SELVEDGEWORK จับยีนส์มา Customized

SELVEDGEWORK เกิดจากความหลงใหลในกางเกงยีนส์และแฟชั่นของ “คุณวิชพงษ์ หัตถสุวรรณ” หรือ คุณบูม ที่บ้านเป็นผู้ผลิตกางเกงยีนส์แบบ OEM มาก่อน
คุณบูมเลือกที่จะต่อยอดธุรกิจโดยการสร้างกางเกงยีนส์ที่มีจุดเด่นคือลูกค้าเป็น designer ของกางเกงเอง คุณบูมมองว่า คนขายยีนส์ไม่ใช่คนที่จะบอกว่า ลูกค้าต้องใส่แบบใด แล้วจะสวย หากแต่เป็นลูกค้าเองที่เป็นคนเลือกเองว่าอยากใส่แบบไหน แบบไหนเหมาะกับตนเอง กางเกงยีนส์บางแบบอาจเหมาะกับรูปร่างของคนบางคน แต่ไม่ได้หมายความว่า หากเราใส่แบบนั้นแล้วจะดูสวยหรือหล่อเหมือนกัน ดังนั้นกางเกงยีนส์แบบ Customized จึงเป็นแนวคิดในการนำเสนอคุณค่า ตามแบบที่ลูกค้าต้องการขึ้นมา
คุณบูมมองว่า ในปัจจุบัน กางเกงยีนส์กลายเป็นกางเกงที่คนนิยมใช้มากขึ้นโดยเฉพาะลูกค้าผู้ชาย ดังนั้นการลงทุนให้กับกางเกงยีนส์ดีๆ ซักตัวปัจจุบันเป็นอะไรที่ลูกค้าให้ความสำคัญ ดังนั้น SELVEDGEWORK เน้นถึงการให้ความสำคัญของคุณภาพที่ดีที่สุด ซึ่งสิ่งที่จะสะท้อนถึงคุณภาพได้นั้น เริ่มต้นจาก Material ที่ใช้ในการตัดเย็บ ตลอดจนฝีมือในการตัดเย็บจนเกิดเป็นกางเกงยีนส์หนึ่งตัว เพื่อให้ตรงตามโมเดลธุรกิจที่ว่า ต้องการเป็นผู้ผลิตกางเกงยีนส์ที่ดีที่สุด
ที่ SELVEDGEWORK นั้น คุณบูม ออกแบบร้านให้เป็นเหมือนการทำ Workshop แบบง่ายๆ เริ่มต้นที่ลูกค้าเลือกทรงของกางเกงยีนส์ที่ต้องการ เช่น ทรง Super Skinny, Skinny, Slim และ Straight ต่อด้วยขั้นตอนของการเลือกเนื้อผ้า โดยเนื้อผ้านั้นถือเป็นหนึ่งในหัวใจของการสะท้อนถึงคุณภาพของกางเกงยีนส์ คุณบูมสั่งผ้าจากโรงงานที่ขึ้นชื่อว่า ดีที่สุดในอเมริกา คือ Cole ซึ่งเป็นโรงงานที่มีอายุมากกว่าร้อยปี และเป็นโรงงานที่ผลิตผ้ากางเกงยีนส์ริมแดงให้กับแบรนด์ชั้นนำอย่าง Levi นอกจากนั้น คุณบูม ยังเลือกใช้ Supplier เป็นโรงงานผลิตชื่อดังจากอิตาลี ญี่ปุ่น และ Supplier ที่ดีที่สุดในประเทศไทย อีกด้วย ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความชอบและความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้า
คุณบูมเล่าว่า กว่าที่จะซื้อผ้าจาก Supplier ชั้นนำเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่เกิดจากการสร้าง Profile และการบินไปเจรจาอยู่หลายรอบ เพื่อสร้างความเชื่อใจและมั่นใจให้กับ Supplier เหล่านี้
สำหรับเนื้อผ้าของ SELVEDGEWORK มีตั้งแต่ 9 oz จนถึง 16.7 oz โดยผ้าที่เลือกใช้เป็นผ้าริม หรือที่เรียกว่า SELVEDGE ซึ่งเป็นผ้าที่ทอมาจากเครื่องจักรในยุคเก่า ซึ่งแตกต่างกันในเรื่องของความคงทน และปริมาณการผลิตที่น้อยกว่าของผ้า เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องจักรทอผ้ายีนส์สมัยปัจจุบัน
นอกจากการให้ความสำคัญของเนื้อผ้าแล้วนั้น ลูกค้าของ SELVEDGEWORK จะได้กางเกงที่เป็นเหมือนงานฝีมือ เนื่องจาก คุณบูม เลือกใช้ช่างเย็บที่มีฝีมือดีมาทำกางเกงหนึ่งตัว โดยเน้นถึงรายละเอียดของการเย็บในจุดต่างๆ อย่างพิถีพิถัน และในการฟอกสีกางเกงนั้น ช่างจะทำทีละตัว โดยใช้ฝีมือในการขัดสี ให้ออกมาสวยงาม นอกจากนั้นหากลูกค้าต้องการเพิ่มรอยขาด ก็สามารถสั่งทำได้ตามที่ต้องการ
หลังจากที่ได้ลูกค้าเลือกทรงของกางเกง และเนื้อผ้าที่ถูกใจได้แล้ว ขั้นตอนถัดมาลูกค้าจะสามารถเลือกสีของเส้นด้ายในการเย็บได้ตามความชอบใจ ซึ่งมีให้เลือกกว่า 20 สี นอกจากนั้น ลูกค้ายังสามารถเลือกกระดุมตอก หมุด ป้ายหนัง และป้ายโลโก้ ตามแบบที่ SELVEDGEWORK ออกแบบไว้ รวมไปถึงลูกค้ายังสามารถสร้างความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองได้โดยการสั่งยิงเลเซอร์เป็นตัวอักษรระบุชื่อ ตามที่ต้องการได้อีกด้วย
สำหรับเรื่องราคาของกางเกงนั้น มีราคาตั้งแต่ 6,900-15,000 บาท ขึ้นกับผ้าและวัสดุที่เลือกใช้ ปัจจุบัน SELVEDGEWORK เปิดให้บริการที่ สยามสแควร์ซอย 2 และที่ Pop up store ที่ EmQuartier สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ก็สามารถสั่งซื้อกางเกงยีนส์ของ SELVEDGEWORK ได้ผ่านทางหน้า website ได้อีกด้วย
กรณีศึกษาของ SELVEDGEWORK นั้นสะท้อนถึงโมเดลธุรกิจที่ การเลือกนำจุดแข็งที่มีแตกต่างจากคู่แข่งอื่นๆ มาใช้ให้เป็นประโยชน์คือ การต่อยอดจากธุรกิจเดิม ทำให้เริ่มต้นจากการมีความรู้ต่างๆ ของสินค้าอย่างถ่องแท้ การเลือกจุดแข็งที่มีมาต่อยอดให้เกิดความแตกต่างผ่านทางการ Customized อันเป็นคุณค่านำเสนอให้กับลูกค้า กลายเป็น Unique selling point ที่ยากกับการเลียนแบบจากคู่แข่งอื่นๆ







