อย่าเป็น “หัวหน้าที่ดี” แต่เป็น “ผู้จัดการที่แย่”

คนที่มีลูกน้อง อยากเป็นหัวหน้าหรือผู้นำที่ดีกันแทบทั้งนั้น แต่ส่วนมากก็จะติดกับดักของคำว่า “หัวหน้าที่ดี” ด้วยความเชื่อผิดๆ ดังนี้..
หัวหน้าที่ดี คือ คนที่พยายามเอาอกเอาใจ ไปจนถึงตามใจลูกน้องแทบทุกคน เพื่อให้ทุกคนรัก!
หัวหน้าที่ดี คือ คนที่ "คิดแต่ไม่กล้า" ว่ากล่าว ตักเตือน หรือลงโทษ เพราะกลัว "ลูกน้องไม่รัก”
หัวหน้าที่ดี คือ คนที่ปกป้องลูกน้องทุกอย่าง ทุกเรื่อง ไม่ว่าลูกน้องจะทำผิดหรือไม่ก็ตาม ถึงแม้เรื่องที่ผิดและพลาดจะก่อให้เกิดความเสียหาย “อย่างร้ายแรง” กับหน่วยงาน กับองค์กร กับ ลูกค้า ก็จะขอปกป้องสุดชีวิต ประเภท “ลูก
น้องข้า..ใครรอย่าแตะ!” เสมือนว่า “เกิดมาเพื่อกันและกัน” ปานนั้น!
หัวหน้าที่ดี คือ คนที่ไม่เคยฝึกและพัฒนาลูกน้องเลย เพราะกลัวลูกน้องจะคิดมาก หาว่าไปจ้ำจี้จ้ำไช ไปดูถูกลูกน้องทางอ้อมว่ายังไม่เก่ง และลูกน้องแต่ละคนก็พอใช้ได้อยู่แล้ว อย่าไปฝึกฝนให้อึดอัดกันทั้งฝ่ายน่าจะดีกว่า!
ทุกวันนี้เราจึงพบเห็น หัวหน้าที่ดีประเภทนี้จำนวนมากอยู่ในทุกองค์กร..แต่ละคนล้วนเป็น “หัวหน้าที่ดีในความคิดของตัวเอง” ทั้งนั้น และแทบทุกคนก็ล้วนเป็น “ผู้จัดการที่แย่” ในสายตาของผู้บริหารและลูกน้อง โดยไม่รู้ตัว!
ในสายตาของ “ลูกน้อง”..หัวหน้าที่พยายามเอาใจ หรือตามใจลูกน้อง จะไม่เคยได้ใจลูกน้องเลยซักคน! เพราะลูกน้องก็มองออกว่า หัวหน้าที่ตามใจก็เพราะกลัวว่าใครๆ จะไม่รัก เลยตามใจไปทั่ว บริหารแบบมั่วไม่มีหลัก!
ในสายตาของลูกน้อง..หัวหน้าที่ได้แต่ “คิดแต่ไม่กล้า” ว่ากล่าวตักเตือน หรืออย่างมากก็แค่บ่นไปวันๆ ยิ่งเป็นผู้จัดการ หรือผู้นำที่ “ขี้ขลาด” กลัวลูกน้อง ยิ่งทำให้ลูกน้องได้ใจ สามารถก่อเรื่องผิดพลาดได้จน “เรื่องผิดพลาดกลายเป็น
เรื่องปกติ” ของหน่วยงาน ลูกน้องก็จะยิ่งทั้งหย่อนทั้งยานในเรื่อง วินัยและไม่มีความรับผิดชอบ!
ในสายตาของลูกน้อง..หัวหน้าที่ปกป้องลูกน้องในทางที่ผิด นอกจากจะทำให้ลูกน้องได้ใจแล้ว (ไม่ใช่ได้ใจลูกน้องนะครับ)เผลอๆลูกน้องอาจจะคิดว่า..หัวหน้านี่โง่จริงๆ เลย แค่ลูกน้องดราม่าซักนิดหน่อย หัวหน้าก็เข้าข้างสุดติ่งกระดิ่งแมว ออกหน้าชนกับทุกแผนก ถูกลูกน้องหลอกใช้ให้ไปเป็นกันชนผสมแพะรับบาปได้ทุกเรื่อง!
ในสายตาของลูกน้อง..หัวหน้าที่ไม่เคยพัฒนาลูกน้องเลย มักจะถูกมองว่าเป็นหัวหน้าที่ไม่มีกึ๋น ไม่เก่ง ไม่มีอะไรมาสอน มาชี้แนะหรือมา Coaching ลูกน้อง ปล่อยให้ลูกน้องทำงานโดยใช้ทักษะความสามารถเดิมๆ รับมือกับ ปัญหาและการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ในแต่ละวันอยู่ได้!
สรุปแล้ว หัวหน้าที่ดีแบบนี้ เป็นผู้นำที่ “ไม่ได้เรื่อง” ในสายตาของลูกน้องโดยไม่รู้ตัว เงิบมั้ยล่ะ!
ส่วนในสายตาของผู้บริหาร..หัวหน้าที่เอาใจและตามใจลูกน้อง หัวหน้าที่ไม่เคยว่ากล่าวตักเตือน ไม่เคยพัฒนาลูกน้อง
แถมยังปกป้องลูกน้องในทางที่ผิดมากกว่าถูกไปซะทุกเรื่อง เป็นหัวหน้าหรือผู้จัดการที่ แย่สุดๆ ในสายตาของผู้บริหารระดับสูง!
ถ้าลูกน้องของหน่วยงานนั้น ยังพอมีประโยชน์ ยังสร้างผลงานหรือสร้างรายได้ให้กับองค์กร ผู้บริหารระดับสูง ก็จะปล่อยเอาไว้ก่อน แล้วจะค่อยๆ ปรับเปลี่ยน หาคนมาแทนหัวหน้าแบบนี้ในอนาคตแบบไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อม แต่ถ้าหน่วยงานนั้น ผลงานเละเทะ มีแต่ปัญหา ผู้บริหารระดับสูงที่เก่งและเฉียบขาด จะเชือดหัวหน้าที่ดีประเภทนี้ให้เร็วที่สุด เพราะปล่อยไว้มีแต่จะสร้างความเสียหายหรือสร้างปัญหาให้กับหน่วยงานและองค์กร!
รู้อย่างนี้แล้ว ยังคิดจะเป็น “หัวหน้าที่ดีแต่เป็นผู้นำที่แย่” กันอีกต่อไปหรือเปล่า!?
ถ้ายังคิดจะเป็น เพราะไม่กล้าเปลี่ยนไปในทางที่ควรจะเป็น ก็นับถอยหลังได้เลย ผลงานของหน่วยงานเริ่มเละเมื่อไหร่ คงได้กลับไปเป็นหัวหน้าที่ดีอยู่ที่บ้านในอนาคตอันใกล้แน่!
แต่ถ้าคิดจะเปลี่ยนก็ไม่ยากครับ เริ่มที่...
“เลิก" คาดหวังหรือพยายามทำให้ลูกน้องทุกคนรัก เพราะเสียเวลาเปล่าและเป็นไปไม่ได้!
“เริ่ม” คิดและทำสิ่งที่ถูกต้อง ถึงบทบาท-หน้าที่ของ ผู้นำหรือหัวหน้า สิ่งที่ต้องทำมีอะไรบ้าง? สิ่งที่ไม่ควรทำ (อย่างที่เราทำมันมานานแล้ว) มีอะไรบ้าง?
สิ่งที่ควรทำ ทำแล้วอาจไม่ถูกใจลูกน้องบ้าง ก็ต้องอธิบายและสื่อสารให้ลูกน้องแต่ละคนเข้าใจ ทุกอย่างที่ทำ ทำเพื่อผลประโยชน์ร่วมของหน่วยงาน องค์กร สุดท้ายจะกลับมาที่ทุกๆ คนเองถ้าทุกคนทำสิ่งที่เป็นหน้าที่ และเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
หลังจากนั้น ก็หาวิธีพัฒนาลูกน้องแต่ละคน และให้ย้ำตลอดเวลาว่า ทุกอย่างที่เรากำลังทำ ทำเพื่อให้ทุกคนได้รับประโยชน์ในระยะยาว ไม่ใช่มองผลประโยชน์ระยะสั้น ต่อไปจะเอาตัวไม่รอด ฯลฯ
อย่าลืมว่า หัวหน้าหรือผู้จัดการ เป็นคนที่อยู่ตรงกลางระหว่างลูกน้องกับผู้บริหารระดับสูง เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ท่านยังเป็น “หัวหน้าที่ดีแบบไม่ฉลาดในสายตาของลูกน้อง” และ “เป็นผู้จัดการที่แย่ในสายตาของผู้บริหารระดับสูง”
เมื่อนั้นก็ควรถึงวันให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทนท่านได้แล้วครับ!







