อาชีวอนามัยและความปลอดภัยของพนักงาน

อาชีวอนามัยและความปลอดภัยของพนักงาน

หากสถานที่ประกอบการมีลักษณะพื้นที่ที่ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยหรือมีสภาพที่อาจทำให้สุขอนามัยพนักงานแย่ลงประสิทธิภาพในการทำธุรกิจย่อมลดลงไปด้วย

นอกจากนี้ ยังอาจส่งผลกระทบทางอ้อมต่อต้นทุนของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของประสิทธิภาพในการผลิต ต้นทุนด้านการพนักงาน เช่น ค่ารักษาพยาบาล จำนวนวันลาหยุดลาป่วยของพนักงานที่เพิ่มขึ้น

และยังอาจส่งผลถึงกำลังใจในการทำงานของพนักงานอีกด้วย เนื่องจากสภาพแวดล้อมในการทำงานที่สุ่มเสี่ยงในเรื่องของอาชีวอนามัยและความปลอดภัยจะนำไปสู่การเกิดความเครียดของพนักงานในระหว่างปฏิบัติงานทั้งที่เกิดจากด้านจิตใจและเกิดจากด้านสภาพร่างกาย

จนเป็นเหตุให้เกิดความเสื่อมเสียถึงชื่อเสียงภาพลักษณ์ของบริษัท หรือแม้กระทั่งผลกระทบทางกฎหมาย เช่น การต้องเสียค่าปรับหรือค่าชดเชยต่างๆ เกิดขึ้นกับธุรกิจให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง

ธุรกิจหรือเจ้าของธุรกิจที่มีความใส่ใจและความปรารถนาดีต่อพนักงาน จึงมักจะไม่ลืมถึงความสำคัญของการพัฒนาและปรับปรุงสถานที่ปฏิบัติงานที่ดี โดยเน้นไปถึงเรื่องของ สุขลักษณะ อาชีวอนามัย และความปลอดภัยในการทำงานให้กับพนักงานอยู่เสมอ

และถ้าหากจะถือว่า พนักงาน เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญที่สุดอีกเรื่องหนึ่งของการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของธุรกิจ ก็อาจจะไม่ผิดไปนัก เนื่องจากพนักงานของบริษัทก็คือส่วนหนึ่งของสังคมเมื่ออยู่นอกเหนือจากเวลาทำงาน

หากพนักงานของบริษัทมีสุขภาพที่ดีทั้งในด้านจิตใจ ด้านร่างกาย และในด้านฐานะทางการเงินที่เหมาะสม พนักงานเหล่านี้ ก็จะมีส่วนในการสร้างความมั่นคงและแข็งแกร่งให้กับสังคมหรือชุมชนที่เป็นสมาชิกอยู่ได้อย่างมีประสิทธิผล

การให้ความสำคัญต่อสภาพอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน เริ่มจากการให้ความสำคัญของเจ้าของธุรกิจหรือผู้บริหาร โดยจัดทำเป็นนโยบายข้อหนึ่งที่ประกาศอย่างเปิดเผยให้ผู้มีส่วนได้เสียของธุรกิจทุกกลุ่มได้รับทราบอย่างทั่วถึง

กลุ่มผู้มีส่วนได้เสียที่อยู่ร่วมภายในธุรกิจได้แก่ เจ้าของ ผู้บริหาร และพนักงาน ซึ่งรวมถึง พนักงานประจำ และพนักงานจ้างชั่วคราวตามกำหนดเวลาที่ตกลงกันไว้

ส่วนกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียที่อยู่ภายนอกของธุรกิจ ได้แก่ ผู้ถือหุ้นหรือผู้ร่วมทุนที่ไม่ได้มีส่วนในการบริหารธุรกิจประจำวัน (ถ้ามี) คู่ค้า ผู้รับช่วงงานบางส่วน ลูกค้า ตลอดจนสมาชิกของชุมชนและสังคมทั่วไปที่เกี่ยวข้องหรืออาจได้รับผลกระทบทั้งในด้านบวกและด้านลบจากการดำเนินการประกอบธุรกิจ

การจัดให้มีนโยบายอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานที่เปิดเผยให้เป็นที่รับทราบทั่วกัน จะนำไปสู่การเกิดวัฒนธรรมองค์กรของธุรกิจ ที่มุ่งเน้นการทำงานที่ให้ผลลัพธ์สูงสุดภายใต้เงิ่อนไขของความปลอดภัยและสุขอนามัย ที่จะนำไปสู่การเติบโตให้กับธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

นโยบาย จะนำไปสู่การสร้างกรอบของการปฏิบัติ เพื่อการติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์

เช่น จัดให้มีการประเมินผลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความเครียดในการทำงาน สุขภาพจิตใจ และสุขภาพร่างกายของพนักงาน เป็นประจำทุกปี หรือปีละ 2 ครั้ง ตามลักษณะและความเข้มข้นของการทำธุรกิจ

จากผลของการประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพของพนักงานดังกล่าว ธุรกิจก็จะทราบถึงแนวโน้ม วิธีป้องกันแก้ไข และยังอาจให้ข้อมูลในระดับลึก เช่น ผลกระทบจากเรื่องของอาชีวะอนามัยและความปลอดภัยที่มีต่อผลกำไรหรือผลตอบแทนบรรทัดสุดท้ายของธุรกิจ

การบริหารจัดการในเรื่องของอาชีวอนามัย นอกจากจะต้องเริ่มจากระดับนโยบายแล้ว ในระดับการบริหารจัดการ ยังจะต้องมีกลไกที่ลงไปถึงการมีส่วนร่วมของผู้จัดการหรือหัวหน้างานในระดับต้น ระดับกลาง และระดับฝ่ายอีกด้วย ซึ่งจะทำให้จิตสำนึกในเรื่องนี้ กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานประจำวัน

และจำเป็นที่จะต้องมีความเชื่อมโยงระหว่างฝ่ายปฏิบัติการกับฝ่ายทรัพยากรบุคคล เพื่อให้เกิดการทำงานที่เชื่อมโยงกันให้เกิดขึ้นตามนโยบายที่บริษัทได้กำหนดไว้

อีกเครื่องมือหนึ่งซึ่งธุรกิจสามารถนำมาใช้ในการสร้างสภาวะที่ดีให้กับความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในการทำงาน ได้แก่ การนำระบบมาตรฐานในระดับสากลมาใช้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาตรฐาน ISO หรือ OHSAS 18000 ที่กำหนดวิธีการในการดำเนินการที่ได้รับการยอมรับ

จากแนวทางการทำธุรกิจที่ดีในเรื่องของอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ทำให้เกิดองค์ความรู้ที่ว่า การที่จะทำให้เรื่องของความปลอดภัยและสุขภาวะที่ดีมีส่วนมาช่วยเสริมการทำธุรกิจให้ได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น จำเป็นที่ธุรกิจจะต้องให้การอบรม เพิ่มพูนความตระหนักและความรู้ในกับพนักงานในทุกระดับชั้น อย่างเป็นประจำ

เพราะจิตสำนึกในเรื่องนี้ หากไม่ได้รับการกระตุ้นเป็นระยะๆ ก็จะทำให้เกิดการหย่อนยานลงไปได้เสมอ ซึ่งเป็นสัญชาตญาณโดยทั่วไปของมนุษย์ตามปกติธรรมดา

การอบรมอาจทำขึ้นภายในองค์กร การส่งคนออกไปสัมมนาหรืออบรมความรู้จากภายนอก ซึ่งอาจเป็นการอบรมที่เกี่ยวกับสภาพที่อาจนำไปสู่การเกิดความเสี่ยงใหม่ๆ ต่อเรื่องอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ในสายธุรกิจที่เกี่ยวข้อง การอบรมเกี่ยวกับวิธีการหลีกเลี่ยง ป้องกันก่อนเกิด หรือการแก้ไขปัญหาอย่างถาวรโดยไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำ หรือการอบรมผ่านการจัดการฝึกซ้อมสถานะการณ์ฉุกเฉิน เป็นต้น

สำหรับธุรกิจที่ต้องการแสดงความจริงจังและจริงใจในเรื่องของการให้ความสำคัญและขวัญกำลังใจแก่พนักงานในเรื่องของอาชีวอนามัยและความปลอดภัย อาจจะต้องจัดการให้เกิดระบบการอบรมอย่างเป็นกิจลักษณะ เช่น การบันทึกการอบรมของพนักงานรายบุคคล จำนวนชั่วโมงที่พนักงานจะต้องได้รับการอบรม ตลอดจนการมีระบบการประเมินผลของการอบรมที่มีประสิทธิภาพ

บริษัทที่มีความเป็นเลิศในเรื่องของการดูแลพนักงานในด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย อาจแสดงออกด้วยการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวกับผลการดำเนินการในด้านนี้ในรายงานประจำปี หรือรายงานความยั่งยืนของบริษัท ตลอดจนการทำเอกสารเผยแพร่ โปสเตอร์ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ที่จะบ่งบอกถึงความสำคัญและวิธีปฏิบัติในเรื่องอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ผ่านระบบอินทราเน็ต ภายในของบริษัท เพื่อให้พนักงานได้รับทราบอย่างทั่วถึง

อาจถึงขั้นการจัดให้มีระบบฐานข้อมูลเฉพาะด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยกลางของธุรกิจ ที่จะทำให้สามารถติดตาม วิเคราะห์ และพยากรณ์เกี่ยวกับความเสี่ยงและโอกาสที่จะเกิดขึ้นต่อผลการประกอบการธุรกิจ

ที่จะสามารถนำไปกำหนดทิศทางในการสร้างกลยุทธ์ความยั่งยืนให้กับธุรกิจได้ในอนาคต!!!!