Location Marketing สร้างโอกาสจากลูกค้าที่อยู่ในมือ (1) 

Location Marketing สร้างโอกาสจากลูกค้าที่อยู่ในมือ (1) 

คนทำธุรกิจควรต้องเข้าไปบริหารร้านบน Google Map และคุณจะเห็นข้อมูลมหาศาล

เทคโนโลยีเปลี่ยนไป พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไป ฉะนั้น วิธีการที่จะเข้าถึงลูกค้าก็เปลี่ยนไปด้วย หนึ่งในข้อมูลของลูกค้าก็คือ Location มีความสำคัญอย่างไร

เราสามารถรู้ตำแหน่งของลูกค้าได้ตั้งแต่ยุคแรก ๆ ที่ใช้ IP Address มายุคสมาร์ทโฟนหรือโทรศัพท์มือถือที่ใช้เสาสัญญาณ ไปจนถึงการมีระบบ GPS ที่สร้างความแม่นยำมากยิ่งขึ้นไปอีก ถึงแม้ว่าจะอยู่ในตึกก็สามารถที่จะระบุตำแหน่งได้แม่นยำ ทุกวันนี้แม้แต่การใช้ไวไฟ Google ก็สามารถรู้ตำแหน่งได้ทั่วโลก นั่นทำให้สามารถรู้ตำแหน่งของคนได้เช่นกัน

เดี๋ยวนี้การค้นหาข้อมูลต่าง ๆ จะมีการนำข้อมูลของเรามาประกอบด้วย เช่น การที่เราค้นหาร้านอาหารใน Google เราค้นหาจากบริเวณใดผลการค้นหาจะแสดงร้านอาหารในบริเวณที่เราอยู่ เพราะเขารู้ตำแหน่งของเรา และเดี๋ยวนี้มีระบบนำทางที่สามารถบอกแผนที่ในที่นั้น ๆ ได้เลย

นักการตลาดจึงสามารถใช้ข้อมูล Location ในเข้าถึงตำแหน่งของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ ยิ่งปัจจุบันเครื่องมือใน Facebook หรือ Google Ad สามารถระบุตำหน่งคนได้เลย 

เราอยากให้โฆษณาปรากฏบริเวณใด เมื่อคนในบริเวณนั้นเปิด Facebook หรือ Google ก็จะเห็นโฆษณาของเราได้ทันที เพราะเราเองได้อนุญาตให้โปรแกรมเหล่่านี้เข้าถึงตำแหน่งของเราแล้ว ข้อมูลในเรื่องของตำแหน่งช่วยให้โฆษณาแม่นยำขึ้นทั้งในเชิงตำแหน่งของคน ทาร์เก็ตกลุ่มเป้าหมาย อายุ เพศ วัย ได้ตรงมากขึ้น พฤติกรรมของคนที่เคยเข้าไปดูเว็บไซต์หรือเพจมาก่อน

วันนี้คุณสามารถบริหารจัดการตำแหน่งที่อยู่ธุรกิจของตัวเองได้ใน Google Map เพราะ Google ซื้อข้อมูลธุรกิจทั่วโลกจึงทำให้รู้เบอร์โทรรวมไปถึงรายละเอียดอื่น ๆ ด้วย เช่น รูปภาพสินค้า รูปร้าน โพสต์ รีวิวต่าง ๆ ลูกค้าสามารถค้นหาเบอร์โทรของธุรกิจและกดโทรจาก Google Map ได้เลย 

ทั้งหมดนี้ เพราะเขามีอีกหนึ่งบริการคือ Google My Business ที่หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจหรือเป็นเจ้าของสถานที่ คุณจะสามารถเข้าไปยืนยันความเป็นเจ้าของและสามารถแก้ไขข้อมูลของคุณให้ถูกต้องได้ นอกจากนี้ Google Map ยังบอกความหนาแน่นของคนในช่วงเวลานั้น ๆ รวมถึงบอกได้ว่าใครเคยมาร้านนี้บ้างแล้ว เพราะมีการเก็บข้อมูลอยู่ตลอดเวลา

คนทำธุรกิจควรต้องเข้าไปบริหารจัดการธุรกิจบน Google Map ผ่านแอพ Google My Business คุณจะเห็นข้อมูลมหาศาล เช่น แต่ละวันมีคนเข้าร้านกี่คน เพศใด มาจากไหน อยู่นานแค่ไหน มาบ่อยแค่ไหน มีเครื่องมือแชท แก้ไขข้อมูลทุกอย่างได้ และเปิดโอกาสให้คนมารีวิว หลายคนไม่เคยไปตรวจสอบข้อมูล ปรากฏว่าข้อมูลธุรกิจของคุณกระจายไปทั่วในอินเทอร์เน็ต บางคน check in ไปสร้างตำแหน่งที่ร้านค้าคุณ หรือเขียนรีวิวต่าง ๆ ที่อาจจะส่งผลเสียต่อร้านได้

อยากให้คุณลองค้นชื่อธุรกิจของคุณใน Google Map เช็กข้อมูลที่ตั้ง เบอร์โทร คอมเม้นท์ต่าง ๆ รูปภาพ ฯลฯ เพราะข้อมูลนี้โน้มน้าวให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อหรือมาหาธุรกิจของคุณได้ หรืออีกที่คือ Facebook Place ไปค้นหาว่าธุรกิจคุณมีคนมา check in หรือ คอมเม้นท์อย่างไรบ้าง วันนี้ตำแหน่งของลูกค้า ข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และข้อมูลธุรกิจของเรา มันต่างเชื่อมโยงไปหมดแล้ว

ทั้งหมดคือตัวอย่างของการใช้ตำแหน่งของลูกค้า 1.การโฆษณาเพื่อหาลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ละแวกนั้นทำให้เราเจอลูกค้าที่อยู่ใกล้ตำแหน่งร้านค้าของเรา 2.สามารถใช้การตลาดแบบ Location ได้เพราะคนเริ่มใช้แผนที่หรือข้อมูลในพื้นที่เพื่อการตัดสินใจ แต่เราต้องเข้าไปบริหารจัดการข้อมูลตรงนั้นให้ถูกต้องและสามารถโน้มน้าวลูกค้าได้เสียก่อน

จริง ๆ เรื่องของ Location ในฝั่งของผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือได้มีการทำบ้างไปแล้ว เมื่อก่อนเวลาเราเข้าไปในพื้นที่ใดก็ตามจะมีการส่ง sms โปรโมชั่นหรือโฆษณเข้ามายังมือถือเลย แต่ตอนนี้จะดียิ่งกว่าเดิม เพราะมีแอพพลิเคชั่นมากมายที่สามารถระบุตำแหน่งของเราได้ แอพพลิเคชั่นเหล่านี้จะสามารถดึงข้อมูลโฆษณาทางการตลาดได้ตรงและแม่นยำมากยิ่งขึ้น