ความปกติใหม่...อีกครั้ง

ความปกติใหม่...อีกครั้ง

ความปกติใหม่ได้กลับมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว และการระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้ มีโอกาสที่จะร้ายแรงและยาวนานมากกว่าที่เคยเกิดขึ้นในปีก่อน

สวัสดีปีใหม่ 2021 ครับ

คงถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องยอมรับความเป็นจริงว่าความปกติใหม่ (New Normal) ได้กลับมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว และการระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้ มีโอกาสที่จะร้ายแรงและยาวนานมากกว่าที่เคยเกิดขึ้นในช่วงต้นของปีที่แล้วถึงแม้อาจจะมีทางออกที่เป็นวัคซีนที่ปลายทางแต่ก่อนที่จะถึงเวลานั้นทุกคนจะต้องมีการปรับตัวเพื่อกลับเข้าสู่วิถีชีวิตของความปกติใหม่อย่างที่เคยเกิดขึ้นในช่วงต้นของปีที่แล้วแม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆ

สิ่งที่สังเกตุเห็นได้ชัดจากความปกติใหม่ของปีที่แล้วและคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าจะต้องเกิดขึ้นอีกครั้งสำหรับครั้งนี้นั่นก็คือ บทบาทของเทคโนโลยีดิจิทัล” ที่ได้เข้ามาตอบโจทย์วิถีชีวิตของการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และทดแทนสิ่งที่เคยอำนวยความสะดวกจากการใช้วิถีชีวิตแบบเดิม

แต่ความแตกต่างที่สำคัญ คือ ความปกติใหม่กลับเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ในประเทศล้วนมีความคุ้นเคยแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การทำงานจากที่บ้าน (WFH) ผ่านการประชุมอิเล็กทรอนิกส์ การซื้อสินค้าผ่านอีคอมเมิร์ซที่ทดแทนร้านค้าแบบกายภาพ กระทั่งขนส่งผ่านดิจิทัลโลจิสติกส์ที่สามารถขนส่งอาหารได้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งสามารถทดแทนการรับประทานที่ร้านได้

ความปกติใหม่ในครั้งนี้จึงอาจเป็นจังหวะที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งที่บีบบังคับให้คนไทยจะต้องต้องดิ้นรนและดิสรัปตัวเองเพื่ออยู่รอดได้ในยุคนิวนอร์มอลและเราอาจจะได้เห็นการเติบโตของดิจิทัลในประเทศอย่างก้าวกระโดดอีกครั้งหนึ่งอย่างที่เคยเกิดขึ้นในปีที่แล้ว

ในส่วนของภาครัฐ​ได้มีการให้ความสำคัญกับดิจิทัลมากกว่าที่เคยเป็นมาในอดีตมีการปรับแก้กฎหมายอย่างเร่งด่วนเพื่อให้เหมาะสมต่อการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลในสถานการณ์ปัจจุบันและมีนโยบายที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับดิจิทัลออกมาเป็นจำนวนมาก

แม้กระทั่ง “ไทยชนะ” ก็เป็นตัวอย่างของการใช้ดิจิทัลโดยภาครัฐที่เหมาะสมสำหรับยุคของความปกติใหม่

อย่างก็ตาม ไม่ใช่คนไทยทุกคนที่มีโอกาสจะก้าวเดินไปข้างหน้ากับยุคของดิจิทัลดิสรัปชันได้เพราะปัญหาของช่องว่างดิจิทัล (Digital Divide) ยังคงเป็นเรื่องจริงสำหรับประเทศไทย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ กรณีของนักเรียนจำนวนหนึ่งที่ยังไม่มีความพร้อมที่จะเรียนออนไลน์ และกรณีนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไขในช่วงของความปกติใหม่เมื่อปีที่แล้วเพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศได้ยุติลงก่อนและเรากำลังจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหานี้อีกครั้งหนึ่งซึ่งในครั้งนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่และทางออกในระยาวจะเป็นอย่างไร

และก็ไม่ใช่ทุกธุรกิจที่จะได้ประโยชน์จากดิจิทัลดิสรัปชันที่กำลังจะเกิดขึ้นในยุคของความปกติใหม่เพราะบางธุรกิจเช่นร้านค้าแบบกายภาพเป็นสิ่งที่กำลังจะถูกทดแทนโดยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างที่ได้เกิดขึ้นในต่างประเทศไปแล้วหรือบางธุรกิจที่ไม่สามารถดำเนินการได้เลยในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

อีกสิ่งหนึ่งที่กำลังจะกลับมาเป็นข้อถกเถียงกันอีกครั้งคือ เทคโนโลยีดิจิทัล” ส่วนใหญ่ที่อำนวยความสะดวกในยุคของความปกติใหม่อาทิเช่นการประชุมอิเล็กทรอนิกส์บริการอีคอมเมิร์ซบริการดิจิทัลโลจิสติกส์หรือกระทั่งบริการบันเทิงทางดิจิทัลที่จะได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งในช่วงของการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลเป็นบริการมาจากต่างประเทศแม้จะมีความพยายามของภาครัฐที่จะส่งเสริมบริการของคนไทยแต่ก็ยังไม่สามารถแข่งขันกับธุรกิจยักษ์ใหญ่ข้ามชาติเหล่านี้ได้

เงินที่คนไทยใช้จ่ายกับบริการข้ามชาติเหล่านี้ส่วนหนึ่งจะรั่วไหลออกจากจีดีพีของประเทศแทนที่จะเป็นเงินหมุนเวียนในประเทศที่จะใช้ในการจ้างงานและซื้อสินค้าบริการจากในประเทศ เพราะความปกติใหม่เป็นตัวเร่งโลกาภิวัตน์สำหรับดิจิทัลแต่ในรูปแบบที่ไทยกำลังเสียเปรียบ

สุดท้ายนี้ความปกติใหม่ในครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่และอาจดูเหมือนกับการเริ่มฉายหนังซ้ำจากปีที่แล้ว2020แต่ที่สำคัญคือจะจบลงอย่างรวดเร็วอย่างปีที่แล้วหรือไม่และเราจะดำเนินการอะไรที่แตกต่างจะบทเรียนและประสบการณ์ที่ได้สั่งสมมาหรือไม่