เรามีแต่ข้อมูลและแผน แก้ปัญหาจราจรกรุงเทพฯ

เรามีแต่ข้อมูลและแผน แก้ปัญหาจราจรกรุงเทพฯ

กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ในฐานะที่ดูแลการจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กำลังจะบังคับใช้กฎหมาย

อย่างเด็ดขาดในการแก้ปัญหาจราจร หลังจากที่สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานว่ากรุงเทพฯ เป็นเมืองที่จราจรติดขัดเป็นอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งไม่ว่ารายงานดังกล่าวจะถูกต้องตามข้อเท็จจริงหรือไม่ แต่คนที่อยู่ในกรุงเทพฯ ก็รับรู้ถึงภาวะการจราจรติดขัดเป็นอย่างดี และเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นสั่งสมมานานโดยไม่มีการแก้ปัญหาระยะยาว

สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาของ บช.น. นั้น จะเริ่มบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างจริงจังกับผู้ที่ทำผิดกฎจราจร โดยจะเริ่มจากเส้นทางหลัก 10 เส้นทาง ตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. จากนั้นในปีหน้า บช.น. ก็จะประกาศให้เป็นปีบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด นอกจากกฎหมายแล้ว ทาง บช.น. ได้วางแผนระยะกลางเพื่อลดปัญหาการจราจรของกรุงเทพฯ ซึ่งล้วนแต่เป็นมาตรการที่ต้องขอความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นทั้งสิ้น ซึ่งก็หวังว่าในครั้งนี้จะได้รับความร่วมมืออย่างจริงจัง

ทั้งนี้ บช.น. ได้ยกตัวอย่างมาตรการที่จะนำมาใช้ อาทิ จัดระบบการเปรียบเทียบปรับอิเล็กทรอนิกส์ รองรับการทำงานการบังคับใช้กฎหมายเข้มข้นอีกด้วย จะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรได้ 10% ในระยะที่ 1 และ ระยะที่ 2 เพื่อให้รองรับระบบการบังคับใช้กฎหมายให้สมบูรณ์ จะมีการเสนอตั้งศาลจราจรและการจัดระบบการเหลื่อมเวลา การใช้รถใช้ถนน ซึ่งจะต้องนำเสนอรัฐบาล เชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาการจราจรได้ 15% ส่วนระยะที่ 3 หากจะแก้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ คือ ต้องผลักดันระบบขนส่งมวลชน ซึ่งจะแก้ปัญหาจราจรได้ 80-100%

หากประเมินตามการคาดการณ์ของ บช.น. สิ่งที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว คือ ระยะที่ 1-2 ซึ่งรวมแล้วจะแก้ปัญหาได้ 25% ส่วนในระยะที่ 3 เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา และไม่แน่ว่าเมื่อมีระบบขนส่งมวลชนเต็มรูปแบบตามที่รัฐบาลได้วางแผนไว้นั้น จะแก้ปัญหาการจราจรได้จริงหรือไม่ เพราะปัญหาการจราจรเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนมากกว่าแค่การบังคับใช้กฎหมาย หรือ มีระบบขนส่งมวลชนที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยมาตรการอื่นเข้ามาช่วยด้วย เช่น การวางผังเมือง ปริมาณรถยนต์ เป็นต้น

เราไม่รู้ว่ามีการประเมินโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาลกันหรือไม่ ว่ามีส่วนทำให้รถติดแค่ไหน เพราะว่าตัวเลขนับล้านคัน แม้จะกระจายทั่วประเทศ แต่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯก็ไม่ใช่น้อย ซึ่งที่ผ่านมาก็มักได้ยินเสียงบ่นว่ารถติดมากขึ้นเพราะโครงการนี้ แต่จะเท็จจริงแค่ไหนนั้นต้องมีการประเมินกันออกมาอย่างจริงจัง เพราะหากว่ามีผลจริงตามเสียงบ่นของคนใช้รถใช้ถนน ก็เท่ากับว่ารัฐบาลเป็นผู้ส่งเสริมให้รถติด โดยประเมินผลแค่ตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ แต่ไม่คำนึงถึงผลกระทบ

อันที่จริง แนวทางการแก้ปัญหาการจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ นั้น มีการพูดกันมานับสิบปีและมีการเสนอแนวทางมากมาย ตั้งแต่ระยะสั้นไปจนถึงระยะยาว บางข้อเสนอได้รับการปฏิบัติไปแล้ว แต่บางข้อเสนอเป็นเรื่องที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงเมื่อเกิดปัญหาการจราจรรุนแรงขึ้น ดังนั้น จึงไม่มีวิธีการอะไรอีกแล้วที่เป็นของใหม่ในการแก้ปัญหาจราจรของกรุงเทพฯ เพียงแต่ว่าจะวางแผนแก้ระยะยาวและเดินหน้าผลักดันโครงการอย่างจริงจังแค่ไหนเท่านั้น

เราขอชื่นชม บช.น. ที่ออกมาแก้ปัญหาการจราจรอย่างจริงจังในครั้งนี้ และก็ขอให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมากับผู้ทำผิดกฎจราจร แต่เราก็หวังมากกว่านั้น คือ ระดับรัฐบาล หรืออย่างน้อยบรรดาการปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้หลายจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ก็ประสบปัญหาไม่ต่างจากกรุงเทพฯ มากนัก ให้หน่วยงานเหล่านี้เริ่มดำเนินการอย่างจริงจัง โดยเอาบทเรียนจากกรุงเทพฯ เป็นแบบอย่าง กล่าวคือมีแต่แผน แต่ไม่เคยทำตามแผน หากไม่วางแผนตั้งแต่ต้น เราจะเห็นกรุงเทพฯ แห่งที่ 2 หรือที่ 3 ในอนาคตอันใกล้นี้