สูงวัยอย่างมีคุณค่า (2)

สูงวัยอย่างมีคุณค่า (2)

ต้องกล้าเผชิญความจริง ไม่ว่าอดีตจะยิ่งใหญ่เพียงใด ถึงวันหนึ่งก็ต้องเสื่อมสลาย

เปิดประเด็นเรื่องวิถีชีวิตหลังการเกษียณอายุในข้อแรกคือ การหมั่นทำงานอยู่เสมอ เพราะการหมั่นใช้ทั้งกล้ามเนื้อและสมองจะยิ่งทำให้ร่างกายมีความสมบูรณ์ทั้งกายและใจอยู่ตลอดเวลา และการทำงานเป็นกลไกสำคัญที่สุดที่สร้างความมีคุณค่าให้กับชีวิตของผู้อาวุโสเองและผู้คนรอบข้าง

มาต่อกันในประเด็นที่สอง คือ ความเป็นอิสระ รู้จักใช้ชีวิตสมัยใหม่ เช่นการขึ้นรถไฟฟ้า หรือแม้แต่การใช้งานโทรศัพท์ ที่ถือว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนขาดไม่ได้แล้วในทุกวันนี้ 

ไม่เพียงแค่การใช้โทรเข้า-ออก หรือติดตามข่าวสารผ่านโซเชียลมีเดีย แต่ต้องเรียนรู้ในการใช้งานอื่นๆ ด้วย เช่น การทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์ การเรียกรถหรือการใช้บริการสั่งซื้อของออนไลน์ ฯลฯ เพื่อลดการพึ่งพาลูกหลานลงให้มากที่สุด เพราะบริการสมัยใหม่เหล่านี้เข้าถึงได้ง่าย และมีระบบอำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุเป็นอย่างดี

ประเด็นที่สาม ต้องรู้จักความยืดหยุ่นและหาความพอดีในการใช้ชีวิต เพราะบางครั้งประสบการณ์ชีวิตที่มากกว่าผู้อื่นมักทำให้ผู้สูงอายุหลายคนยึดเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง คือมีบรรทัดฐานสำหรับทุกเรื่องในชีวิตที่เป็นตัวของตัวเอง เช่นการเรียนของหลาน ชีวิตแต่งงานของลูก ฯลฯ

ยิ่งยึดมั่นกับความคิดของตัวเองก็มักจะรู้สึกว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามความต้องการของตัวเองเอาเสียเลย เพราะไม่ได้ตระหนักว่าสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปก็ย่อมทำให้วิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไปเหมือนกัน แนวทางที่เคยใช้ได้ผลในอดีตอาจไม่เหมาะกับสถานการณ์ในปัจจุบันก็ได้

ที่สำคัญการยึดมั่นให้บ้านของตัวเองดีที่สุด หรือครอบครัวของตัวเองสมบูรณ์แบบที่สุดแต่ไม่สนใจความเป็นไปของเพื่อนบ้านหรือสังคมรอบข้างก็อาจเปล่าประโยชน์ เพราะเราไม่มีทางอยู่อย่างสุขใจหากสภาพแวดล้อมย่ำแย่ เต็มไปด้วยปัญหาและอาชญากรรม การแบ่งความสนใจไปช่วยเหลือผู้คนรอบข้างด้วยอาจเป็นทางออกที่ดีกว่า

ประเด็นที่สี่ ต้องมีความศรัทธา ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดๆ ในโลกก็ล้วนสอนให้ทุกคนเป็นคนดี ไม่มีศาสนาใดสอนให้ดำรงชีวิตอยู่ด้วยการคดโกง เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ฯลฯ แต่ทุกศาสนาเน้นการทำความดี ไม่ว่าทำดีแล้วจะได้ขึ้นสวรรค์ ทำดีแล้วจะได้พบกับพระเจ้า ทั้งหมดล้วนทำให้เรารู้จักลดความเครียดผ่อนคลาย และสร้างความสบายใจ

ผู้สูงอายุหลายคนอาจต้องอยู่ลำพังเพราะคู่ชีวิตจากไปก่อน การอยู่เพียงคนเดียวอาจมีความเหงาและความโดดเดียวเป็นเรื่องปกติ แต่ความศรัทธาและความเชื่อจะทำให้เรารู้จักการทำสมาธิ รู้จักการให้ รู้จักการรักผู้อื่น ซึ่งทำให้เกิดพลังชีวิตและรับรู้ถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่

ประเด็นที่ห้า ต้องอยู่กับตัวเองให้ได้ เพราะการคาดหวังให้มีผู้อื่นมาอยู่รายล้อมเหมือนแต่ก่อนคงเป็นไปได้ยาก แม้เป็นลูกหลานก็ต้องล้วนเติบโตไปมีครอบครัวของตัวเอง จะให้มีคนรอบข้างมาคอยเอาอกเอาใจตลอดเวลาจึงเป็นไปไม่ได้

การอยู่คนเดียวในทุกวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป เพราะมีกิจกรรมมากมายที่เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมหรือเรียนรู้ด้วยตัวเองได้มากมาย เช่นการจัดดอกไม้ จัดสวน ปลูกผักสวนครัว ฯลฯ คำพังเพยจีนก็บอกไว้ว่า แก่ชราเพียงใดก็ยังเรียนรู้เรื่องใหม่ได้เสมอ

ประเด็นที่หก ต้องกล้าเผชิญความเป็นจริง ไม่ว่าอดีตของเราจะยิ่งใหญ่เพียงใด มีอำนาจมากเพียงใด แต่ถึงวันหนึ่งก็ต้องเสื่อมสลาย และแม้กระทั่งร่างกายก็ยังเสื่อมโทรมลงตามกาลเวลา ทั้งสายตาที่มืดมัวลงทำอะไรได้ช้าลง ฯลฯ

จงคิดว่าทุกวันที่ผ่านไปยังคงเป็นวันที่ดีเสมอ การได้ลืมตาตื่นขึ้นมาและมีชีวิตที่ปกติสุขถือเป็นกำไรของชีวิต และยิ่งมีอายุยืนยาวขึ้นก็ยิ่งมีโอกาสสร้างคุณค่าให้กับผู้คนรอบช้างได้มากขึ้น ชีวิตก็ยิ่งมีความหมายมากขึ้น และนั่นคือความหมายของชีวิตที่แท้จริง