สัญญา (ทาส) ...ความจริงที่สวนทางกับทิศทางของสังคม

บ่อยครั้งที่เรามักจะได้เห็นประชาชนคนไทยลุกขึ้นมาโอดครวญกับคุณภาพการให้บริการที่ไม่สามารถเลือกสรรหรือปฏิเสธการรับบริการได้
ทั้งที่ปัจจุบันเราต่างอาศัยอยู่ในยุคของการแข่งขันทางธุรกิจ ผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการที่ได้รับจึงน่าจะเป็นไปเพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าหรือผู้รับบริการ ดังนั้น ผลกำไรจากการประกอบกิจการอันถือเป็นความสำเร็จของธุรกิจขึ้นอยู่กับความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าหรือผู้รับบริการภายใต้การบริหารจัดการด้วยต้นทุนน้อยที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ อันเป็นไปตามกฎอุปสงค์ (Law of Demand) และกฎอุปทาน (Law of Supply) ที่อธิบายถึงกลไกกำหนดความอยู่รอดขององค์กรที่ประกอบธุรกิจในเรื่องต่างๆ อย่างเป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน
แต่ด้วยเหตุผลประการใดสังคมไทยกลับมองไม่เห็นถึงความพยายามในการบริหารจัดการเปลี่ยนแปลงเพื่อยกระดับการให้บริการที่ดีให้คุ้มค่ากับราคาที่เปลี่ยนแปลงสูงขึ้นของการให้บริการบางอย่าง ทั้งที่ธุรกิจการให้บริการเป็นธุรกิจที่ต้องแข่งขันกัน เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อการดำรงอยู่ของธุรกิจต่อไปในระยะยาว
หลายกรณีที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงการฉวยโอกาสจากการสัญญาที่มีการลงนาม ที่ระบุถึงเงื่อนไขการปรับราคาจนละเลยไม่ได้ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงคุณภาพในการให้บริการ ตรงกันข้ามกับทิศทางของการให้บริการที่มีการทำสัญญาในระยะยาวที่ปกติแล้วอัตราการบริการควรจะมีแนวโน้มที่ถูกลงตามผลกำไรที่เพิ่มขึ้นตามเวลาและสภาพการใช้งานของวัสดุอุปกรณ์ที่ลดคุณภาพต่ำลง รวมถึงผลประกอบการที่ได้กำไรในช่วงแรกที่นำมาเป็นส่วนช่วยลดต้นทุนได้ในเวลาต่อมา ถึงแม้ว่าจะมีต้นทุนในเรื่องการบำรุงดูแลรักษาที่เพิ่มมากขึ้นก็ตาม
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงราคาโดยอาศัยข้อบกพร่องของสัญญา โดยการปรับราคาตามสัญญาที่บริษัทคู่สัญญาที่ชนะการแข่งขันมักจะอาศัยการแสวงหาช่องทางตามตัวบทกฎหมายที่เอารัดเอาเปรียบเพื่อให้ได้รับผลประโยชน์จากการจัดทำเอกสารสัญญาที่มีเงื่อนงำ รวมทั้งการรู้เห็นเป็นใจกับข้อเสียเปรียบในสัญญาระหว่างผู้ทำสัญญาเพื่อผลประโยชน์ในลักษณะต่างๆ จนปล่อยปละละเลยให้ประชาชนต้องรับเคราะห์กรรมจมปลักอยู่กับการให้บริการที่ไม่คุ้มค่ากับราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เช่นนี้แล้วหากสัญญาที่กำหนดไม่สามารถให้ผลตอบแทนได้ตามความต้องการของบริษัทอย่างเต็มที่ รวมถึงมีความจำเป็นต้องจ่ายเบี้ยบ้ายรายทางเพื่อให้ชนะการแข่งขันกับบริษัทอื่นๆ แล้ว ธุรกิจที่เป็นคู่สัญญาจึงเลือกที่จะลดมาตรฐานการให้บริการแก่ประชาชนผู้รับบริการ อันหมายถึงการลดต้นทุนการผลิตสินค้าหรือบริการในลักษณะและรูปแบบต่างๆ โดยที่ประชาชนอาจไม่ทราบเลยก็ได้ หากเรามองแต่เพียงผลิตภัณฑ์หรือการให้บริการโดยขาดการพิจารณาในรายละเอียดที่กำหนดถึงสภาพการให้บริการที่แท้จริงและระดับคุณภาพที่ได้รับ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วประชาชนไม่อาจทราบถึงรายละเอียดของเนื้อหาสาระเหล่านั้นได้โดยง่าย แม้ประชาชนจะมีสิทธิในการขอตรวจสอบความถูกต้องเป็นธรรมของสัญญาได้ก็ตาม แต่การขอเข้าไปตรวจสอบดังกล่าวก็ต้องประสบกับความยุ่งยากวุ่นวายด้วยระเบียบบังคับต่างๆ ที่กำหนดขึ้นมา ต้องเผชิญกับคำพูดที่ว่า “ถือเป็นความลับของทางราชการ” หรือ “สัญญาที่จัดทำขึ้นถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนระเบียบปฏิบัติของราชการแล้ว” หรือเหตุผล (ที่ไม่ค่อยจะมีเหตุผล) อื่นๆ ที่พยายามสรรหามากล่าวอ้างได้อย่างมากมายตามความประสงค์หรือสถานการณ์ในเวลานั้นๆ
แม้ว่าปัจจุบันจะมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและการรวมตัวของภาคประชาชนต่างตื่นตัวลุกขึ้นมาเรียกร้องความถูกต้องเพื่อให้ความยุติธรรมกับประชาชนในเรื่องราวลักษณะนี้ ทั้งในมิติของการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่เกิดขึ้นในสังคม แต่กลับปรากฏว่าแนวโน้มการเกิดขึ้นของปัญหาก็ไม่ได้ลดน้อยลง ยิ่งกว่านั้นการเล่นแร่แปรธาตุระหว่างคู่สัญญาก็ได้มีการพัฒนายกระดับให้ตรวจสอบความถูกต้องหรือจับข้อสงสัยที่ส่อพิรุธเป็นได้ยากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ มีบางกรณีเรารู้ทั้งรู้ว่าไม่ถูกต้องอย่างเห็นได้ชัดแต่การบังคับใช้กฎหมายก็ไม่สามารถเข้าไปจัดการได้แต่อย่างใด
ประชาชนคนไทยตัวเล็กๆ ที่ส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายจึงต้องเผชิญกับชะตากรรมกับการเล่นกับระเบียบ กฎเกณฑ์ และตัวบทกฎหมายที่มีความสลับซับซ้อนเพิ่มมากขึ้นระหว่างคู่สัญญาที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการใช้กฎหมายตรงข้ามกับสภาพจิตใจ จึงไม่อาจเรียกร้องความถูกต้องเป็นธรรมได้
... แม้ประเทศไทยจะมีการ "เลิกทาส" มาเป็นระยะเวลานานพอสมควร แต่ "ทาสย้อนยุค" ที่เกิดขึ้นในยุคสมัยปัจจุบันถือเป็นข้าทาสบริวารที่ถูกอุปโลกน์กำหนดสถานภาพและบทบาทให้อย่างไม่อาจปฏิเสธได้ โดยอาศัยการกระทำกับประชาชนเสมือนถูกมัดมือชกโดยเนื้อหาสาระของสัญญาอันเป็นไปตามเหตุผลและหลักการของตัวบทกฎหมายตามที่ผู้มีอำนาจไปตกลงสมคบคิดโดยที่เราไม่อาจรับรู้เพื่อที่จะเลือกมีส่วนร่วมในการยอมรับหรือปฏิเสธก่อนที่ผลแห่งการบังคับใช้ของ "สัญญาทาส" จะมีผลกระทบต่อความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างเราๆ ท่านๆ ได้แต่อย่างใด







