คนแบบไหน หัวใจฮีโร่

คนแบบไหน หัวใจฮีโร่

ฮีโร่ไม่ได้มีแต่ในหนัง ชีวิตจริงก็มีฮีโร่จำนวนไม่น้อย ในทางวิชาการมีการวิจัยเรื่องฮีโร่กันมานานแล้ว

 เพื่อหาคำตอบว่าอะไรทำให้คนธรรมดากลายเป็นฮีโร่ขึ้นมาได้ ผลพลอยได้จากงานเหล่านี้ก็คือ เรามีเกณฑ์สำหรับจับผิดฮีโร่ตัวปลอมด้วย เกณฑ์ที่ใช้ประเมินมีอยู่ 7 ข้อด้วยกัน

ข้อที่ 1 ฮีโร่ตัวจริงเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าตัวเอง

ผลการวิจัยพบว่า พฤติกรรมของการเป็นฮีโร่เกิดจากการเอาใจใส่และเห็นอกเห็นใจคนอื่นต้องการให้คนอื่นอยู่ดีมีสุข ฮีโร่จะมีสัมผัสที่ไวกับเรื่องเหล่านี้มากกว่าคนทั่วไป

ฮีโร่ตัวปลอมมักห่วงแต่ความรู้สึกของตัวเอง ทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีโดยไม่สนใจว่าคนรอบข้างจะได้รับผลกระทบอย่างไร

ข้อที่ 2 ฮีโร่สามารถมองเรื่องราวต่างๆ จากมุมมองของคนอื่นได้

แม้ว่าฮีโร่จะเป็นศูนย์กลางของความสนใจ แต่เขากลับสามารถมองเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากมุมมองของคนอื่น ซึ่งการทำเช่นนี้ทำให้มองเห็นว่าเขาจะให้ความช่วยเหลือคนเหล่านั้นได้อย่างไร

ฮีโร่ตัวปลอมพยายามยัดเยียดมุมมองและชุดความคิดของตนเองให้กับคนอื่น ราวกับว่าเขาคือแกนกลางของจักรวาล สัจธรรมเดียว คือ ทุกสิ่งต้องหมุนตามเขาเท่านั้น

ข้อที่ 3 ฮีโร่เก่งจริงและมีความมั่นใจในตัวเอง

ฮีโร่ตัวจริงรู้ว่าตัวเองมีดีอะไร สิ่งนี้เป็นรากฐานของความมั่นใจ เขาจึงไม่ลังเลจะยื่นมือช่วยเหลือคนที่เดือดร้อน แม้บางครั้งอาจทำไม่สำเร็จ เนื่องจากเป็นสถานการณ์ที่เกินความสามารถ หรือมีเหตุสุดวิสัยเข้ามาแทรก ความล้มเหลวจะไม่บั่นทอนกำลังใจหรือความเชื่อมั่นของเขา กลับเป็นแรงผลักให้พัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นกว่าเดิม

ฮีโร่ตัวปลอมนั้น เบื้องลึกในใจรู้ดีกว่าตัวเองไม่ได้มีคุณสมบัติเพียงพอกับคำว่าฮีโร่ จึงต้องขู่ ต้องแสดงออกว่าตนเองเป็นคนเก่งให้คนอื่นได้รู้ วางอำนาจ ทำเสียงดัง ชอบข่มขู่คนอื่นหรือคนที่เห็นต่างจากเขา

ข้อที่ 4 ฮีโร่มีเข็มทิศ ทางจริยธรรมที่เข้มแข็งกว่าคนทั่วไป

ฮีโร่จะไม่ประณีประนอมกับสิ่งที่ผิดต่อจริยธรรมในใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กแค่ไหนก็ตาม เขาทำเช่นนี้ไม่ใช่เพราะต้องการคำชื่นชมจากคนอื่น แต่เป็นเพราะรู้ดีว่า พลังใจในการทำสิ่งดีงามเริ่มต้นจากทำสิ่งเล็กน้อยให้ถูกต้อง หากมีการทำผิดไปจากเข็มทิศทางจริยธรรมที่เขายึดถือ ฮีโร่ก็พร้อมจะกล่าวขอโทษ และดึงตัวเองกลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้องได้อีกครั้ง

ฮีโร่ตัวปลอมมีข้ออ้างในการทำผิดเสมอ หากการทำผิดนั้นจะช่วยปกป้องตัวเขาจากสิ่งที่เขาไม่ต้องการเผชิญ เขาสามารถยกเหตุผลสารพัดมาอธิบายกับคนอื่นว่า การทำผิดของเขาสมเหตุสมผลเพราะเหตุใด บางครั้งก็ไม่ลังเลที่จะทำผิดซ้ำเพื่อปกปิดความผิดเดิมที่ทำไว้

ข้อที่ 5 ฮีโร่เป็นคนที่มีการฝึกฝนตนเองทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

ฮีโร่เป็นผู้ที่เคี่ยวกรำตนเองอยู่เสมอ ไม่ใช่เพราะต้องการเอาชนะ เขาฝึกฝนตัวเองเพื่อให้ตัวเองมีพลังเพียงพอจะช่วยเหลือคนรอบข้างได้เมื่อจำเป็นต้องทำเช่นนั้น จิตใจที่คิดถึงคนอื่นยังเป็นพลังสำคัญที่ทำให้ฮีโร่มีวินัยในการฝึกฝนเพื่อให้ตนเองพัฒนาขึ้น

ฮีโร่ตัวปลอมเน้นการสร้างภาพ มักพูดให้ตัวเองดูดี ชอบมองหาทางลัดไปสู่เป้าหมาย ไม่ยอมเผชิญกับความลำบาก

ข้อที่ 6 ฮีโร่รู้ว่าเมื่อไหร่ควรแสดงความรู้สึก

ฮีโร่ก็คือคนธรรมดาที่มีอารมณ์ความรู้สึก สามารถดีใจ เสียใจ หัวเราะ ร้องไห้ เช่นเดียวกับคนทั่วไป แต่เขารู้ว่าเมื่อไหร่ควรเก็บอารมณ์เหล่านี้ไว้กับตัว เมื่อไหร่ที่ควรปลดปล่อยมันออกมา เขาจะไม่ปล่อยให้อารมณ์ของตัวเองไปทำร้ายความรู้สึกของคนอื่นเป็นอันขาด

ฮีโร่ตัวปลอมมักตกเป็นเหยื่อของอารมณ์ ไม่สามารถเก็บอารมณ์เอาไว้ได้ โดยเฉพาะอารมณ์เกรี้ยวกราดฉุนเฉียว เพราะเขาใช้การทำร้ายความรู้สึกของคนอื่นมาเป็นเครื่องบรรเทาความเจ็บปวดทางใจของตัวเอง

ข้อที่ 7 ฮีโร่พร้อมจะเดินหน้าต่อไปโดยไม่ตีโพยตีพาย แม้แต่ตอนที่กลัวจนขาสั่น

ฮีโร่ไม่ใช่คนที่ไม่กลัวอะไร เขารู้สึกกลัวได้ แต่ไม่ว่าจะหวาดกลัวแค่ไหน หากเป็นสิ่งที่ต้องทำ เขาก็จะเดินหน้าทำมันทั้งที่ขายังสั่นอยู่ เพราะหากเลือกการเดินหนี ก็เท่ากับเป็นการทำลายตัวตนของตนเอง ถึงตัวปลอดภัย แต่หัวใจไม่มีวันสงบ

ฮีโร่ตัวปลอมจะแสดงความกล้าเฉพาะเรื่องที่ตัวเองมั่นใจว่าจะชนะ พยายามหลีกเลี่ยงทุกทางไม่ให้ตัวเองต้องทำอะไรที่ทำให้เสียเปรียบ พร้อมวิ่งหนีทุกเวลาเมื่อเห็นว่าเดินหน้าต่อไปก็ไม่คุ้มค่า

ลองเอาหลักการทั้ง 7 ข้อนี้ไปประเมินดูว่าคนไหนบ้างที่เข้าข่ายเป็นฮีโร่ตัวจริง เพราะช่วงนี้ฮีโร่ตัวปลอมมีให้เห็นเยอะเหลือเกิน