นักกีฬาไทยใน Winter Olympic ที่ทุกคนอยากเห็น

เรามีนักกีฬาที่มีความสามารถเทียบเคียงกับเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน หรือแม้กระทั่งประเทศมหาอำนาจระดับโลกในจำนวนที่มากขึ้นและหลากหลายประเภทกีฬามากขึ้น

ใครจะเคยคิดครับว่าเราจะเคยมีนักเทนนิสที่เคยรั้งอันดับต้นๆ ด้วยตัวเลขหลักเดียวของการจัดอันดับโลก หรือใครจะเคยคิดครับว่าเราจะมีนักกอล์ฟฝีมือดีที่เข้าร่วมการแข่งขันและเป็นคู่แข่งที่ไม่น้อยหน้าบรรดานักกอล์ฟจากทางฝั่งยุโรปและอเมริกา ซึ่งความสำเร็จที่เกิดขึ้น ล้วนเกิดจาก "ความทุ่มเท"

แต่ถ้าเราพูดถึงในระยะหลังๆ ด้วยภาพลักษณ์ของกีฬาที่เริ่มถูก commercialized เสียจนกลายเป็น sport entertainment และทำให้นักกีฬาเริ่มมีสถานะไม่ต่างกับ celebrity ดาราแต่อย่างใด รวมถึงการที่องค์กรเอกชนที่มองหาโอกาสทางการตลาดต่างๆ เริ่มเข้ามามีบทบาทในการเป็นสปอนเซอร์และช่วยต่อยอดในเรื่องของ network ทำให้นักกีฬาไทยเรามีโอกาสต่อยอดสูงขึ้น นี่คือสิ่งที่ผมคิดว่ากำลังสร้างให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างที่ผมอยากแสดงความคิดเห็น

ผมขอยกตัวอย่างจากกีฬาที่ใกล้ตัวก่อน ถ้าท่านผู้อ่านติดตามกีฬาฟุตบอลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเราก็จะพอทราบดีว่าบางประเทศเพื่อนบ้านของเรามีการนำนักกีฬาที่มิใช่เชื้อชาติของตนมาเปลี่ยนสัญชาติเพื่อให้สามารถทำการแข่งขันให้กับทีมชาตินั้นๆ เช่น สิงคโปร์

ดังนั้น จึงไม่แปลกที่เราจะเห็นฝรั่งผมสีทองเล่นให้กับทีมชาติสิงคโปร์ในหลายๆ ปีที่ผ่านมา นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผิดครับ เพราะโดยหลักการหลายๆ ประเทศก็ทำกัน แต่สำหรับผม คนที่เติบโตมากับกีฬา และยังเล่นกีฬาด้วยใจรักมาตลอดคิดว่า "ไม่เห็นด้วย"

ลองนึกภาพ ถ้าหากท่านผู้อ่านเป็นคนที่เกิดและเติบโตในประเทศไทย มีสัญชาติไทยเต็มร้อย และท่านเป็นนักกีฬาที่มีใจรักในกีฬาประเภทที่ท่านถนัด และทุ่มเทกับการฝึกฝนและฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อที่จะได้มีโอกาสเป็นตัวแทนของประเทศในการแข่งขันกีฬาระดับโลกอย่างเช่นโอลิมปิก แต่โอกาสของท่านในการได้เป็นตัวแทนประเทศต้องไปแย่งชิงโควต้ากับนักกีฬาที่มีสัญชาติไทยในทางนิตินัย แต่อาจมิได้เกิด เติบโต หรือมีความผูกพันกับประเทศไทย ท่านจะรู้สึกอย่างไรครับ

ท่านผู้อ่านคงพอทราบว่า มหกรรมกีฬาโอลิมปิก จะมีทั้งโอลิมปิกฤดูร้อน ที่เราคุ้นเคยกันดี ล่าสุดจัดที่กรุงลอนดอน และโอลิมปิกฤดูหนาว ซึ่งกำลังจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยจะจัดขึ้นที่เมืองโซชิ สหพันธ์รัสเซีย สำหรับเราๆ ท่านๆ อาจจะไม่ให้ความสำคัญกับการแข่งขันโอลิมปิดฤดูหนาวนี้เสียเท่าไหร่ เนื่องจากประเทศไทยเราตั้งอยู่ในซีกโลกเขตร้อน และกีฬาที่เกี่ยวข้องกับหิมะ หรือ น้ำแข็ง เป็นสิ่งที่ไกลตัวเราเสียเหลือเกิน

แต่มีข่าวหนึ่งที่ผมให้ความสนใจและคิดว่าท้ายที่สุดแล้วอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ไตร่ตรองให้ดีๆ นั่นคือเรื่องของมติที่ว่าจะคัดเลือกนักกีฬาคนใดเพื่อเป็นนักกีฬาไทยเพียง 1 คนในการเป็นตัวแทนคนไทยทั้งประเทศเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวในครั้งนี้

ผมได้ข่าวในช่วงแรกๆ ถึงการพิจารณาคัดเลือกนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ว่ามีชื่อของนักไวโอลินสตรีลูกครึ่งไทย-จีน ชื่อดัง วาเนสซา เมย์ เป็นหนึ่งในชื่อที่ถูกนำมาพิจารณาด้วย แต่เนื่องด้วยเธอไม่ผ่านการแข่งขันรอบคัดเลือกที่รับรองโดยสหพันธ์สกีนานาชาติ ทำให้หมดโอกาสในการเป็นหนึ่งในตัวเลือก

สำหรับผมเอง มองว่าเป็นโชคดีที่ วาเนสซา เม ไม่สามารถทำคะแนนเพียงพอในการแข่งรอบคัดเลือกได้เพราะผมคิดว่าเหตุผลที่ทางคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยจะเสนอชื่อเธอเป็นตัวแทนมิใช่เหตุผลที่ตอบเรื่องของสปิริตกีฬาอย่างแท้จริง แต่เป็นการนำตัดสินใจในเชิงพาณิชย์และภาพลักษณ์มากกว่า

ท้ายสุดผมคิดว่า เหลือนักกีฬาเพียง 2 คนที่มีโอกาสในการได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศไทย นั่นคือนักกีฬาเลือดไทยแท้อย่าง คเณศ สุจริตกุล ที่สามารถผ่านรอบคัดเลือกสำหรับการแข่งขันสกี Alpine ประเภท Giant Slalom และ Slalom และลูกครึ่งไทย-อิตาเลียน นิโคลา ซานน์ ที่ผ่านรอบคัดเลือกสำหรับประเภท Slalom

ผมไม่สามารถบอกได้หรอกครับว่าสำหรับนักกีฬาทั้ง 2 คนที่เหลือให้เลือก ใครดีกว่าใคร และไม่สามารถบอกได้ว่าทั้งสองมีความมุ่งมั่นและทุ่มเทต่างกันมากน้อยแค่ไหน ด้วยข้อมูลที่มีน้อยเหลือเกิน แต่ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านคงทราบดีเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ว่าผมอยากให้คณะกรรมการโอลิมปิกเลือกใคร

ถ้าเราอยากจะมีตัวแทนจากประเทศไทยสักคนเดินถือธงไตรรงค์โบกสะบัดในมหกรรมกีฬาฤดูหนาวที่มีน้อยคนนักที่จะคิดว่าประเทศอย่างเราจะส่งผู้ร่วมเข้าแข่งขันด้วย ผมเชื่อว่าคงมีหลายๆ ท่านอยากเห็นชื่อของคนไทยแท้ๆ ที่มีความผูกพัน และมีพันธะในการเป็นตัวแทนคนไทยด้วยเลือดไทย 100%

ท้ายสุดนี้ ผมก็หวังว่าตัวเลือกที่ทางคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยจะเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยไปร่วมการแข่งขันในครั้งนี้จะเป็นตัวเลือกที่เราทุกคนอยากเห็นครับ