กทม.เร่งลดผลกระทบ ระบบนิเวศน์"สวนลุมพินี"

แม้จะผ่านมาหลายม็อบสำหรับพื้นที่สวนลุมพินี สวนสาธารณะแห่งแรกใจกลางกรุงเทพมหานคร ที่มีอายุถึง 89 ปี
แต่ต้องยอมรับว่าในการเข้าใช้พื้นที่ เพื่อทำกิจกรรมทางการเมืองของกลุ่มกปปส. ซึ่งทางกทม. ประเมินว่าน่าจะมีผู้ชุมนุมที่ใช้ชีวิตกินนอนอยู่ที่นี่มากกว่า 5,000 รายต่อวัน และยังไม่นับจำนวนผู้ที่เดินทางแบบไปกลับอีกจำนวนมาก ก็อาจต้องมีผลกระทบเกิดขึ้นบ้างเป็นธรรมดา
" เราเริ่มมองเห็นเกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ของสวนลุมพินีเกิดขึ้นบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเต่านับ 100 ตัวที่เกิดอาการเครียด จนไม่กล้าขึ้นจากสระน้ำและบางตัวจมน้ำตาย เช่นเดียวกับปลาที่เริ่มเกิดอาการลอยหัว เพราะปริมาณออกซิเจนในสระน้ำลดลง เช่นเดียวกับเจ้าตัวเงินตัวทอง ก็อาจจะตื่นคนจนมุดอยู่แต่ในท่อ ไม่คอยปรากฏตัวให้เห็นบ่อยนัก ขณะที่ต้นไม้ขนาดใหญ่ เช่น จามจุรี ต้นลานเก่าแก่ อาจจะไม่เกิดปัญหานัก มีเพียงหญ้าที่อาจจะตายไปบ้าง"
น.ส.ตรีดาว อภัยวงศ์ สุขุม ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะโฆษกของกรุงเทพมหานคร บอกถึงสภาพปัญหา
เธอบอกว่า เบื้องต้นกทม.ได้วางมาตรการลดผลกระทบทางระบบนิเวศน์ และแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม เพื่อไม่ให้ปัญหาหมักหมมจนแก้ไม่ได้ โดยในส่วนของเต่าจะสร้างแพกลางน้ำ เพื่อให้พวกมันขึ้นมาบนบก แทนที่จะต้องมาบริเวณสนามหญ้าริมสระน้ำที่มีการตั้งเต็นท์ของชาวบ้าน
นอกจากนี้จะมีการติดตั้งเครื่องเติมอากาศในน้ำ อีก 6 จุด และติดตั้งระบบสูบน้ำเสีย 2 จุดในบริเวณทางเข้าสวนลุมประตู 1 และประตู 6 เพราะระบบน้ำที่มีพื้นที่รวมกันราว 90 ไร่ของสวนลุมพินี เป็นระบบปิด ทำให้เวลามีการซักล้าง และอาบน้ำ จึงลงไปอยู่ในระบบน้ำของที่สวนลุม จึงเสี่ยงที่จะเกิดน้ำเสียได้ง่าย โดยจะมีการใช้จุลินทรีย์ปรับน้ำเสียที่สนับสนุนจากกลุ่มสิ่งแวดล้อมของกปปส. ที่นอกจะช่วยกันลดผลกระทบ อาทิ ใช่กระทงกระดาษแทนกล่องโฟม ช่วยกันดูความสะอาด เป็นต้น
" เราไม่ได้ปิดกั้นการเข้ามาใช้พื้นที่ในการทำกิจกรรมของทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นอะไร หรือการเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกาย เพียงแต่ว่าเมื่อเริ่มเจอปัญหา กทม.ก็ต้องวางมาตรการลดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ของสวนเก่าแก่แห่งนี้ " เธอระบุ
กระนั้นก็ตาม ผู้เขียนยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาในการไม่เคารพสิทธิในการแสดงออกทางการเมือง ของทุกฝ่าย เพียงแต่มองในฐานะของ "คนสิ่งแวดล้อม" ที่อยากเห็นความคงอยู่ของสวนเก่าแก่พื้นที่ 360 ไร่ของกทม. แห่งนี้
รวมทั้งอยากเห็นเจ้ายักษ์ "จระเข้น้อย" ผู้เคยโด่งดังในสวนสาธารณะใจกลางกรุงเทพมหานครแห่งนี้ เพราะมันเป็นสัตว์ป่าเพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถปรับชีวิตอยู่ท่ามกลางตึกสูงที่รายรอบ จนกระทั่งถูกนำเสนอในสำนักข่าวต่างประเทศเมื่อหลายปีก่อน
รวมทั้งอยากเห็นนกขมิ้น นกตีทอง นกสาลิกา และผีเสื้อ และแมลง บินไปมาโดยไม่ต้องอพยพไปไกล เพราะพวกมันคือ "ของขวัญทางธรรมชาติ" ที่หาดูได้ยากในกรุงเทพมหานคร
และสุดท้ายอยากเห็นความสงบ ที่จะกลับมา...







