การตั้งบริษัทตามกฎหมายของเคย์แมน-บริติชเวอร์จิน

หมู่เกาะเคย์แมนและหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ตั้งอยู่ในทะเลแคริบเบียน เป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร
ปัจจุบันหมู่เกาะเคย์แมนมีประชากรประมาณ 54,878 คน เมืองหลวงชื่อจอร์จทาวน์ หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน มีประชากรประชากรราว 30,370 คน มีเมืองหลวงชื่อ โรดทาวน์ ทั้งหมู่เกาะเคย์แมนและหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน มีกฎหมายของตนเอง โดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทกฎหมายของหมู่เกาะเคย์แมน คือ Company Law (2013 Revision) มี 245 มาตรา ส่วนกฎหมายของหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน คือ The BVI Business Company Act, 2004 มี 251 มาตรา
กฎหมายเกี่ยวกับบริษัทของทั้งสองหมู่เกาะมีโครงสร้างหลักการคล้ายกัน และก็มีส่วนที่คล้ายกับกฎหมายหุ้นส่วนบริษัทของไทย แต่มีส่วนที่เกี่ยวกับรายละเอียดข้อปฏิบัติที่แตกต่างกันมากพอควร
บริษัท ที่เรียกว่า Offshore Company ที่มีผู้นิยมไปจัดตั้งกันที่หมู่เกาะทั้งสอง จำแนกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือบริษัทประเภทที่จัดตั้งขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจในหมู่เกาะเคย์แมนและบริติชเวอร์จิน และบริษัทประเภทที่จัดตั้งขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจนอกอาณาเขตของเกาะทั้งสองที่เรียกว่า Exempted Company ส่วนที่เกี่ยวกับ Exempted Company ตาม Company Law (2013 Revision) ของหมู่เกาะเคย์แมนมีสาระที่เป็นนัยสำคัญโดยสรุป คือ
บุคคลเพียงคนเดียวก็เป็นผู้จัดตั้งบริษัทได้
สิ่งแรกที่ต้องกระทำคือการจองขื่อบริษัท เพราะมีข้อจำกัดบางประการในการใช้ชื่อบริษัท ชื่อบางคำเป็นชื่อต้องห้าม และต้องไม่ซ้ำหรือพ้องกับบริษัทเดิม
หุ้นของบริษัท จะเป็นหุ้นที่ไม่ระบุมูลค่าก็ได้ (No Par Value) หากเป็นหุ้นระบุมูลค่าจะระบุเป็นสกุลเงินใดก็ได้ โดยสามารถกำหนดมูลค่าเป็นหน่วยเงินที่เล็กที่สุดของสกุลเงินนั้นก็ได้ ไม่มีการกำหนดเงินขั้นต่ำที่ต้องชำระ และก็ไม่ได้กำหนดจำนวนขั้นต่ำของผู้ถือหุ้นไว้ แต่อย่างน้อยต้องมีผู้ถือหุ้นหนึ่งคน
ในบริคณห์สนธิของบริษัท ต้องมีรายการคล้ายกฎหมายหุ้นส่วนบริษัทของไทยที่สำคัญ เช่น ชื่อของบริษัท ที่ตั้งของสำนักงานของบริษัทในหมู่เกาะเคย์แมน จำนวนทุนเรือนหุ้นที่จะจดทะเบียน แบ่งเป็นหุ้นที่ที่กำหนดมูลค่ากี่หุ้นเป็นสกุลเงินใดก็ได้ และวัตถุที่ประสงค์ของบริษัทซึ่งอาจระบุไว้กว้างๆ
บริษัทมีกรรมการเป็นผู้บริหารจัดการ จากการแต่งตั้งของที่ประชุมผู้ถือหุ้น และกฎหมายก็ไม่ได้กำหนดจำนวนขั้นต่ำของกรรมการไว้ ซึ่งบริษัทธรรมดาทั่วไป มีกรรมการเพียงหนึ่งคนจะเป็นชาติใดก็ได้
ตามกฎหมาย Company Law (2013 Revision) ของหมู่เกาะเคย์แมน กำหนดให้บริษัททุกบริษัทต้องมีสำนักงานตั้งอยู่ในหมู่เกาะเคย์แมนตามที่จดทะเบียนไว้กับนายทะเบียน ซึ่งจะเปิดเผยให้สาธารณชนรับทราบ แต่ก็สามารถใช้ที่ตั้งของสำนักงานตัวแทนจดทะเบียนของบริษัท (Registered Agent) ที่กฎหมายกำหนดให้ต้องมี และใช้เป็นที่ตั้งของสำนักงานของบริษัทได้
โครงสร้างการบริหารงานภายในของบริษัท สิทธิหน้าที่ของผู้ถือหุ้นระหว่างบริษัท และระหว่างผู้ถือหุ้นเป็นไปตามที่กำหนดในข้อบังคับของบริษัท ข้อบังคับของบริษัทจึงมีความสำคัญมาก เช่น กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ Exempted Company ต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี แต่ขึ้นอยู่กับข้อบังคับของบริษัท ว่าจะกำหนดอย่างไร ตลอดจนการจัดประชุมและการลงคะแนนเสียงก็ให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ
กฎหมายไม่ได้บังคับให้บริษัทต้องจัดให้มีผู้สอบบัญชี แต่กำหนดให้บริษัทต้องจัดให้มีสมุดบัญชี และรายงานทางการเงินที่บันทึกเกี่ยวกับรายรับรายจ่าย และธุรกรรมของบริษัท ทั้งการซื้อการขาย ทรัพย์สินและหนี้สินของบริษัท โดยให้เก็บรักษาไว้ที่สำนักงานของบริษัทหรือสถานที่อื่นตามที่กรรมการเห็นว่าเหมาะสม โดยที่ผู้ตรวจสอบซึ่งแต่งตั้งโดยศาลหรือโดยบริษัทจะสามารถเรียกตรวจสอบได้ตลอดเวลา แต่ก็ไม่บังคับว่าสมุดบัญชีนั้นต้องได้รับการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี และก็ไม่ต้องยื่นสมุดบัญชีนั้นต่อนายทะเบียนแต่อย่างใด จึงไม่มีการเปิดเผยเอกสารสมุดบัญชี และรายงานทางการเงินต่อสาธารณชนแต่อย่างใด
Exempted Company ไม่มีภาระต้องจ่ายภาษีใดๆ ไม่ว่าจะเป็นภาษีเงินได้ ภาษีจากกำไร ภาษีเงินปันผล ภาษีนิติบุคคล ภาษีโรงเรือน หรือภาษีอื่นใด แต่มีหน้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปีให้แก่รัฐตามอัตราส่วนของทุนเรือนหุ้น ซึ่งต้องเริ่มจ่ายเมื่อยื่นจดทะเบียนบริคณห์สนธิตอนเริ่มจัดตั้งบริษัท และเสียเป็นรายปีต่อมาในทุกๆ เดือนมกราคม
การจัดตั้งบริษัทในหมู่เกาะเคย์แมนและหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ดำเนินการได้ไม่ยาก เพียงมีสำนักงานตัวแทนที่ลงประกาศโฆษณารับจ้าง ดำเนินการให้ตั้งแต่ต้นจนจบ รวมทั้งยินยอมให้ใช้เป็นที่ตั้งของสำนักงานของบริษัท ทั้งนี้การจัดตั้งบริษัทในหมู่เกาะดังกล่าวไม่ใช่การกระทำที่ผิดกฎหมาย เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นโดยมีกฎหมายรองรับ เช่นเดียวกับบริษัทที่จัดตั้งตามกฎหมายไทย แต่ได้เปรียบกว่าบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศไทยตามกฎหมายไทย ในแง่ไม่มีภาระภาษีที่ต้องเสียและก็ไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลมากมายหลายอย่าง เช่นเดียวกับบริษัทที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทย รวมทั้งรายชื่อกรรมการ รายชื่อผู้ถือหุ้น บัญชีงบดุล ด้วยความได้เปรียบต่างๆ ดังกล่าว จึงทำให้มีบุคคลและบริษัทจำนวนหนึ่งดั้นด้นไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทตามหมู่เกาะต่างๆ ในต่างประเทศกันด้วยเหตุผลหลากหลายที่พยายามอธิบายกัน




