ประเทศไทยกับสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นและกำลังจะเกิดต่อๆ ไป

ประเทศไทยกับสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นและกำลังจะเกิดต่อๆ ไป

นับแต่วันที่ 4 พ.ค.2562 เป็นต้นมา ประเทศไทยของเราภายใต้พระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม

ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงเสด็จเถลิงถลัวยราชสมบัติ พสกนิกรทุกหมู่เหล่าจะเห็นได้ถึงพระปรีชาสามารถและพระราชกรณียกิจสำคัญทั้งในการส่วนพระองค์ รวมถึงภารกิจของบ้านเมือง ตั้งแต่การทำนุบำรุงขวัญเกษตรกรซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ ด้วยการเสด็จพระราชดำเนินไปในการมงคลพิธีจรดพระนังคัญแรกนาขวัญ อันเป็นโบราณราชประเพณีที่สืบต่อกันมา รวมไปถึงการมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้ง สมาชิกวุฒิสภา อันจะได้มีการประชุมรัฐสภาครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญปัจจุบันตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม และจะทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินไปในรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ณ ห้องประชุมวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ" ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 ถือได้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจได้อย่างเป็นที่ประจักษ์ทั้งในการส่วนพระองค์และในส่วนของอาณาราษฎรสมดังพระปฐมบรมราชโองการที่ได้ทรงตรัสไว้ในวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

ต่อแต่นี้ไปในกิจการของบ้านเมืองจะเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของฝ่ายการเมือง คือ รัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติที่จะต้องเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินและขับเคลื่อนไปตามบทบัญญัติของ “รัฐธรรมนูญ” ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุด เหมือนดังที่มีสมาชิกวุฒิสภาหลายท่านที่ผมได้มีโอกาสพบปะและได้อวยพรท่านไปในฐานะคนคุ้นเคย บางคนถามว่าอาจารย์จะให้คำแนะนำอย่างไร จึงได้แจ้งไปว่า “ขอให้ทุกท่านทำหน้าที่ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญให้ประสบความสำเร็จ” ต้องบอกว่าคำกล่าวนี้เป็นทั้ง “พร” และเป็น “เกราะกำบังภัย” ให้กับตัวของสมาชิกรัฐสภาทุกคน รวมไปถึงรัฐบาลที่กำลังจะเข้ามาทำหน้าที่ต่อไปด้วย

เพราะรัฐธรรมนูญได้กำหนดกรอบกติกาบทบาทการทำหน้าที่ของแต่ละภาคส่วนไว้อย่างชัดเจน การทำหน้าที่ในการใดที่เป็นการละเลยหรือไม่ปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญ ย่อมเป็นการละเมิดกฎหมายสูงสุดของประเทศ จึงเป็นสิ่งที่สมาชิกทุกท่านจะต้องจดจำไว้ให้เป็นหลักมั่น สำคัญที่สุดยังมีประมวลจริยธรรมซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนแต่ได้มีบัญญัติและบังคับใช้แล้ว บางท่านอาจยังไม่ทราบ และอาจคิดเหมือนกรณีวลีที่พูดกันติดปากในระยะนี้ว่า “ผมเป็นเพื่อนโชค” กรณีตุลาการท่านหนึ่งถูกกล่าวหาว่า อ้างตนเป็นเพื่อนกับผู้กำกับการสถานีตำรวจทางภาคใต้ที่มีชื่อเรียกว่า “โชค” เพื่อจะได้ไม่ต้องให้ตำรวจตรวจใบขับขี่ที่ถูกขอตรวจค้น จะเห็นได้ว่า เรื่องที่ดูเหมือนเล็กน้อย ดังที่มีนักการเมืองบางคนออกมาพูดคล้ายๆว่า เป็นเรื่องปกติในสังคมไทย แต่ต้องทำให้พวกเราและพวกท่านที่ได้กลายเป็นผู้แทนปวงชนต้องกลับมาคิดกันใหม่

เพราะยิ่งเป็นบุคคลสาธารณะ การเป็นบุคคลในกระบวนการยุติธรรม หรือ การเป็นผู้แทนปวงชน การทำหน้าที่หรือการกระทำความผิดที่ทำร้ายจิตใจหรือความคาดหวังของประชาชนย่อมเป็นเรื่องมีผลกระทบบานปลายออกไปได้เกินคาดคิด แต่ที่อาจเป็นเรื่องปวดเศียรเวียนหัวกับบรรดาสมาชิกผู้ทรงเกียรติทั้งหลายอีกประเด็นหนึ่ง คือ บรรดาคนใกล้ชิด ผู้ติดตาม คนแวดล้อมรอบตัวของท่านทั้งหลาย ด้วยเหตุที่ยศถาบรรดาศักดิ์ซึ่งได้มาคราวนี้ มาพร้อมกับบำเหน็จรางวัลไม่เพียงเฉพาะเงินเดือนค่าตอบแทนที่สูงมากใกล้เคียงกับนายกรัฐมนตรี รวมถึงสิทธิพิเศษโอกาสต่างๆ ซึ่งยังหลั่งไหลไปสู่ การแต่งตั้งที่ปรึกษา ผู้ชำนาญการ ผู้เชี่ยวชาญต่างๆ และมีผู้ช่วย สส สว ได้เข้ามาอีก คนเหล่านี้ในบางครั้งมักกลายเป็นปัญหาให้คนที่เป็นผู้บังคับบัญชาต้องคอยแก้ปัญหาให้ ทั้งในเรื่องที่กระทำได้ตามปกติวิสัย หรือ ที่เคยเห็นบางท่านในอดีตอาจต้องใช้อำนาจหน้าที่ในการร้องขอหรือแสดงตนเพื่อคลายทุกข์คลายปัญหาให้กับคนเหล่านี้รวมถึงญาติสนิทมิตรสหายของตัวผู้ทรงเกียรติเหล่านั้นเอง

จึงต้องเตือนสติและให้ท่านทั้งหลายได้ตระหนักรู้ว่า บัดนี้ประเทศไทยได้เข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างเต็มรูปแบบแล้ว เพราะรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2560 กระทั่งปี 2562 เราได้ปรากฏองคาพยพต่างๆ สมบูรณ์ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ท่านทั้งหลายกำลังจะได้เห็นกลไกและฤทธิ์เดชตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่จะขับเคลื่อนสิ่งต่างๆ ให้ประเทศไทยของเราเดินหน้าทัดเทียมนานาอารยประเทศต่อไป