...ประกาศิตของกฎธรรมชาติ !!

...ประกาศิตของกฎธรรมชาติ !!

เจริญพรสาธุชนผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา บนพื้นที่แห่งโลกใบนี้ที่เป็นสนามแห่งแรงกรรม

ตรวจสอบควบคุมทุกชีวิตให้เป็นไปตามวิถีธรรมชาติที่สร้างกฎต่างๆ ขึ้นมา เพื่อสร้างความสมดุลของการเคลื่อนไหวดำเนินไปแห่งโลกนี้ที่วิวัฒนาการมายาวนาน ด้วยกฎธรรมชาติว่าด้วยแรงดึงดูดและแรงผลักดันเป็นปัจจัยสำคัญ

กฎแห่งกรรมเป็นส่วนหนึ่งที่ธรรมชาติสร้างขึ้น เช่นเดียวกับกฎต่างๆ เช่น กฎแห่งความโน้มถ่วงของโลก เป็นต้น ซึ่งเกิดขึ้นจากกระบวนการรวมตัวหรืออิงอาศัยกันของปัจจัยต่างๆ เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน โดย สิ่งเกิดก่อนว่าเป็นสาเหตุ ... สิ่งที่เกิดตามว่าเป็นผล และมีความสัมพันธ์ระหว่างเหตุผลที่ส่งต่อสืบเนื่องเป็นปัจจัยเกื้อซึ่งกันและกัน ที่เรียกว่า ปัจจยาการ...

การเข้าถึงความมีอยู่อย่างเป็นธรรมดาในกฎต่างๆ ของธรรมชาติ จึงพบว่า ไม่มีอำนาจลึกลับใดๆ เหนือธรรมชาติ ด้วยธรรมชาติไม่มีจิตใจ แต่มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่ยุติธรรม สามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างให้เป็นไปในกฎเกณฑ์ของธรรมชาติได้ บางครั้งจะนุ่มนวล.. บางคราวจะแข็งกร้าว ล้วนแล้วเป็นไปตามเหตุปัจจัย ดังกฎแห่งกรรมที่เป็นกฎจริยธรรมของธรรมชาติ อันเป็นเหตุเป็นผล ที่สามารถพิจารณาให้เห็นแจ้งจริงในสัจธรรมดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามลักษณะธรรมที่ชื่อว่าอิทัปปัจจยตา

การเข้าใจความจริง .. ที่มีอยู่จริงในธรรมชาติในทุกมิติ จึงเป็นศาสตร์ชั้นสูงในการศึกษาเพื่อพัฒนาชีวิตให้สามารถออกจากกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ ที่ควบคุมโลกใบนี้อยู่ได้ (โลกุตรธรรม) อันมีเฉพาะการศึกษาปฏิบัติในพุทธศาสนาเท่านั้น โดยจะต้องมีพื้นฐานการศึกษาอยู่ที่ความมีศรัทธาในกรรม, วิบาก, กัมมัสสกตา.. ก่อนเข้าสู่ความศรัทธาในความรู้ระดับโลกุตรธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เองใต้ควงพระศรีมหาโพธิ์ฯ...

กลับมามองดูทุกชีวิตที่รวมตัวเป็นสัตว์สังคม ก่อร่างสร้างประเทศชาติขึ้นมารองรับ คิดค้นหลักกฎหมายต่างๆ ขึ้นมาควบคุม เพื่อการดำเนินชีวิตให้เป็นไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ คือ ประโยชน์และความสุข ซึ่งมิใช่เรื่องที่แปลก แต่ให้น่าพิศวงงงงวย... เมื่อความพยายามกระทำที่หวังผลตอบสนองความต้องการนั้นกลับผิดเพี้ยนไปจากกฎความเป็นธรรมดา หรือหลักธรรมที่มีอยู่ในธรรมชาติ จึงทำให้ไม่สามารถเข้าถึงประโยชน์สุขที่ปรารถนาได้...

ด้วยความวิปลาสคลาดเคลื่อนในจิตใจของสัตว์ อันมีมูลเหตุมาจากอำนาจความแก่กล้าของกิเลส ที่เรียกว่า ตัณหา จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เป็นไปเช่นนี้ ให้ผลเป็นความวิบัติไปจากธรรม ที่ให้รับผลแห่งความเสียหาย อันนำไปสู่ความบกพร่องแห่งองค์ประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อมที่เสียหาย สภาพร่างกายที่บกพร่อง กาลเวลาที่ผิดเพี้ยนไม่เหมาะสม และเรื่องราวที่ไร้ประโยชน์ ไม่เหมาะควร

ประเทศของเราโชคดี มีคำสั่งสอนที่เป็นสัจธรรม แสดงกฎความเป็นจริงในธรรมชาติ อันเป็นหลักธรรมในพุทธศาสนา บรรพชนสืบเนื่องจิตวิญญาณกันมาในวิถีธรรม สังคมไทยจึงเดินทางผ่านวิกฤตการณ์ต่างๆ ของโลกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยหมู่ชนในประเทศปฏิบัติถูกต้องตามธรรม มีสมบัติอันควร มากกว่าหมู่ชนที่ประพฤติผิดทำนองคลองธรรม วิบัติไปจากธรรม

ความเป็นสังคมไทยจึงมีระเบียบแบบแผน วัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ที่หาได้ยากยิ่งในโลก แต่มาถึงบัดนี้ เมื่อกระแสสังคมเคลื่อนไหวไปตามกระแสโลกในยุคโลกาภิวัตน์ ความผิดเพี้ยนวิปลาสไปจากธรรมได้แผ่ซึมซาบเข้ามาสู่จิตวิญญาณคนรุ่นใหม่ในสังคมไทย โดยผ่านเข้ามาทางนวัตกรรมใหม่ด้านเทคโนโลยีที่ชาวโลกสร้างขึ้น

การก่อพฤติกรรมที่ผิดเพี้ยนไปจากธรรม แพร่กระจายไปตามองคาพยพของสังคมอย่างรวดเร็ว จนน่ากลัวต่อโทษภัยที่จะเกิดขึ้น เมื่อคนรุ่นใหม่ในสังคมยอมรับกฎเกณฑ์ที่ผิดเพี้ยนไปจากกฎธรรมชาติ จึงเห็นความเสื่อมในสมบัติที่เคยมีของสังคม...

ปัญหาต่างๆ ในสังคมจึงผุดดอกออกผลมากขึ้น ให้คนดีเบื่อหน่าย .. คนชั่วชอบใจ จึงเกิดการเคลื่อนไหวทางสังคมที่ผิดเพี้ยนไปจากศีลธรรม จริยธรรมอันดีงาม...

หากสังคมไทยไม่พร้อมใจกันหยุดยับยั้งปัญหาดังกล่าว ด้วยการนำสังคมคืนกลับสู่ถิ่นฐานธรรมะ ศึกษากฎเกณฑ์ของธรรมชาติให้เข้าใจ เพื่อใช้ประโยชน์จากความรู้ที่ถูกต้องตรงตามความเป็นจริงที่มีอยู่ในธรรมชาติ เชื่อได้ว่า จักต้องพานพบความวิบัติอีกมากมายที่เกิดขึ้นจากการกระทำที่ผิดเพี้ยนไปของคนในสังคมไทยนั่นเอง... นี่คือประกาศิตของกฎธรรมชาติ ที่เหนือกว่าเทพเจ้าทั้งปวง !!

เจริญพร

[email protected]