รังนกแอ่น: เหมืองทองกลุ่มชาติพันธุ์เอเชียอาคเนย์ 2

รังนกแอ่น: เหมืองทองกลุ่มชาติพันธุ์เอเชียอาคเนย์ 2

กลุ่มชาติพันธุ์ในเอเชียตะวันออกเฉียงในเวียดนาม มีความเชื่อว่านกนางแอ่นเป็นนกบริสุทธิ์ เป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิ

ความซื่อสัตย์และภักดี และความรักเดียวใจเดียวต่อคนรัก แถบชายฝั่่งทางตอนใต้ของชวากลาง อินโดนีเซียก็เชื่อกันว่านกนางแอ่นเป็นทรัพย์สมบัติของเทพีนีโรโรคีดุล (Nyi Roro Kidul) คนอีดาฮัน (Idahan) ในซาบาห์ (Sabah) มาเลเซีย เชื่อว่ารังนกที่ได้จากนกนางแอ่นเป็นของขวัญที่ได้รับมาจากบรรพบุรุษ และเชื่อกันอีกว่าเจ้าของตึกนกใดที่นกนางแอ่นเข้ามาอาศัยทำรังเป็นผู้ที่ได้รับพรจากอัลเลาะฮ์ (Allah) ส่วนทางตอนเหนือของปาลาวาน (Palawan) ฟิลิปปินส์ กลุ่มชาติพันธุ์ทักบานัว (Tagbanua) ผู้เป็นเจ้าของถ้ำรังนกและคนเก็บรังนก มีความเคารพนกนางแอ่น (Balinsasayaw) ถือว่า เป็นนกศักดิ์สิทธิ์

ทำนองเดียวกับคนไทยภาคใต้ในอดีตส่วนหนึ่งเชื่อกันว่า นกนางแอ่นเป็นนกกินลมได้อาหารบำรุงกำลังจากอากาศ น้ำลายที่ใช้ในการสร้างรังเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ คนชาติพันธุ์ไทย-มาเลย์มุสลิม ทางฝั่งทะเลอันดามันส่วนหนึ่งเชื่อว่า นกนางแอ่นกำเนิดมาจากเหงื่อของผู้นำศาสนา นบี อิบรอฮีม

โดยต่างก็เชื่อว่านกนางแอ่นเป็นสัตว์ที่มีพลานุภาพเช่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สามารถบันดาลให้เกิดทั้งสิ่งที่เป็นคุณและโทษกับคนที่ไปมีส่วนสัมพันธ์ด้วย

กอปรกับงานเก็บรังนกเป็นงานที่เสี่ยงภัย เชื่อในสิ่งลี้ลับตามวิถีของวัฒนธรรมการนับถือผี (Animism) ก่อนหรือหลังเก็บรังนก กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะประกอบพิธีกรรมเซ่นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในถ้ำรังนก ขณะเก็บรังนกมีข้อห้ามในการประพฤติตน และมีการใช้ภาษาเฉพาะที่แตกต่างไปจากที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน อันเป็นการแสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำถ้ำหรือเกาะรังนก ทั้งเป็นขวัญกำลังใจและให้มีความปลอดภัยในการเก็บรังนก

การบริโภครังนกยุคจารีต

รังนกนางแอ่น เคยเป็นอาหารพิเศษของกษัตริย์และคนรวย เชื่อว่าการกินรังนกจะมีชีวิตเป็นนิรันดร์ มีสรรพคุณทางยาที่เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เพิ่มภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรง บำรุงสมองให้ฉลาด ทำให้ใบหน้าสวยอ่อนกว่าวัย ช่วยฟื้นฟูสุขภาพ ตลอดถึงแก้ความเจ็บป่วยต่างๆ

คนจีนเชื่อกันว่ารังนกนางแอ่นเป็นยาอายุวัฒนะ มีคุณสมบัติพิเศษในการบำรุงร่างกาย รักษาโรคทางเดินหายใจ ช่วยบำรุงสุขภาพเด็กที่ร่างกายไม่แข็งแรง เชื่อกันว่า รังนกเมื่อผสมกับโสมจีนจะสามารถช่วยชีวิตคนที่กำลังจะตายให้กลับฟื้นได้ และสามารถละลายเลือดที่แข็งตัวให้เหลวได้โดยดื่มซุบที่ทำจากรังนก เป็น 1 ใน 5 อย่างของอาหารชั้นสูงราคาแพงของคนจีน คือ รังนก หอยเป๋าฮื้อ กระเพาะปลา โสม และหูฉลาม

คนจีนเชื่อเรื่องความมีประโยชน์ของรังนกกันมาก แม้ไม่ได้ถูกระบุเป็นยารักษาไว้อย่างเป็นทางการ แต่จะใช้ร่วมกับสมุนไพร แพทย์แผนจีนจะแนะนำให้ผู้ป่วยดื่มรังนกเป็นอาหารเสริมเพื่อฟื้นฟูสุขภาพ เกี่ยวพันกับระบบความคิดที่เกี่ยวกับสีและธาตุ 5 ในฐานคติของชาวจีน สัมพันธ์กับความเชื่อเรื่องหยินและหยางกับสีทั้ง 5 ที่เกี่ยวข้องกันเป็นวงจร กอปรกับวัฒนธรรมการรักษาผู้ป่วยของจีนจะไม่แยกระหว่างยากับอาหารแต่จะรักษาโรคผ่านโภชนาการ

กล่าวได้ว่า กลุ่มชาติพันธุ์ต่างก็ได้สร้างและผลิตซ้ำความเชื่อในการบริโภครังนก ผ่านกระบวนการหล่อหลอมทางสังคมที่ก่อให้เกิดโครงสร้างการรับรู้และการให้ความสำคัญกับระบบคุณค่าที่เอื้อให้ผู้คนรับรู้ และเชื่อในคุณค่าและคุณสมบัติพิเศษของรังนก อันเป็นการสนับสนุนวัฒนธรรมการบริโภครังนกและระบบธุรกิจรังนก

การบริโภครังนกยุคทุนนิยมโลกาภิวัตน์หลังสมัยใหม่

ในกระแสทุนนิยมยุคโลกาภิวัตน์สมัยใหม่ อันเป็นสังคมบริโภคนิยม ผ่านการโฆษณาจากสื่อทุกแขนงได้ทำให้การบริโภครังนกไม่ได้ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ารังนกตามความจำเป็น หรือเพื่อความจำเป็นทางกายภาพเท่านั้น ทว่า การบริโภครังนกได้กลายเป็นการบริโภคความหมายเชิงสัญลักษณ์ ที่มีความเชื่อมโยงกับกระแสความเชื่อว่า รังนกเป็นอาหารพิเศษของคนรวยและกษัตริย์ หรือความเป็นคนชั้นสูงของสังคมไปพร้อมกันอย่างมีพลวัต การบริโภครังนกสมัยใหม่ได้มีการปรับเปลี่ยนการอธิบาย การให้ความหมายและคุณค่าของรังนกใหม่โดยมีการใช้ข้อมูลจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์มาสนับสนุนคุณสมบัติพิเศษของรังนก

มีข้อมูลอ้างอิงว่า สารประกอบที่สกัดได้จากรังนกนางแอ่นมีคุณสมบัติเป็นตัวยับยั้ง Haemagglutination ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังยับยั้งการติดเชื้อได้อีกหลายประการ

จากการศึกษาวิจัยในฮ่องกงพบว่า รังนกเป็นโปรตีนที่สามารถละลายในน้ำได้ ยังสามารถส่งเสริมเซลล์ภายในสร้างระบบภูมิคุ้มกันโรค เป็นไปได้ที่จะใช้รังนกต้านสารเสพติด AZT และสามารถต่อต้านภูมิคุ้มกันบกพร่องในโรคเอดส์ได้ อีกทั้งระบุว่ารังนกไม่มีผลต่อการเจริญเติบโตขึ้นของเซลล์มะเร็ง คนทั่วไปจึงสามารถกินรังนก โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีผลต่อการเติบโตของเซลล์มะเร็ง

อีกทั้งได้มีการคิดสูตรเครื่องดื่มรังนกชูกำลังเพื่อสุขภาพ สบู่รังนก เครื่องสำอาง หรือโลชั่นรังนก ตลอดถึงการคิดตำรับอาหารรังนกสูตรต่างๆ บนพื้นฐานของทรัพยากรในท้องถิ่น

การตอบโต้ ย้อนแย้ง ของวาทกรรมบริโภคความเชื่อเรื่องรังนก

แม้การบริโภครังนกจะมีความซับซ้อนกลายเป็นวัฒนธรรมการบริโภคข้ามพรมแดนทางสังคม วัฒนธรรม และความเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ กลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรม (Cultural Heritage) ทางอาหารและเป็นวัฒนธรรมสากลของคนตะวันออก (Oriental) แต่ในสังคมเฉพาะของแต่ละท้องถิ่นเองก็มีการตรวจสอบ ตอบโต้และย้อนแย้งวาทกรรมการบริโภคความเชื่อเรื่องรังนก ระหว่างฐานคิดเชิงตำนานกับฐานคิดวิทยาศาสตร์สุขภาพสมัยใหม่ไปพร้อมกัน

--------------------

เกษม จันทร์ดำ

นักวิจัยฝ่ายนโยบายชาติและความสัมพันธ์ข้ามชาติ สกว.