Personal Branding ในแบบ Style ตัน อิชิตัน

ถ้าเราลองมาไล่ดูว่า Facebook ของคนไทยที่มียอด Follow สูงสุดนั้นเป็นใครกันบ้าง ?
อันดับหนึ่งคือ มาริโอ เมาเร่อ หรือ พี่มาก พระโขนง พระเอกพันล้านนี่เอง มีคน Follow ถึง 6.7 ล้านคน อันดับสองคือ ตัน ภาสกรนที หรือ ตัน อิชิตัน มีคน Follow ถึง 5.7 ล้านคน ตัวเลขห่างกันไม่เยอะ แต่ด้วยความหล่อ ความดัง ในฐานะพระเอกอย่างมาริโอ มีคนมาตาม Follow เยอะขนาดนั้นก็ไม่น่าแปลกใจ
ในทางตรงข้ามคุณตันนี่สิครับ มีอะไรน่าสนใจนักหนาจึงสามารถทำให้คนมาตาม Follow ได้มากมายขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมียอดกด Like ตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักหลายล้าน เราคงต้องมาลองวิเคราะห์กันดู นะครับว่าคุณตัน มีวิธีคิด และมีวิธีการทำการตลาดบนโลกโซเชียลอย่างไร จึงประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้
1) Story Teller คุณตันเป็นนักเล่าเรื่องที่เก่งมากครับ ถอดแบบจากนักเล่าเรื่องอย่าง โน๊ต อุดม มาเลย จะพูดจะเล่าเรื่องอะไรก็รู้สึกสนุกไปหมด แค่ดูภาพก็ขำแล้ว เป็นคนที่สร้าง Content ได้ดีจนคนต้องคอยตามอัพเดทเรื่องราวตลอด
2) Unique Character ถ้าคุณตันผูกไทด์ใส่สูทก็คงเหมือนๆ นักธุรกิจทั่วไป คนคงจำแกไม่ได้ หน้าตาไม่ได้หล่อเร้าใจหรือเด่นสะดุดตาขนาดนั้น จะไปแข่งกับดาราสมัยนี้ก็คงเป็นเรื่องยาก แต่เลือกที่จะสร้างคาแรคเตอร์ของตัวเองให้โดดเด่น ด้วยเสื้อผ้าสีเจ็บๆ สวมหมวกกัปตันเรือให้เป็นภาพจำของตัวเอง ไปไหนมาไหนก็แต่งตัวแบบนี้ จนคนจำได้ว่า ถ้าเป็นคุณตันตัวจริงต้องใส่หมวกกัปตันเรือสีขาวคู่กับกางเกงสีสันแสบตาเท่านั้น
3) Exaggerate ไม่ว่าคุณตันจะนำเสนออะไร ก็ใหญ่เอาไว้ก่อน เร้าใจได้ภาพเกินจริงเสมอ จะแจกเงิน 30 ล้านเป็นคนอื่นก็คงทำแค่ Mock Up Cheque แต่คุณตันเอาเงิน 30 ล้านมากองให้เห็นกันจะจะ บนเคาน์เตอร์ธนาคารว่าเบิกเงินรอพร้อมแจกแล้ว หรือเอาทองคำแท่งน้ำหนักเป็นหลายร้อยบาทมากองใส่ท้ายรถ Porsche พร้อม Act ท่าสนุกๆ ดึงดูดคนดูได้อย่างดีเยี่ยม ยิ่งภาพคุณตันขอเงินภรรยา 90 ล้านไปแจก
กลับกลายเป็นภาพจำ กลายเป็นไฮไลต์จนคนกดไลท์ไป 2 ล้านกว่าไลท์
4) Fast Updated อัพเดทรวดเร็วทันทีเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ตอนนี้กระแสบอลโลกกำลังมา ก็มีมุกมาเล่นทุกวัน ตอนที่เชียงรายประสบภัยแผ่นดินไหว คุณตันก็ไปช่วยก่อนใคร ตอนมหาอุทกภัยน้ำท่วม คุณตันก็ยังออกไปช่วยเหลือคนอื่นก่อนที่จะช่วยตัวเองเสียอีกทั้งๆ ที่โรงงานของตัวเองก็จมน้ำไปแล้ว แถมยังมีวิธีเล่าเรื่องสนุกสนานตามแบบฉบับคุณตันอีกต่างหาก
5) Family คุณตันเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวและลูกๆ ด้วยแง่มุมที่น่ารัก ทำให้คนอ่านมองข้ามในมุมการใช้ Facebook ในเชิงการตลาด เพราะคุณตันเล่าเรื่องครอบครัวไปด้วยเสมอ มุมเปิ่นๆ ของตัวเองและลูกยิ่งทำให้เห็นว่าคุณตันก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งนั่นเอง โดยเฉพาะการที่คุณตันแสดงให้เห็นเสมอว่าก่อนจะทำอะไรต้องขออนุญาตภรรยาเสียก่อน เช่น ขอเงิน 500 บาท ขอออกไปเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆ ต้องกลับบ้านดึก หรือ กลับบ้านดึกแล้วโดนภรรยาต่อว่า ก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่ผู้ชายปกติอย่างเช่นนักธุรกิจ หรือแม้แต่นายทหารใหญ่ซึ่งอาจจะเกรงใจภรรยามากกว่า ไม่กล้ามาแสดงออกให้เห็นในมุมสาธารณะขนาดนี้
ผมคิดว่าคุณตันใช้ประโยชน์จาก Facebook ได้เกินคุ้ม ถ้าคิดเป็น Media Value แล้วคุ้มค่ากว่าการซื้อโฆษณาหรือ TVC เป็นไหนๆ ลงก็ลงฟรีไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย คนที่ตาม Follow คุณตันมีมากกว่ายอดพิมพ์ของหนังสือพิมพ์ทั้งประเทศรวมกันเสียอีก เรียกได้ว่าแทบไม่ต้องพึ่งสื่ออีกต่อไปแล้ว
ซูเปอร์ตันสุดยอดจริงๆเลยครับว่าไหม ?







