สองงานใหญ่กับการใช้ทางแห่งปัญญา

สองงานใหญ่กับการใช้ทางแห่งปัญญา

สัปดาห์นี้เมืองไทยจัดงานใหญ่มากเนื่องจากวันที่ 5 ธ.ค. เป็นวันพ่อแห่งชาติ ผู้เข้าร่วมงานนับล้านเป็นคนไทย ส่วนชาวต่างชาติมีไม่มาก

นอกเหนือจากข้าราชการในสถานทูตอาจมีนักท่องเที่ยวซึ่งมาเยือนเมืองไทยในช่วงนี้ ส่วนสเปนจัดงานใหญ่ได้แก่ การประชุมสมาชิกองค์การสหประชาชาติว่าด้วยความเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ ผู้เข้าประชุมกว่า 25,000 คนมาจาก 200 ประเทศ สองงานนี้อยู่ห่างกันคนละฟากฟ้าและดูไม่น่ามีเรื่องเกี่ยวเนื่องกัน กระนั้นก็ตาม บางนัยอาจมองได้ว่ามีความสัมพันธ์กันอย่างแนบแน่น

คงทราบกันแล้วว่าสเปนอาสาเข้ามาจัดงานใหญ่แทนชิลี ทั้งนี้เพราะชิลีมีความวุ่ยวายภายในจนไม่สามารถจัดได้ (คอลัมน์นี้พูดถึงความวุ่นวายในชิลีเมื่อวันที่ 25 ต.ค.) การประชุมจะใช้เวลา 2 สัปดาห์ซึ่งจะพูดกันถึงมาตรการป้องกันมิให้โลกร้อนขึ้นไปจนทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงถึงขั้นที่เรียกว่ากู่ไม่กลับ ประเทศต่าง ๆ จะปรึกษาหารือ หรือต่อรองกันว่าใครจะทำอะไรต่อไป หลังจากนี้ ปลายปีหน้าจะประชุมกันต่อที่สหราชอาณาจักร

ปัจจัยที่ก่อให้เกิดโลกร้อนได้แก่ก๊าซเรือนกระจกโดยเฉพาะคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดจากการเผาไหม้ที่มนุษย์เราใช้ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมทั้งทางเศรษฐกิจอันได้แก่การผลิตและการบริโภค ก๊าซดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดดหลังเกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมเมื่อราว 250 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากจำนวนประชากรโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อม ๆ กับทุกคนมุ่งบริโภคเพิ่มขึ้นด้วย

กระบวนการผลิตเพื่อสนองความต้องการบริโภคและการบริโภคเองใช้พลังงานอันเกิดจากการเผาไหม้ที่ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกสูง เท่าที่ผ่านมา ชาวโลกพยายามค้นหาเทคโนโลยีที่ผลิตพลังงานด้วยวิธีที่เกิดก๊าซเรือนกระจกต่ำ เช่น จากแสงอาทิตย์และจากกระแสลม ด้วยเหตุนี้ การต่อรองกันว่าใครจะทำอะไรจึงมุ่งไปที่การลดก๊าซเรือนกระจกด้วยวิธีผลิตพลังงานแบบใหม่ แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องสำคัญ 2 เรื่องคือ จำนวนคนและการบริโภคของแต่ละคน นอกจาก 2 เรื่องนี้แล้ว ยังมีเรื่องสำคัญที่จะทำให้การลดก๊าซเรือนกระจกเป็นไปได้ยากขึ้นอีกด้วย นั่นคือ สหรัฐประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงด้านการลดก๊าซเรือนกระจกทั้งที่สหรัฐก่อให้เกิดก๊าซเหล่านี้มากที่สุด และหลายประเทศที่มีประชากรสูงวัยในอัตราสูงเริ่มดำเนินนโยบายกระตุ้นให้ประชากรเพิ่มขึ้น

ปัจจัยต่าง ๆ ที่อ้างถึงนี้มิได้เกิดบนฐานของการใช้ปัญญา ฉะนั้น การประชุมที่สเปนต่อด้วยที่สหราชอาณาจักรยากที่จะประสบความสำเร็จ

ตลอดงานวันพ่อแห่งชาติมีการอ้างถึงศาสตร์พระราชาโดยเฉพาะแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ผู้อ้างคงโยงไปไม่ถึงว่าต้นตอของปัญหาโลกร้อนมาจากความไม่รู้จักพอของมนุษย์ซึ่งพ่อหลวง ร. 9 ทรงมองเห็นและได้ทรงพระเมตตาพระราชทานทางออกไว้ให้ นายกรัฐมนตรีไทยได้นำแนวคิดของพระองค์ไปเสนอให้ชาวโลกพิจารณามากกว่าหนึ่งครั้งและฝรั่งลักไก่นำไปใช้ตั้งชื่อหนังสือของตน คนไทยส่วนใหญ่ได้ยินแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงแล้ว ส่วนฝรั่งลักไก่อย่างไรมีรายละเอียดอยู่ในหนังสือเรื่อง ฝากภูมิปัญญาชาติไทยไว้กับครู และ “เศรษฐกิจพอเพียง ฉบับส่งเสด็จ (ทั้งคู่ดาวน์โหลดได้ฟรีที่ www.bannareader.com)

เมื่อชาวโลกอาจไม่บรรลุเป้าหมายในการลดก๊าซเรือนกระจก โลกย่อมจะได้รับผลกระทบร้ายแรงมากจากภาวะโลกร้อน ณ วันนี้รัฐบาลไทยยังไม่มีทีท่าว่าจะน้อมนำศาสตร์พระราชามาใช้เป็นฐานของการดำเนินนโยบาย จึงขึ้นอยู่กับคนไทยว่าจะรับมือกับผลกระทบร้ายแรงนั้นอย่างไร ส่วนหนึ่งอาจมองว่าไหน ๆ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วต้องรีบบริโภคให้เต็มที่ บางส่วนอาจมองว่าต้องหาทางเร่งกอบโกยทรัพยากรมาไว้แม้จะต้องใช้วิธีฉ้อฉลก็ตาม อีกส่วนอาจมองว่าปล่อยไปตามยถากรรม อะไรจะเกิดย่อมเกิด

ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมองตามแนวเหล่านี้ แต่มันมิใช่การมองของผู้มีปัญญา

เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองวันพ่อแห่งชาติอันยิ่งใหญ่ ขอวิงวอนให้ชาวไทยศึกษาทางแห่งปัญญาที่พ่อหลวงทรงพระเมตตาพระราชทานไว้ให้แตกฉานและนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง ทั้งเพื่อช่วยป้องกันปัญหาโลกร้อนและเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของผู้เป็นพ่อแห่งชาติ