สืบจาก "เพศ" ช้างตายแก่งกระจาน

สืบจาก "เพศ" ช้างตายแก่งกระจาน

ถึงจะตายไปเกือบ 1 เดือนแล้วกับกรณีช้างป่าตาย ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

แต่เรื่องราวของช้างตัวนี้ยังคงไม่จบกันง่ายๆ หลังจาก ดร.มัทนา ศรีกระจ่าง นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ สำนักวิจัยสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตั้งข้อสังเกตว่าช้างตัวนี้น่าจะเป็นช้าง "ตัวผู้" ไม่ใช่ "ตัวเมีย" อย่างชัดเจน

เธอ ได้ตั้งข้อสงสัยนี้ในเฟซบุ๊คส่วนตัวเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน พร้อมกับนำภาพข้อมูลเปรียบเทียบลักษณะบ่งชี้เรื่อง "เพศ" ที่ต่างกันระหว่างช้างตัวผู้ และตัวเมีย ในฐานะเป็นคนที่คลุกคลีทำงานกับช้างมานาน

จากข้อมูลในเฟซบุ๊ค ซึ่งนอกจากจะเปรียบเทียบด้วยภาพช้างแก่งกระจาน กับช้างสีดอตาย ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ที่ชี้ให้เห็นถึงอวัยวะ "เพศผู้" ของมันในมุมใกล้เคียงกันแล้ว ยังอธิบายข้อมูลทางวิชาการ พฤติกรรมของช้างตัวผู้ และช้างตัวเมียแม่ลูกอ่อน ที่บ่งชี้ให้เห็นถึงความแตกต่าง ซึ่งเธอยืนยันว่าช้างที่แก่งกระจานตายเป็น "ตัวผู้ 1,000%"

ข้อมูลระบุว่า ถุงหุ้มอวัยวะเพศของมัน เมื่อสังเกตจากทางด้านหลังของตัวผู้จะเรียวแหลมลงมาและวางขนานกับท้อง บางครั้งจะเห็นอวัยวะเพศของตัวผู้ออกมาจากช่องท้องด้วย นอกจากนี้ลักษณะของ "เต้านมช้าง" ในช่วงที่ให้นมลูก เต้านมจะเต่งนูนแดงขึ้นจนสังเกตได้ชัด ขณะที่ช้างที่แก่งกระจานนั้นเต้านมของมันมีลักษณะอืดบวมเพราะตายมาหลายวัน

แน่นอนว่าการออกมาแสดงความเห็นครั้งนี้ จึงท้าทายทีมพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งนำทีมโดยพล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยทีมสัตวแพทย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นอย่างมาก

แม้พล.ต.ท.จรัมพร จะให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่าไม่ติดใจอะไร และผลการผ่าพิสูจน์ก็ไม่เจออวัยวะเพศผู้ของมัน!!!

เนื่องจากก่อนการผ่าชันสูตร มีการสันนิษฐานว่าช้างตัวนี้ น่าจะเป็นช้างแม่ลูกอ่อน หรือตั้งท้อง เพราะพบมีคราบน้ำนมไหลบริเวณเต้านมก็ตาม

" ไม่มีความผิดพลาดแน่นอน เพราะเราเองก็เจอทั้งมดลูก รังไข่ของช้างตัวดังกล่าว การดูภายนอก เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ซึ่งแม้จะเห็นอวัยวะของเพศเมีย และเห็นลักษณะของช่องคลอด ที่มันจะหันด้านหลังลงมาทางด้านล่าง และต่างกับของเพศผู้ช่องเปิดจะเล็กกว่า และหันไปด้านหน้า แต่เราได้ผ่าดูอวัยวะภายใน แน่นอนว่ามีทั้งมดลูก รังไข่ แต่เมื่อมีการผ่าชันสูตรซาก ก็ไม่พบการตั้งท้อง"

รศ.สพ.ญ.ดร.นันทริกา ชันชื่อ อาจารย์คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชุดตรวจพิสูจน์ซากแก่งกระจาน ยืนยันผลตรวจพิสูจน์

" การแยกสัตว์ทุกชนิดว่าสัตว์ตัวไหนเป็นเพศผู้ หรือเพศเมีย พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ไม่ได้ดูแค่ผิวข้างนอกเพียงอย่างเดียว เราก็ควรจะดูด้วยว่ามีอวัยวะอะไรเป็นองค์ประกอบด้วย " เธอ ระบุ

กระนั้นก็ตาม แม้การแสดงความเห็นส่วนตัวของดร.มัทนา อาจทำให้เกิดความสับสนขึ้น จนถึงขั้นที่ระดับผู้หลักผู้ใหญ่ในกรมต้องออกมาติดเบรก ห้ามให้ข่าวกัน และยังต้องทำหนังสือชี้แจงต่อผู้บังคับบัญชา

น่าสนใจว่าเรื่องนี้อาจยังต้องหาคำตอบเพิ่มเติม ว่ามีอะไรที่ซ่อนอยู่ใต้ "เพศของช้าง"หรือไม่ สังคมคงต้องร่วมแกะรอย เพื่อนำไปถึงจุดจบของคดีนี้...