คนต้นซอย, คนปลายซอย กับปฏิบัติการ ‘สุดซอย’?

ที่จะผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรม และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามสูตรของตนเอง อย่าง “สุดลิ่มทิ่มประตู”

พร้อมๆ กับคำว่า “สุดซอย” ก็มีการกล่าวอ้างถึง คุณทักษิณ ชินวัตร ว่า หากการแก้ไขกฎหมายที่ว่านี้ไม่ได้ดั่งที่ต้องการ ก็ยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ กลับมาเดินเรื่องเดิมด้วยเสียงเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

คำปราศรัยของ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ มองโกเลีย เรื่องการเมืองในประเทศ จะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ “สุดซอย” หรือไม่ ผมไม่แน่ใจ แต่ที่ค่อนข้างจะแน่ใจ ก็คือ ทำให้ซอยนี้เกิดเสียงดังเซ็งแซ่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

การเมืองแบบ “สุดซอย” คงจะเป็นคนละเรื่องกับการเสนอให้มีการปรองดอง ซึ่งก็อาจจะเปรียบได้เหมือนกับการ “พบกันกลางซอย” และต่างคนต่างเคารพในสิทธิของการอยู่ซอยร่วมกัน และเพื่อการดำรงชีวิตอย่างเป็นปกติสุข ก็จะต้องมีกติกาของซอยที่ให้ความสะดวกและเคารพในสิทธิของกันและกันพอสมควร

หากไม่มีกติกาที่คนร่วมซอยยอมรับกันได้ ก็จะเกิดปัญหาระหว่างคนอยู่ปากซอย กลางซอย และ ปลายซอย ที่จะไปมาหาสู่กันได้ลำบากยากยิ่งขึ้น

ซอยใดที่อยู่กันได้อย่างสันติ ซอยนั้นย่อมจะต้องให้ถนนในซอยนั้นเปิดกว้างอย่างเสรีที่เป็นส่วนสาธารณะ ไม่มีเจ้าของบ้านใดหรือกลุ่มใดมายึดเป็นเนื้อที่ของตน หรือยึดพื้นที่ถนนกางเต็นท์จัดงานเป็นประจำ จนสมาชิกซอยเดียวกันไม่อาจจะเดินทางเข้าออกได้สะดวก

ในกรณีของการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนและอบอุ่นนั้น คนต้นซอยกับคนปลายซอยจะต้องเคารพในสิทธิของกันและกัน และต้องโอนอ่อนผ่อนตามกัน หากมีเหตุที่เกิดจากมุมใดมุมหนึ่งแล้วมีผลกระทบไปถึงอีกมุมหนึ่งของซอยเดียวกัน

อีกทั้งระดับของถนนตลอดซอย ก็ควรจะต้องราบเรียบเท่ากัน หาไม่แล้วหากฝนตกหนัก น้ำท่วมซอย คนต้นซอยกับคนปลายซอยก็จะรับระดับน้ำที่ต่างกัน เกิดความไม่เท่าเทียม ไม่เสมอภาคในการตั้งรับอุทกภัย ความรู้สึกไม่เป็นธรรมของคนที่อยู่คนละจุดของซอยเดียวกัน ก็จะเกิดขึ้น ความระหองระแหงก็จะตามมา

ซอยที่อยู่เย็นเป็นสุข ย่อมไม่มี “นักเลงปากซอย” หรือ “แก๊งอันธพาล” อีกทั้งจะต้องไม่มีบ่อนหรือที่ซ่องสุมของคนติดยาหรือติดการพนัน ซึ่งแปลว่า กฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์และไม่มีสองมาตรฐานในการบังคับใช้กฎหมาย

คนอยู่ซอยจึงต้องมีความอดทน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันและกัน และละเว้นกิจกรรมใดๆ ที่จะทำให้คนร่วมซอยรู้สึกว่าสมาชิกบางคนมีพฤติกรรมที่ทำให้เกิดอาการ “คับซอย”

เพราะว่านั่นจะทำให้สมาชิกในซอยต้องเดินตัวลีบ คอยหลบคนที่ตั้งตัวเป็นใหญ่ในซอยแต่เพียงคนเดียวหรือกลุ่มเดียว อันจะทำให้สังคมของซอยนั้นๆ มีอันต้องอึดอัด และนำไปสู่ความไม่มั่นคงและไร้เสถียรภาพของคนทั้งซอย

ดังนั้น ความหมายของคำว่า “สุดซอย” จึงต้องวิเคราะห์ให้จงหนัก และหากปฏิบัติการ “สุดซอย” หมายถึง การไม่สนใจว่าคนอยู่ในซอยคนอื่นๆ จะคิดอย่างไรหรือได้รับผลกระทบอย่างไร ก็จะต้องทบทวนให้รอบด้านเสียก่อน

เพราะว่าซอยนี้ค่อนข้างแคบและผู้คนค่อนข้างเบียดเสียดทางความคิดความอ่านอยู่แล้ว หากใครเร่งมอเตอร์ไซค์เสียงดังลั่นเหมือนเด็กแว้นวิ่งตะลุยสุดซอย คนร่วมซอยอื่นๆ ตั้งแต่ต้นซอยถึงปลายซอย ก็อาจจะแตกตื่นต่อต้านจนซอยแตก...ก็เป็นได้

มีใครเตือนหรือเปล่าว่า...ซอยนี้เป็น “ซอยตัน”?