โอกาสข้าวไทยไปฟิลิปปินส์ และ COFCO ก็กลับมาแล้ว

 โอกาสข้าวไทยไปฟิลิปปินส์ และ COFCO ก็กลับมาแล้ว

ในช่วงสี่เดือนแรกของปี2564 ไทยส่งออกข้าว ลดลงประมาณ21-22 % เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ที่ต้องหาทางแก้ไข

   การแก้ไขปัญหาการส่งออกข้าวไทยดังกล่าวนี้สามารถดำเนินการได้หลายวิธี เช่น การเยี่ยมเยียนลูกค้า   การจัดหาและส่งมอบข้าวตามความต้องการและเงื่อนไขขอลูกค้า ซึ่งมีการดำเนินการที่เป็นรูปธรรมแล้วคือ

            ประเทศฟิลิปปินส์

             ฟิลิปปินส์เป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ของไทย  บัดนี้รัฐบาลฟิลิปปินส์เปลี่ยนฯโยบายยกเลิกการจำกัดการนำเข้า และอนุญาตให้เอกชนสามารถนำเข้าข้าวได้โดยเสรี  เมื่อวันที่19 พฤษภาคม2564 กรมการค้าต่างประเทศ ร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศจัดประชุมหารือผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์กับผู้นำเข้าข้าวฟิลิปปินส์ ผู้ประกอบการห้างค้าปลีกและตัวแทน ผู้กระจายสินค้า เพื่อกระชับความสัมพันธ์ สร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพข้าวไทย

                ในเรื่องราคาข้าว  ทางไทยแจ้งกับฝ่ายกับฟิลิปปินส์ว่า ปีนี้ผลผลิตข้าวไทยจะเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีน้ำพียงพอต่อการปลูกข้าว ราคาข้าวไทยคงลดลงในระดับที่แข่งขันได้  สำหรับข้าวนุ่มชาวฟิลิปปินส์นิยมบริโภคนั้น  ฝ่ายไทยแจ้งแก่ฝ่ายฟิลิปปินส์ว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังพัฒนาพันธุ์ข้าวนุ่มหลายพันธ์ และกำลังยกร่างมาตรฐานข้าวนุ่มขึ้นเพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาคุณภาพข้าวนุ่มที่ส่งออกต่อไป

            หมายเหตุ ระหว่างที่ไทยกำลังพัฒนาพันธุ์ข้าวนุ่มและยกร่างมาตรฐานข้าวนุ่มซึ่งอาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ในความเป็นจริง ประเทศไทยก็ปลูกและผลิตข้าวนุ่มนอกเหนือจากข้าวหอมมะลิไทยและข้าวหอมไทยออกมาในปริมาณที่ส่งออกในเชิงพาณิชย์เป็นข้าวนุ่มได้  และถ้าสามารถบริหารจัดการคัดแยกข้าวพื้นนุ่มไว้ต่างหากจากข้าวขาวทั่วไป ในขั้นตอนการสีแปร และส่งมอบให้ผู้ส่งออก โดยไม่ต้องคำนึงถึงสายพันธุ์ แต่ใช้ปริมาณอมิโลสที่ตรวจสอบได้ไม่ยากเป็นเกณฑ์ ก็สามารถส่งออกเป็นข้าวนุ่มเป็นการเฉพาะได้                           

         ประเทศจีน

      จีนเป็นประเทศปลูกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ที่มีปริมาณให้ประชากรทั้งประเทศบริโภคอย่างพอเพียง และเหลือส่งออกได้บ้าง แต่จีนก็นำเข้าข้าว โดยอนุญาตให้เอกชนนำเข้าได้ บางส่วน ซึ่งก็มีผู้ส่งออกไทยติดต่อค้าขายส่งออกข้าวให้กับผู้นำเข้าชาวจีนอยู่บางส่วน

             ส่วนข้าวที่จีนต้องนำเข้า ตามพันธกรณีต้องเปิดตลาดหรือนำเข้าเพื่อเสริมความมั่นคงด้านสต๊อก  เพื่อการค้าต่างตอบแทน หรือเพื่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ประเทศจีนได้มอบหมายให้ China Oil and Foodstuffs Corporation : COFCO ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีนเป็นผู้นำเข้า

          การซื้อขายข้าวแบบจีทูจีกับCOFCO

         ในช่วงที่ผ่านมา COFCO ได้ทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี กับกรมการค้าต่างประเทศและนำเข้าข้าวจากไทย ดังนี้

               ปี2558 นำเข้า 404,300.00 ตัน ปี2559 นำเข้า 335,950.00  ตัน ปี2560 นำเข้า 300,000.00 ตัน ปี 2561 นำเข้า 276,850.00 ตันปี2562 นำเข้า 24,500.00 ตัน ปี 2563 ไม่มีการนำเข้า  ปีปัจจุบัน 2564 กำลังมีการเจรจาระหว่างกรมการค้าต่างประเทศ กับCOFCO ในรายละเอียดบางประการ คาดได้ว่าปีนี้ COFCOคงนำเข้าข้าวจากไทยอีก

          การจัดหาและส่งมอบข้าวให้COFCO               

             เมื่อกรมการค้าต่างประเทศลงนามในสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ กับ COFCOแล้ว ไม่ว่าจะมีข้าวในสต๊อกของรัฐหรือไม่ ก็จำเป็นต้องจัดหาข้าวใหม่อายุไม่เกินสี่เดือนเพื่อดำเนินการส่งออกให้COFCO ต่อไป                 แม้จะเป็นข้าวใหม่ ที่เพิ่งรับมาจากโรงสีที่สีแปรใหม่ฯ ใช่ว่าจะใช้ข้าวนั้นส่งออกได้เลย ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องมีการปรับปรุงข้าวนั้นให้เป็นไปตามมาตรฐานข้าว5เปอร์เซ็นต์ ผ่านกระบวนการที่เรียกกันว่า sortex คือการคัดสิ่งเจือปน เมล็ดดำออก ขัดมันสองครั้ง ที่เรียกว่าDouble Polish  บรรจุข้าวลงกระสอบ ขนาด50 กิโลกรัม โดยต้องเผื่อน้ำหนักป้องกันปัญหาน้ำหนักขาดไว้ด้วย  พิมพ์ข้อความที่กระสอบตามที่COFCOกำหนด  การบรรจุข้าวใส่ตู้ Container ก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขรักษาความสะอาดที่COFCO กำหนดด้วย  

ตามขั้นตอนดังกล่าวข้างต้น กรมการค้าต่างประเทศไม่สามารถดำเนินการได้เอง  ก็จำเป็นต้องมอบหมายให้ผู้ส่งออกข้าวซึ่งมีความพร้อมในการดำเนินการส่งออกข้าวเป็นผู้ดำเนินการแทน  แต่ เนื่องจากมีผู้ประกอบการส่งออกข้าวที่จดทะเบียนไว้ เกือบสองร้อยราย และCOFCO กำหนดเงื่อนไขว่า ผู้ส่งออกที่จะเป็นผู้จัดหาข้าวส่งมอบให้COFCO ต้องมีไม่มากเกินไป ไม่เคยมีประวัติเสียหาย โกดังที่เป็นสถานที่บรรจุข้าวต้องเป็นโกดังที่ผ่านการตรวจสอบระบบAQSIQ ของจีน     

           จากเงื่อนไขข้างต้น จึงจำเป็นต้องมีการคัดกรองผู้ส่งออกและควบคุมดูแลให้เป็นไปตามเงื่อนไขของCOFCO ทางปฏิบัติที่ผ่านมาจึงใช้วิธีมอบหมายให้สมาคมผู้ส่งออกข้าวเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดหาข้าวเพื่อส่งออกให้COFCO โดยทางสมาคมก็ไปจัดสรรให้ผู้ส่งออกที่มีคุณสมบัติและเป็นไปตามเงื่อนไขที่COFCOกำหนด และทางสมาคมจะรับรองรับประกันการส่งมอบข้าวเป็นไปตามคุณภาพเงื่อนไขที่COFCOกำหนด หากมีข้อผิดพลาดเสียหาย สมาคมจะรับผิดชอบ ซึ่งก็ชอบด้วยเหตุผลที่กรมการค้าต่างประเทศไม่ต้องไปกำกับดูแลผู้ส่งออกแต่ละราย แต่กำกับควบคุมดูแลสมาคมจุดเดียว และสมาคมจะเป็นผู้รับผิดชอบกำกับดูแล ในลักษณะเอกชนควบคุมกำกับดูแลกันเอง

            การส่งมอบข้าวที่ผ่านมาหากมีปัญหาในเรื่องคุณภาพ หรือมีข้อขัดข้องด้านปฏิบัติอื่นใด  ทางสมาคมจะรับผิดชอบแก้ไขปัญหา เช่นกรณีที่เคยเกิดขึ้นเมื่อผู้ค้าปลีกที่ซื้อข้าวจาก COFCOไปจำหน่ายอีกทอดหนึ่งร้องเรียนว่า ข้าวที่บรรจุในตู้ container สองตู้มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ก็มีการตรวจสอบ สันนิษฐานว่าเกิดจากการที่สีข้าวแล้วบรรจุลงกระสอบทันที ไม่ปล่อยให้คลายความร้อนก่อน  ข้าวที่อยู่ระหว่างการขนส่งในเรือใหญ่ คลายเหงื่อ จึงเกิดปฏิกิริยา เหม็นเปรี้ยว ซึ่งก็เป็นบทเรียนในการป้องกันปัญหาต่อไป  สำหรับข้าวที่มีปัญหาผู้ส่งออกได้ส่งข้าวไปให้ใหม่สองตู้

                การดำเนินการต่างฯในการจัดหาและบริหารจัดการในการส่งมอบข้าวให้ COFCO ดังกล่าวข้างต้น ย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นแน่นอน  ซึ่งทางราชการไม่จ่ายให้แน่ จึงเป็นการชอบด้วยเหตุผลที่ทางสมาคมจะกำหนดให้ผู้ส่งออกที่ได้รับการจัดสรรให้ส่งมอบข้าวให้ COFCO มีส่วนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายดังกล่าวตามจำนวนตันที่จัดหาและส่งมอบในอัตราที่กำหนด

            การรักษาตลาดข้าวจีน    

                    ข้าวที่ COFCOนำเข้าแต่ละปีมีปริมาณมากพอที่ผลต่อราคาข้าวในประเทศและนำรายได้เข้าประเทศค่อนข้างมาก จึงจำเป็นที่ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันรักษาตลาดนี้ไว้ให้มั่น นั่นคือส่งออกข้าวตามคุณภาพและเงื่อนไขที่ COFCO ต้องการอย่างเคร่งครัด.