ใช้อินไซด์ ต้อง 'รับโทษ'

ใช้อินไซด์ ต้อง 'รับโทษ'

ใช้ 'อินไซด์' ต้อง 'รับโทษ' อย่าปล่อยผ่าน

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ผมได้เดินทางไปยังรัฐสภาในฐานะ 'ประชาชน' เพื่อยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการรับเรื่องร้องเรียนฯ อันประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับมอบหมายจำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้เพื่อขอให้ดำเนินการติดตามและแสวงหาข้อเท็จจริง กรณีที่น่าสงสัยว่ามีการใช้ 'ข้อมูลวงใน' ในการซื้อขายหุ้นของบริษัทจดทะเบียนฯ บางบริษัทเมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ตลอดจนพฤติกรรมอันอาจเข้าข่ายการ 'ปั่นหุ้น' โดยมี ส.ส.วรภพ วิริยะโรจน์ และ ส.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน ออกมารับหนังสือ

ต่อมา ในวันที่ 27 สิงหาคม ผมได้รับแจ้งจาก ส.ส.วรภพ ว่าได้เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.)ให้ดำเนินการตามที่ผมได้ร้องเรียนไปเป็นที่เรียบร้อย

เบื้องต้น จากการพูดคุย คาดว่านอกจากการยื่นเรื่องต่อ กลต.แล้ว อาจจะมีการตั้งกระทู้ถามในสภาหากเป็นไปได้ ซึ่งถ้าทำได้ก็น่าจะเป็นอีกก้าวหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลง หรือหามาตรการอันยั่งยืน เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนที่ผ่านมา

สิ่งที่ผมได้กระทำลงไป นอกจากเพื่อต้องการให้นำตัวผู้กระทำผิด (ถ้ามี) มารับโทษเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแล้ว ยังมีจุดประสงค์ในการแสดงให้สังคมการลงทุนโดยรวมเห็นว่า เราไม่ควรเพิกเฉยต่อการกระทำที่ไม่ถูกต้องและไม่ยำเกรงต่อกฏหมาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่มีต้นทุนทางสังคม ยิ่งควรกล้าที่จะลุกขึ้นมาเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับสิ่งนั้น

ทั้งนี้ ผมไม่ได้มีเจตนาเลือกปฏิบัติเฉพาะกับบางบริษัท และในหนังสือร้องเรียนที่ผมทำ ก็ได้ยกตัวอย่างกรณีของหลายๆ บริษัทที่เคยเกิดขึ้น ไม่ใช่เพียงกรณีเดียว

แม้มิตรสหายนักลงทุนบางคนจะบอกผมว่า เหตุที่เรื่องการ 'ปั่นหุ้น' หรือ 'ใช้อินไซด์' ไม่เคยมีพรรคการเมืองพรรคไหนกล้าแตะ เป็นเพราะทุกพรรคล้วนมี 'คนใน' ที่มีผลประโยชน์เกี่ยวพันอยู่กับบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งถูกกล่าวหาด้วยกันทั้งสิ้น

แม้กระนั้น หากเรายอมรับสภาพที่เป็นอยู่ โดยไม่คิดที่จะลุกขึ้นมาแก้ไขอะไร ก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น

ใช้ 'อินไซด์' ต้อง 'รับโทษ' อย่าปล่อยผ่าน! อย่ายอมให้ความชั่วช้าเป็นเรื่องปรกติธรรมดาต่อไปเลยครับ