หา Blue Ocean จากหุ้น IPO

หา Blue Ocean จากหุ้น IPO

แนวคิด Blue Ocean คือการหาตลาดที่ยังมีการแข่งขันไม่มากนัก ผู้ที่อยู่ในตลาดสามารถกำหนดราคาที่มีกำไรสูงได้

ซึ่งต่างจากตลาด Red Ocean เหมือนท้องทะเลที่แดงฉาน ซึ่งมีการแข่งขันสูง เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง

ประเด็นคือ เราจะวัดการแข่งขันในตลาดหรือแต่ละอุตสาหกรรมอย่างไร

นักเศรษฐศาสตร์มีเครื่องมือวัดการแข่งขันที่เรียกว่า Herfindahl Index ซึ่งเป็นการวัดสัดส่วนผลรวมของส่วนแบ่งตลาดของบริษัทใหญ่ 50 อันดับแรกในอุตสาหกรรมนั้นกับมูลค่าตลาดรวมทั้งหมด ถ้าค่านี้เข้าใกล้ 1 แสดงว่าตลาดนั้นถูกบริษัทใหญ่คุมเบ็ดเสร็จ แต่ถ้าใกล้ศูนย์คือเป็นอุตสาหกรรมที่ยังไม่มีรายใดผูกขาด ถ้าจะเทียบไปเราก็ควรเข้าสู่ตลาดที่มีค่าดัชนีนี้ใกล้ศูนย์ ยกเว้นแต่ว่าเราจะเป็นขาใหญ่เสียเอง

แต่การหาข้อมูลส่วนแบ่งมูลค่าตลาดอาจเป็นเรื่องยาก และไม่เป็นปัจจุบัน ตลาดหุ้นจึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เราสามารถได้ข้อมูลที่รวดเร็วกว่า

ลูกศิษย์ของ คุณเบญจวรรณ มากมี สนใจดูผลกระทบของหุ้นแรกเข้าตลาด IPO ต่อราคาของหุ้นตัวอื่นในตลาดซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน

สมมติฐานของเบญจวรรณนั้นง่ายมาก ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะมีได้สองแบบ แบบแรก ราคาหุ้นอื่นขึ้น แสดงว่าตลาดนั้นยังเป็น Blue Ocean การเข้ามาของคู่แข่งทำให้ตลาดคึกคักขึ้น สร้างการรับรู้ของตลาด เป็นผลดีต่อภาพรวม เราควรเข้าอุตสาหกรรมกลุ่มนี้ ส่วนอีกแบบคือราคาหุ้นอื่นลดลง บ่งชี้ว่าการแข่งขันในตลาดดุเดือดอยู่แล้ว ผู้เล่นใหม่จะเข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดที่น้อยนิดไปอีก

จากการเก็บข้อมูลหุ้น 118 เหตุการณ์ มาศึกษาโดยสกัดผลกระทบจากสภาวะตลาดหุ้นออก เราพบว่าอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ของไทยนั้นเป็น Red Ocean ยกเว้นในกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งยังมีช่องว่างอยู่

ผมลองค้นเน็ตดู พบงานวิจัยที่ศึกษาผลกระทบจากการออกหุ้น IPO ต่อคู่แข่งในธุรกิจเดียวกันที่คล้ายกัน เช่นงานของ Bouzaidi (2013) ซึ่งใช้ข้อมูลบริษัทในฝรั่งเศส ผลการศึกษาพบว่าหุ้นคู่แข่งจะได้รับผลกระทบทางลบ แสดงว่าตลาดมีการแข่งขันกันมากอยู่แล้ว

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ เขาค้นลึกลงไปก่อนออก IPO ซึ่งบริษัทต่างประเทศโดยทั่วไปจะมีนักลงทุนนางฟ้า (Angel Investor) หรือกองทุนส่วนบุคคล (Venture Capitalist) ช่วยฟูมฟักในช่วงต้นก่อน ประเทศไทยขาดสิ่งเหล่านี้อยู่ ผลการศึกษาพบว่าถ้าบริษัทเข้าใหม่มีแบ๊คหนุนหลังที่เป็น VC ที่มีชื่อเสียงจะยิ่งทำให้ราคาหุ้นคู่แข่งตกลงมากขึ้น นั่นคือตลาดเชื่อว่าบริษัทที่เข้าใหม่จะมีอนาคตสดใส จึงเป็นเรื่องน่าคิดต่อไปในการสนับสนุนธุรกิจไทย