เซ็กซ์ฟอร์เซลล์....บนเครื่องบิน

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดไปจากแผน อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าก็จะมีชายหนุ่มชาวญี่ปุ่น กับสาวสวยเซ็กซี่ชาวบราซิล วัย 20 ปี ร่วมสมสู่กันบนเครื่องบิน ที่บินจากออสเตรเลียไปยังอเมริกา โดยมีทีมงานโทรทัศน์ ตามประกบถ่ายภาพทุกขั้นตอน ทั้งก่อนและหลังกิจกรรมของเขาและเธอ

เรื่องไม่น่าเชื่ออย่างนี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร?

เริ่มจากสาวน้อยชาวบราซิลคนหนึ่งชื่อ คาตาริน่า เธอประกาศตัวว่าเป็น สาวพรหมจรรย์ 100% และพร้อมที่จะให้ชายหนุ่มคนใดก็ได้ ที่ประมูลเธอในราคาสูงสุด เป็นผู้ “เปิดบริสุทธิ์” ของเธอ ส่วนเงินค่าตัวที่ได้มาทั้งหมดนั้น เธอจะบริจาค 90% เพื่อนำไปพัฒนาชุมชนยากจน ที่อยู่ใกล้กับบ้านพักของเธอในบราซิล เพื่อช่วยให้คนเหล่านั้นมีชีวิตที่ดีขึ้น

เซ็กซ์ฟอร์เซลล์เพื่อการกุศล ว่างั้นเถอะ พอเรื่องนี้เป็นข่าวขึ้นมา สาวน้อย คาตาริน่า ก็ดังไปทั่วโลกในพริบตา เพราะการประมูลพรมจรรย์ของเธอ ได้เริ่มขึ้นเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และจบลงเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม มีชายหนุ่มจากทั่วโลก เช่น บราซิล อินเดีย สหรัฐอเมริกา เสนอราคาเข้าไปสู้กันทาง เว็บไซต์ แต่ในที่สุดก็ได้ผู้เสนอราคาสูงสุดเป็นชาวญี่ปุ่น ชื่อ นัทสุ ซึ่งเขาเสนอราคาค่าเปิดบริสุทธิ์ของเธอ ในราคา 780,000 ดอลลาร์ หรือ 23.5 ล้านบาท

ส่วนสถานีโทรทัศน์ ที่จะมาถ่ายทำกิจกรรมอย่างนี้นั้น บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาของสื่อที่จะต้องติดตามรายงานข่าวของคนในสังคม แต่กรณีนี้ไม่ใช่ธรรมดา เพราะสถานีโทรทัศน์ในออสเตรเลียที่จะถ่ายทำรายการนี้ ก็คือผู้ที่ริเริ่มโครงการนี้ขึ้นมาเอง โดยได้ประสานงานด้านต่างๆ รวมทั้งการหาสปอนเซอร์ด้วย และงานอย่างนี้ เมื่อถึงวันเผยแพร่ออกอากาศเมื่อใด ก็คงจะทำให้ คาตาริน่า เธอดังขึ้นไปอีกแหละ (แต่จะดับหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง)

เรื่องที่ผมเล่ามานี้ มองได้หลายมุมครับ ในมุมของสาวสวยนักศึกษาคณะพลศึกษาคนนี้ เธออาจจะมีมูลเหตุจูงใจหลายอย่าง นับตั้งแต่มีความจริงใจ และพร้อมสละความบริสุทธิ์ ซึ่งมีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในชีวิต ให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนยากไร้จริงๆ หรือ เธออาจจะอยากดังไปทั่วโลก (ซึ่งก็ดังสมใจแล้ว) หรือ อาจเป็นทั้งสองอย่างก็ได้ ซึ่งเมื่อดู เว็บไซต์ ในการประมูลครั้งนี้ ที่แน่ๆก็คือ มีภาพของเธอในชุดวาบหวิวหลายภาพ เช่นอยู่ในชุดเปลือยท่อนบนแต่บังไว้ด้วยเส้นผม เป็นต้น

ดังนั้น เธอจึงไม่ใช่สาวน้อยเรียบร้อยราวกับผ้าพับไว้แต่อย่างใด

ส่วนจะบริสุทธิ์ 100% จริงหรือไม่ ก็ยังถกเถียงกันอยู่ว่าจะมีวิธีพิสูจน์ทางการแพทย์ ที่น่าเชื่อถือได้อย่างไร แพทย์หลายคนบอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ขนาดนั้น

มองอีกมุมหนึ่งก็คือ คนในสังคมถามว่าอย่างนี้เรียกว่าเธอค้าประเวณีหรือไม่ เธอตอบเสียงดังฟังชัดว่าไม่ใช่ “เพราะการค้าประเวณีหมายถึง ต้องทำเป็นประจำ แต่การขายความบริสุทธิ์นั้น ฉันทำได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นนะ” แม้เธอจะใช้เหตุผลอย่างนั้น ก็ยังมีผู้วิจารณ์ว่า ยังไงเสีย เธอก็ค้าประเวณีอยู่ดีนั่นแหละ “เพราะการปล้นร้านค้า แม้เพียงครั้งเดียว ก็ยังเรียกว่าเป็นโจรอยู่ดี” คุณผู้อ่านก็คงต้องใช้ดุลพินิจเปรียบเทียบเหตุผล ว่าอย่างใดน่ารับฟังกว่ากัน

ในแง่ของชายหนุ่ม ก็มีมุมมองว่าถ้า นายนัทสุ แกมีเงินมากมายขนาดนั้น นำไปบริจาคโดยตรงให้แก่ชุมชนยากไร้แห่งนี้ หรือผู้ยากไร้ในที่อื่นๆ จะดีกว่าหรือไม่ เพราะค่าใช้จ่ายดังกล่าว ยังทำให้คุณสามารถนำไปหักภาษีได้อีกด้วย นอกจากนั้นในส่วนของ สถานีโทรทัศน์ที่จัดรายการนี้ขึ้นมา รวมทั้งสปอนเซอร์ด้วย ก็มีประเด็นที่น่าสนใจ ว่านี่เป็นการหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ ที่อยู่ในกรอบจริยธรรม หรือไม่ ซึ่งผมเชื่อว่า ในประเด็นนี้ คุณผู้อ่านคงตอบได้โดยไม่ต้องใช้เวลาคิดมากนัก

การที่ต้องไปจัดกิจกรรมนี้กัน แบบลอยฟ้าข้ามมหาสมุทร เช่นนั้น ก็เพราะผู้จัดรายการนี้ กังวลว่าจะถูกแจ้งข้อหาค้าประเวณี ก็เลยใช้วิธีการดังกล่าว ซึ่งผมก็ยังไม่ทราบว่าเขาจะเช่าเครื่องบินเหมาลำจากรายใด แต่คำถามในใจผมก็คืออยากรู้ว่าเจ้าของเครื่องบินที่ได้รับการติดต่อขอเช่าเหมาลำ หรือขอสปอนเซอร์เพื่อการนี้นั้น ผู้บริหารจะใช้แนวทางอย่างไรในการตัดสินใจ ว่าจะให้เช่าเหมาลำ หรือสปอนเซอร์ เพื่อการนี้ หรือไม่

กลับไปที่สาวน้อย คาตาริน่า ซึ่งจนถึงวันนี้ เธอก็ยังยืนยันพันเปอร์เซ็นต์ว่าเธอ “ไม่เคย” เลยจริงๆ และที่ยินยอมทำเช่นนี้ ก็เพราะนอกจากได้ทำการกุศลแล้ว ยังทำให้เธอมีโอกาสได้ปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ ซึ่งจะเผยแพร่ไปทั่วโลก และได้ท่องเที่ยวข้ามทวีปอีกด้วย มาถึงตรงนี้ ก็น่าจะพอสรุปได้ว่าเธอก็ อยากดัง ได้สตางค์ (บ้าง) และได้เที่ยวฟรี นั่นแหละ

ถ้าหากในเร็วๆนี้ มีการถ่ายทอดเพื่อออกอากาศทางโทรทัศน์จริง ทั้งช่วงก่อนเดินเข้าห้องประกอบกิจ และวินาทีที่ออกจากห้องประกอบกิจ ถามว่าจะมีผู้คนติดตามดูรายการนี้มากไหม ผมไม่ทราบหรอกครับ แต่ถ้าให้เดา ผมเดาว่าน่าจะมีจำนวนมาก เพราะคนทั่วไปคงอยากรู้อยากเห็น และคงคิดกันว่า พวกเขามีสถานะเป็นเพียงผู้ชมเท่านั้น ไม่ใช่คนที่ทำให้เธอเสียหายแต่อย่างใด เพราะคนที่ตัดสินใจทำเรื่องนี้ ก็คือตัวเธอเอง

แต่ที่ผมอยากรู้จริงๆ ก็คือ คนที่เป็นพ่อแม่ของเธอนั้น เวลานี้ทั้งสองคนคิดอย่างไร และจะดูรายการนี้หรือไม่

ผมลืมบอกไปว่า นอกจากสาวน้อย คาตาริน่า แล้ว ในโครงการเดียวกันนี้ ก็ยังมีการประมูลพรหมจรรย์ ของชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง ชื่อว่า อเล็กซานเดอร์ ควบคู่ไปกับสาวน้อยคนนี้อย่างเปิดเผยอีกด้วย เจ้าหนุ่มชาวบราซิลคนนี้รูปร่างหน้าตา ก็พอดูได้อยู่หรอก และก็เริ่มเปิดประมูลมาก่อน ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน แต่เมื่อปิดการประมูลวันที่ 24 ตุลาคม เขาได้ราคาสูงสุดจากผู้ประมูล ซึ่งเป็นสาวชาวบราซิลด้วยกัน ในราคาเพียง 3,000 ดอลล่าร์ เท่านั้นเอง....น่าเกลียดจังเลย

ถ้าเปิดเว็บประมูลหนุ่มสาวคู่นี้ขึ้นมาดูในวันนี้ เราจะเห็นภาพของ คาตาริน่า และ อเล็กซานเดอร์ อยู่คู่กัน โดยภาพของทั้งสองคน มีอักษรตัวโตคาดไว้อย่างโดดเด่นว่า “SOLD” รวมทั้งระบุราคาสูงสุดที่ประมูลได้ ประกบอยู่ข้างๆ ด้วย ทั้งหมดเป็นผลพวงจากความคิดทางธุรกิจ และความอยากดัง รวมทั้งตัณหาของคน

คนทำธุรกิจทุกชนิด ย่อมมุ่งหวังที่จะทำกำไรกันทั้งนั้น ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดแต่อย่างใด ตราบเท่าที่ธุรกรรมนั้นๆ อยู่ในกรอบของกฎหมายและไม่หมิ่นเหม่ต่อจริยธรรมของวิชาชีพ หรือศิลธรรมของคนในสังคม แต่กรณีที่ผมได้เล่ามานี้ ผมคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ว่าพวกเขาเห็นดีเห็นชอบกับธุรกรรมดังกล่าว ได้อย่างไร

สังคมมนุษย์ และสังคมธุรกิจวันนี้ กำลังจะไปทางไหนกันหนอ

น่าห่วงใยไหมหนอ