บุกจีนด้วยอีคอมเมิร์ซ กับเรื่องที่คนไทยควรรู้

บุกจีนด้วยอีคอมเมิร์ซ กับเรื่องที่คนไทยควรรู้

จะบุกตลาดจีนต้องรู้จักโซเชียลมีเดียสำหรับทำคอนเทนท์

การเจาะตลาดจีนโดยเฉพาะช่องทางอีคอมเมิร์ซ มีหลายๆ ประเด็นที่ผู้ประกอบการไทย จำเป็นต้องเรียนรู้ ประการแรกโทรศัพท์มือถือคือทุกสิ่งสำหรับคนจีน เป็นหัวใจสำคัญสำหรับโลกอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดีย ขณะนี้คนจีนนิยมท่องอินเทอร์เน็ตและใช้บริการต่างๆ บนออนไลน์ผ่านมือถือมากที่สุด

ข้อมูลโดยกระทรวงสารสนเทศและเทคโนโลยีของจีนรายงานว่า จำนวนการใช้จ่ายเงินออนไลน์ของคนจีนผ่านระบบอีเพย์เมนท์ หรือกระเป๋าเงินออนไลน์บนโมบายแอพลิเคชั่นพุ่งทะยานขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลกแล้ว

โดยมูลค่าการใช้งานอยู่ที่ 81 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 12 ล้านล้านดอลลาร์ มากกว่าปีก่อนหน้าถึง 30 ล้านล้านหยวน รวมๆ แล้วมีคนจีนมากกว่า 720 ล้านคนที่จับจ่ายออนไลน์ผ่านทางมือถือ

ด้านแอพพลิเคชั่นยอดนิยม ที่ใช้งานหลักๆ มีอยู่สองแอพคือวีแชทและอาลีเพย์ จุดเด่นของวีแชทคือนอกจากใช้สำหรับแชทได้แล้วยังสามารถใช้จ่ายเงินแบบออนไลน์ได้ด้วย ส่วนอาลีเพย์ เป็นแอพกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์หลักในการทำธุรกรรมออนไลน์ของคนจีน

ต่อคำถามที่ว่า แล้วควรใช้ช่องทางอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มใดดี ประเด็นนี้ต้องประเมินตามประเภทสินค้า และกลุ่มลูกค้าของบริษัท ทว่าอันดับแรกๆ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ เถาเป่า, ทีมอลล์, เจดีดอทคอม ,1168, อาลีเอ็กซ์เพรส, ซูหนิง(Suning) ฯลฯ

ความแตกต่างระหว่างเว็บอีคอมเมิร์ซในจีน กับเว็บอย่างลาซาด้าและช้อปปี้ก็คือ เว็บของจีนมุ่งการขายสินค้าให้คนจีนเป็นหลัก ดังนั้นไม่เพียงแต่ต้องใช้ภาษาจีน แต่อาจจะต้องประเมินกลุ่มเป้าหมายหลักของลูกค้าจีนให้ชัดเจนว่าจะขายใคร และสินค้าเป็นประเภทใดด้วย

ตัวอย่างเช่น ถ้าเน้นราคาไม่แพง เป็นแบรนด์ท้องถิ่น อยู่ในกลุ่มเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า อาหารแห้ง ขนม สามารถนำไปขายบน เถาเป่าซึ่งเป็นเว็บค้าปลีกสำหรับสินค้าประเภทนี้ได้ โดยมีข้อดีคือ คนทั่วไปสามารถลงสินค้าบนเว็บไซต์ได้โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่สำหรับความน่าเชื่อถือแล้วก็จะต่ำกว่าการลงสินค้าในเว็บอีคอมเมิร์ซแบบบีทูซีเช่นทีมอลล์

หากเป็นสินค้าที่คนจีนนิยมอยู่แล้ว มีชื่อเสียงอยู่ก่อนแล้ว หรือเป็นแบรนด์ที่คนจีนคุ้นเคยดีจะไม่ต้องทำตลาดมาก เช่น ทุเรียนหมอนทอง มังคุด และผลไม้ไทยบางประเภท รวมถึงสินค้าที่มีแบรนด์ส่งออกได้ กลุ่มเครื่องสำอาง Luxury หรือเป็นสินค้าจากห้างสรรพสินค้า เหล่านี้ต้องไปลงขายในทีมอลล์ซึ่งต้องมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง มีค่าใช้จ่ายเบื้องต้น แต่ความน่าเชื่อถือของสินค้าก็จะสูงกว่าของเถาเป่าไปด้วย

ส่วน 1168 จะเป็นเสมือนแหล่งรวมร้านค้าส่งของจีน ซื้อยิ่งมาก ก็ยิ่งราคาถูก ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า แฟชั่น เครื่องประดับ อีกข้อดีคือมีการการันตีสินค้าด้วย แต่ข้อด้อยก็คือต้องสั่งจำนวนมากเท่านั้น

สุดท้ายแล้ว ก็อยู่ที่ประเภทของสินค้าที่เราต้องการ ซึ่งหากมองโดยรวมแล้วเถาเป่าและทีมอลล์คือสองเว็บไซต์หลักที่ควรต้องใช้ถ้าต้องการบุกตลาดจีน

อีกประการที่สำคัญ จะบุกตลาดจีนต้องรู้จักโซเชียลมีเดียสำหรับทำคอนเทนท์ ซึ่งกำลังเป็นกระแสสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยโดยเฉพาะในยุคนี้ เนื่องจากปัจจุบัน มากกว่า 50% ของคนจีนที่ใช้บริการสั่งซื้อออนไลน์ได้รับอิทธิพลมาจากข้อมูลข่าวสารบนโซเชียลมีเดีย

ด้านแอพพลิเคชั่นที่คนจีนเข้าลงทะเบียนใช้งานมากที่สุด อันดับต้นๆ ได้แก่ วีแชท โดยขณะนี้มียอดผู้ใช้มากกว่า 1 พันล้านคน ตามมาด้วยคิวคิว(QQ) ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นนิยมใช้งานมากกว่า จากนั้นก็เป็นเว่ยป๋อ และ Tieba ซึ่งเปรียบได้กับเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์ ตามมาด้วย Meituan แอพสำหรับส่งอาหารและรีวิวร้านอาหาร

การทำคอนเทนท์บนช่องทางโซเชียลเหล่านี้มีความจำเป็นอย่างยิ่ง มากกว่านั้นต้องมีการยิงโฆษณาสินค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นนั้นๆ ด้วย