จากการดูการต่อสู้กับโรคร้ายในอเมริกา

จากการดูการต่อสู้กับโรคร้ายในอเมริกา

สัปดาห์นี้มีข่าวดีเกี่ยวกับการต่อสู้กับเชื้อโรคร้ายในสหรัฐ  เมื่อวันจันทร์ ชาวอเมริกันเริ่มได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ตัวแรก

              วันนี้อาจมีข่าวดีเรื่องวัคซีนตัวที่สองได้รับอนุมัติ  ภายในเวลา ๖ เดือนข้างหน้า คาดว่าการระบาดของไวรัสตัวนี้จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ  แต่ก่อนถึงวันนั้น ชาวอเมริกันอีกหลายล้านคนจะได้รับผลร้ายของมัน  ชาวอเมริกันจึงจะยังป่วยและตายมากกว่าใครในโลก  เหตุการณ์นี้มองต่อไปได้อีกหลายแง่มุมซึ่งส่วนหนึ่งอาจไม่เป็นที่ประจักษ์อย่างแจ้งชัด  ขอพูดถึงบางประเด็น

               เนื่องจากโควิค-19 เพิ่งเข้าไประบาดในสหรัฐเมื่อต้นปี ความสามารถในการค้นหาวัคซีนตัวใหม่ได้ภายในเวลาไม่ถึง 1 ปีซึ่งไม่เคยมีมาก่อนจึงมองได้ว่าเป็นความสำเร็จขั้นมหัศจรรย์  เรื่องนี้ยืนยันอีกครั้งว่า มนุษย์เรามีความสามารถด้านเทคโนโลยีสูง  แต่ในขณะเดียวกัน ชาวอเมริกันจะไม่ป่วยและตายจากโควิด-19สูงขนาดนั้นหากผู้นำสหรัฐไม่ปิดบังความร้ายแรงของมันโดยบอกชาวอเมริกันว่าการระบาดของมันเป็นเพียงเรื่องเล่นตลก  อย่างไรก็ดี หลังจากความร้ายแรงของเชื้อโรคตัวนี้เป็นที่ประจักษ์ เขาไม่ยอมรับผิด ซ้ำร้ายยังไม่ใส่ใจที่จะทำตนให้เป็นตัวอย่างแก่ชาวอเมริกันไม่ว่าจะเป็นการสวมหน้ากากอนามัย หรือไม่รวมตัวชุมนุมกันเป็นกลุ่มใหญ่  ยิ่งกว่านั้น เขายังต่อต้านผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดอีกด้วย  พฤติกรรมของผู้นำอาจเกิดจากความไม่เข้าใจ หรือไร้ปัญญาเกี่ยวกับโควิด-19ในตอนเริ่มต้น  แต่ในตอนหลังนี้ เป็นที่ประจักษ์ว่ามันเกิดจากเจตนาร้ายของเขาที่จะหลอกลวงชาวอเมริกัน

               อนึ่ง มนุษย์เรามีความสามารถสร้างเทคโนโลยีที่เอื้อให้เราก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดได้ 3 ครั้งแล้ว กล่าวคือ เมื่อเรามีเทคโนโลยีด้านเกษตรกรรมซึ่งทำให้ผลิตอาหารได้โดยอาศัยธรรมชาติน้อยลง  เมื่อเรามีเครื่องจักรกลซึ่งก่อให้เกิดโรงงานอุตสาหกรรมทำให้ผลิตสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว  และเมื่อเรามีเทคโนโลยีดิจิทัลซึ่งเอื้อให้การคำนวณและการสื่อสารข้ามพรมแดนทำได้ภายในพริบตา  ผู้เชี่ยวชาญมองกันว่า วันนี้เราเริ่มมีเทคโนโลยีที่จะทำให้เกิดความก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดครั้งต่อไปแล้ว

               ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีโดยทั่วไปมองได้ว่ามีผลดีเนื่องจากมนุษย์เรามีความเป็นอยู่สะดวกสบายและอยู่ได้นานขึ้น  อย่างไรก็ตาม ผลดีที่มองเห็นนั้นมักมีสิ่งที่ไม่ค่อยประจักษ์หากไม่สังเกตอย่างพินิจแฝงมาด้วย เช่น เทคโนโลยีที่ทำให้เราอยู่ได้นานขึ้นส่งผลให้เรามีเพื่อนมนุษย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  เราต่างอยู่ได้ด้วยการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ  เมื่อเรามีจำนวนมากขึ้นถึงเกิน 7 พันล้านคนมาชั่วระยะหนึ่งแล้ว เราใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากขึ้นจนส่งผลให้ระบบนิเวศขาดสมดุลร้ายแรง  การขาดสมดุลเช่นนั้นเรามิได้ตั้งใจทำให้เกิดขึ้น  แต่มันกำลังสร้างปัญหาสารพัดให้แก่เรา

               นอกจากผลร้ายที่เกิดขึ้นโดยเราไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดขึ้นแล้ว ยังมีผลร้ายที่มนุษย์เราตั้งใจทำให้เกิดขึ้นอีกด้วย เช่น ทุกครั้งที่มีเทคโนโลยีใหม่ มนุษย์มักนำไปใช้สร้างอาวุธขึ้นมาเพื่อฆ่ากันเอง  ณ วันนี้โลกจึงมีอาวุธสารพัดชนิดรวมทั้งจำพวกที่สามารถส่งไปฆ่าผู้อื่นนับสิบล้านได้ภายในเวลาไม่กี่นาที  แรงจูงใจที่ทำให้มนุษย์เราสร้างอาวุธมักได้แก่การแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติกันเนื่องจากเรามีจำนวนมากขึ้นทำให้ทรัพยากรไม่พอ  ร้ายยิ่งกว่าการสร้างและใช้อาวุธดังกล่าวได้แก่การสร้างอาวุธจำพวกไวรัสดิจิทัลด้วยผู้มีจิตมุ่งร้ายส่งไปในระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อทำลายคอมพิวเตอร์ของผู้ไม่รู้เท่าทัน  เรื่องนี้เกิดขึ้นรายวันยังผลให้เกิดความเสียหายและค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นเพื่อป้องกันตัวจากคนชั่วผู้ส่งไวรัส

               ย้อนไปในยุคที่เทคโนโลยียังมีอานุภาพต่ำ ผลร้ายอันเกิดจากการใช้โดยคนชั่วมีเพียงจำกัด  เมื่อเทคโนโลยีมีอานุภาพสูงเช่นในปัจจุบัน ผลร้ายของมันสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด  ด้วยเหตุนี้เมื่อเทคโนโลยีมีอานุภาพสูงขึ้น คนรู้จักใช้เทคโนโลยีจำต้องมีคุณธรรมสูงขึ้นด้วย  มิฉะนั้น มนุษย์เราจะประสบปัญหาจนแก้ไม่ได้ หรือในอีกนัยหนึ่ง ปัญญาหรือความสามารถที่เพิ่มขึ้นมานั้นต้องใช้ด้วยเจตนาดีที่วางอยู่บนฐานของจรรยาบรรณอันแข็งแกร่งขึ้น  มิฉะนั้น มนุษย์จะสูญพันธุ์โดยมิตั้งใจ หรือจากการทำลายกันเอง/////////