประธานาธิบดีได้หรือไม่อย่างไร
โรดี้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรี ของเมืองดาวาวทางใต้ของประเทศยาวนานถึง 20 ปี เขาได้ชื่อว่าเป็นคนอยู่เบื้องหลังการใช้ “มือปืน” กวาดล้างนักค้ายาเสพติด อาชญากรและแก๊งค์กวนเมืองต่างๆ โดยไม่สนใจว่าจะต้องมีการจับเพื่อตั้งข้อหา เพื่อดำเนินตามกระบวนการยุติธรรมของประเทศ
พอขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีเขาก็ประกาศว่าจะเอาโทษประหารกลับมาใช้
เขาสั่งให้ฝ่ายรักษากฎหมายจัดการสังหาร ผู้ต้องสงสัยค้ายาเสพติด และใครได้ศพมาจะมีรางวัลให้พิเศษ
เขาบอกประชาชนคนฟิลิปปินส์ 102 ล้านคนว่าหากเจอหน้าผู้ต้องสงสัยเป็นอาชญากร ก็อย่าได้ลังเล ยิงทิ้งได้เลย เขาจะช่วยปกป้องชาวบ้านที่ป้องกันตัวเอง
ระหว่างหาเสียง เขาบอกว่าเมื่อมีอำนาจแล้ว เขาจะสั่งจัดการสังหารเหล่าบรรดาแก๊งอาชญากรอย่างไม่ไว้หน้า สงสัยใครก็จะยิงทิ้ง เอาศพทิ้งลงอ่าวมะนิลาให้ประชาชนได้เห็นเป็นประจักษ์ ถึงความจริงจังในการทำหน้าที่ของเขา
โรดี้บอกว่าการจะรักษาให้บ้านเมืองมีความสงบนั้น จะต้องลดทอนเสรีภาพทางสังคม นั่นหมายความว่าจะไม่ให้เยาวชนออกนอกบ้านหลังเวลาที่กำหนด และสั่งห้ามขายเหล้าหลังเที่ยงคืนอย่างเคร่งครัด
เขาบอกว่านักข่าวที่ถูกลอบสังหารจำนวนมากในช่วง 30 ปีที่ผ่านมานั้น หลายคนก็สมควรตายเพราะทุจริตต่อหน้าที่ ทำให้เกิดเสียงต่อต้านเขาในฐานะ “วิสามัญ” ใครก็ได้หากเขาสงสัยว่าทำผิดโดยไม่ผ่านขั้นตอนการสอบสวนตามกระบวนการยุติธรรม
แม้เลขาธิการสหประชาชาติบันคีมูน ยังต้องส่งสารมาตำหนิการแสดงความเห็น ที่ฝ่าฝืนสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอย่างนั้น
กลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายสำนักบอกว่า กลุ่มมือปืนของโรดี้สมัยเป็นนายกเทศมนตรีดาวาวได้ “เก็บ” ผู้ต้องสงสัยว่าทำผิดกฎหมายกว่า 1,000 คน
มีความกลัวกันว่าเมื่อเขาขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ และมีอำนาจบารมีระดับชาติ ทางการอาจมี “ก๊วนมือปืน” เพื่อจัดการเก็บผู้ต้องสงสัย โดยไม่นำตัวขึ้นสู่การพิจารณาของกระบวนการปกติ ที่ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิปกป้องตนเองตามกฎหมาย
ตั้งแต่โรดี้ชนะการเลือกตั้งวันที่ 9 พ.ค.เป็นต้นมา ตำรวจก็ได้ “วิสามัญ” ผู้ต้องสงสัยไปหลายสิบรายแล้วเพราะเชื่อว่าผู้นำคนใหม่ ต้องการให้เดินหน้าปราบปรามอาชญากรรมด้วยวิธีเช่นนี้
โรดี้ต้องการจะปฏิรูปการบริหารประเทศด้วยการกระจายอำนาจ ให้แต่ละเขตการปกครองสามารถดูแลตัวเองมากกว่าที่จะต้องพึ่งพารัฐบาลกลาง
ระบบ “สหพันธ์รัฐ” ที่เขาเสนอจะทำให้แต่ละเขตเก็บภาษี เพื่อการบริหารส่วนของตนซึ่งแปลว่าจะต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญครั้งใหญ่
โรดี้บอกว่าเขาจะสามารถแก้ปัญหาเรื้อรังทางใต้ของประเทศ อันเกิดจากการจับอาวุธต่อสู้ของกลุ่มแยกดินแดนมุสลิมและคอมมิวนิสต์ ด้วยการเสนอให้มีสิทธิในการปกครองตนเองมากขึ้นกว่าเดิม
นโยบายต่างประเทศของเขาเริ่มจะแปรเปลี่ยนไปจากเดิมด้วยการวิพากษ์สหรัฐ และแสดงความพร้อมที่จะพูดจากับจีน
กรณีพิพาทระหว่างฟิลิปปินส์กับจีน ประเด็นการอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ กำลังจะเข้าสู่จุดร้อนแรงอีกครั้งในวันที่ 12 ก.ค.นี้ อันเป็นวันที่ศาลอนุญาโตตุลาการถาวรที่กรุงเฮก กำหนดว่าจะอ่านคำตัดสินที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ยื่นฟ้องจีนเอาไว้
จีนไม่ยอมรับอำนาจของอนุญาโตตุลาการและยืนยันว่าไม่ว่าจะตัดสินออกมาอย่างไร ก็จะไม่ยอมรับ
โรดี้จะพูดจาภาษาดอกไม้กับจีนได้แค่ไหน การทูตลูกทุ่งของเขาจะช่วยแก้ไขปัญหาของประเทศได้หรือไม่ และเพื่อนๆ อาเซียนจะคบหาเขาอย่างไร เป็นละครฉากใหม่ของภูมิภาคนี้ที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อยทีเดียว







