Make me a German

Make me a German

พื้นฐานการใช้ชีวิตของคนเยอรมันโดยทั่วไป เคารพกฎระเบียบวินัยและมีความอดทนสูง จริงจังในหน้าที่การงาน มีความรับผิดชอบสูง

ในยุคที่ภาคการส่งออกของประเทศเราเฟื่องฟู ผมเชื่อว่า บริษัทส่งออกหลายๆ แห่งในเมืองไทย ได้มีโอกาสเรียนรู้อุปนิสัยใจคอของลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะลูกค้าจากประเทศเยอรมนี และด้วยความที่อุปนิสัยใจคอของคนไทย ซึ่งมีความแตกต่างหรือแทบจะตรงกันข้ามกับคนเยอรมันในทุกๆเรื่อง ในวันนั้น เราอาจจะไม่ชอบที่จะทำการค้ากับคนเยอรมันที่เข้มงวด จู้จี้ ไม่พูดเล่น จริงจัง เอางานเอาการ ต่อรองราคาเก่ง ชอบตั้งกฏกติกา สัญญาก็มีค่าปรับต่างๆหยุมหยิม ถ้าหากคุณภาพไม่ได้มาตรฐานหรือการส่งมอบไม่ทันกำหนด จนดูเหมือนจะเป็นการเอาเปรียบตลอดเวลา แต่เมื่อมาถึงวันนี้แล้ว ประสบการณ์และบทเรียนในอดีตกลับสอนให้เราได้รู้ซึ้งว่า เราอยากจะเป็นแบบคนเยอรมัน

เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ทำไมวันนี้ เยอรมนีถึงได้เป็นพี่เบิ้มของยุโรป ปัญหา Euro Zone ที่ยังประคับประคองกันอยู่ ก็อาศัยประเทศหลักอย่างเยอรมนีนี่แหละที่มีบทบาทอย่างสูงในการกำหนดกรอบกติกาต่างๆ เยอรมนียังเป็นผู้นำการส่งออกอันดับสามของโลกอย่างเครื่องไฟฟ้า เครื่องซักผ้า เบียร์ Mercedes Benz รถไฟฟ้าความเร็วสูง หรือแม้แต่ความสำเร็จของทีมชาติฟุตบอลเยอรมนี เรียกได้ว่า ถึงแม้ประเทศจะประสบชะตากรรมอันเลวร้ายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เยอรมนีก็เป็นประเทศที่มีสถานะทางเศรษฐกิจที่ดีที่สุดในแถบยุโรปรวมทั้งสหราชอาณาจักร ทั้งนี้ก็ด้วย พื้นฐานการใช้ชีวิตของคนเยอรมันทั่วไปที่ใช้ชีวิตความเป็นอยู่อย่างพอเพียง รักษาเวลาเช่นเดียวกับการรักษาคำพูด ประหยัดมัธยัสถ์ รู้ค่าของเงิน เคารพกฎระเบียบวินัยและมีความอดทนสูง จริงจังในหน้าที่การงาน มีความรับผิดชอบสูงให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัวมากเป็นอันดับหนึ่ง รักพวกพ้อง รักชาติ

ขอบคุณสารคดีจาก BBC ของอังกฤษชุด “Make me a German” เป็นเรื่องของครอบครัวนักข่าวชาวอังกฤษ ที่ประกอบด้วยสามี ภรรยา และลูกน้อย ที่ยินดีจะไปใช้ชีวิตในเยอรมนีเพื่อค้นหาความลับว่า อะไรที่ทำให้ประเทศนี้ประสบความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจได้ดีขนาดนี้ สองสามีภรรยาชาวอังกฤษได้ค้นพบว่า ระดับหนี้สินต่อครัวเรือนของคนเยอรมันอยู่ในระดับต่ำมากที่สุดในยุโรป ชาวบ้านทั่วไปนิยมใช้จ่ายด้วยเงินสดมากกว่าบัตรเครดิต ธนาคารไม่อนุมัติบัตรเครดิตให้กันง่ายๆ ในขณะที่ชาวเยอรมันก็ไม่ต้องการได้บัตรเครดิตง่ายๆ เช่นกัน ทั้งยังสามารถออมเงินได้ 10% ของเงินเดือนแทบทุกคน ในขณะที่ที่อังกฤษ ผู้คนส่วนใหญ่จะออมได้แค่ 1% เท่านั้น ผู้คนส่วนใหญ่มีเงินฝากในธนาคารเป็นกอบเป็นกำทำให้ระบบการหมุนเวียนของเงินกู้กับเงินฝากสมดุลกันได้ดี คนเยอรมันไม่นิยมเอาบ้านหรือรถยนต์ไปจำนองเพื่อนำเงินมาทำธุรกิจ เพราะถือว่าเป็นความเสี่ยงที่อาจจะสูญเสียทรัพย์สินที่มีอยู่ คนเยอรมันใช้เวลาทำงานต่อสัปดาห์น้อยกว่าคนในชาติอื่นๆ ทั่วโลก แต่ได้ประสิทธิภาพมากกว่า การทำงานล่วงเวลาถูกมองว่าเป็นสิ่งไม่เหมาะสม เนื่องจากการให้เวลากับครอบครัวหลังเลิกงานถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก เวลาแปดชั่วโมงต่อวัน คนเยอรมันทำงานอย่างจริงจังในเวลางาน ไม่เสียเวลาไปกับการพูดคุยเรื่องอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับงาน อีเมลล์ส่วนตัว Facebook และโทรศัพท์มือถือ เป็นที่รู้กันว่าไม่ควรใช้ในชั่วโมงทำงาน นักข่าวชาวอังกฤษที่ไปทำงานในโรงงาน Faber & Castel ที่เยอรมนี ยังถูกต่อว่าจากเพื่อนร่วมงานทันทีที่หยิบโทรศัพท์เพื่อต้องการส่ง SMS แค่ครั้งเดียว

หญิงสาวชาวอังกฤษผู้หนึ่งยังให้สัมภาษณ์ว่า ชีวิตในที่ทำงานที่นี่เขาจริงจังกันมาก ไม่มีการพูดคุย นินทา ไม่อยากรู้อยากเห็นว่าใครเป็นแฟนใคร ใครเลิกกับใคร ใครจะไปออกเดทกับใคร ไม่แม้แต่จะเล่าเรื่องละครทีวีที่ดูเมื่อคืน เลิกงานแล้วจะไปไหน จะไปทานดินเนอร์กับใคร ก็ไม่มีการพูดคุยกัน การมาทำงานสายจะถูกมองว่าเป็นคนไม่รักษาสัญญา จะมาสายสามนาทีหรือสามสิบนาที ก็ถือว่าเป็นคนไม่มีคุณภาพเพราะขาดความเคารพต่อตัวเองและองค์กร สองในสามของคุณแม่มือใหม่จะไม่ทำงานนอกบ้าน การบอกว่าเป็น Housewife ในประเทศอื่นๆอาจจะรู้สึกเขินอายเหมือนว่าตนเองไม่มีงานทำ แต่ที่นี่มีแต่ความภาคภูมิใจหากจะได้เป็น Housewife รัฐบาลให้สวัสดิการดีกับคุณแม่ที่ต้องออกจากงาน ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้แม่ได้เลี้ยงดูลูกด้วยตนเอง การให้เวลากับลูกถือเป็นสิ่งสำคัญ ในวันอาทิตย์ ร้านรวงทั่วไปตามแหล่ง Shopping จะปิดเงียบ เพื่อให้ผู้คนส่วนใหญ่มีเวลาอยู่กับครอบครัว เมื่อสถาบันครอบครัวแข็งแรงประเทศชาติก็จะแข็งแรง

ในระดับองค์กร ในยามยากของเศรษฐกิจ บริษัทส่วนใหญ่ไม่ใช้วิธีการ Lay off พนักงาน ไม่นิยมการปลดคนงานออกแบบกระทันหัน เพื่อความอยู่รอดของบริษัท อาจจะเรียกว่าเป็นวัฒนธรรมองค์กรไปเสียแล้วที่บริษัทจะเป็นห่วงความอยู่รอดของพนักงานก่อน เพื่อที่จะได้ช่วยกันประคองให้บริษัทอยู่รอด พนักงานยินดีที่จะถูกลดรายได้อย่างพร้อมเพียงกันเพื่อให้ทุกคนอยู่ได้และบริษัทอยู่รอด สิ่งนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงการรักพวกพ้อง รักองค์กร และรักชาติในที่สุด สังเกตได้จากทีมชาติฟุตบอลของเยอรมนี จะไม่ค่อยมีดาวเด่นที่โด่งดังระดับโลก แต่ก็สามารถคว้าแชมป์โลกได้ถึง 3 สมัย ด้วยทักษะการเล่นอย่างเป็นทีมเวิร์คมากกว่าความสำเร็จจากความสามารถเฉพาะบุคคล (เข้าชม http://youtu.be/9bTKSin4JN4 Make me a German)

ใช่เลยครับ การใช้ชีวิตแบบพอเพียง ประหยัด จริงจังในหน้าที่ มีระเบียบวินัย ตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบสูง รักครอบครัว รักพวกพ้อง รักชาติ เหล่านี้ล้วนเป็นอุปนิสัยขั้นพื้นฐานที่คนส่วนใหญ่ในเยอรมนีได้ปฏิบัติสืบต่อกันมา ไม่จำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ใหม่ๆ อะไรที่แปลกแหวกแนวมากระตุ้นเศรษฐกิจให้เฟื่องฟูอย่างที่ประเทศอื่นๆ ชอบทำกัน

ผมเขียนบทความเกี่ยวกับความสำเร็จและอุปนิสัยใจคอของคนญี่ปุ่นในเรื่อง สร้างคนก่อนสร้างชาติ เมื่อเดือนมิถุนายน http://www.bangkokbiznews.com/home/details/business/ceo-blogs/boonchai/20130602/508801/สร้างคนก่อนสร้างชาติ.html วันนี้ผมเขียนถึงเยอรมนี เป็นสองชาติที่ผมชื่นชมความสามารถมากเป็นพิเศษ และก็ช่างบังเอิญจริงๆที่คู่แข่งชั้นนำของวงการชุดชั้นในสตรีระดับโลกก็เป็น Brand ของสองประเทศนี้เช่นกัน วันนี้ได้โอกาสบอกกล่าวกับพนักงานคนไทยของผมทุกคนว่า เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองและทำได้อย่างเขาหรือไม่