เตรียมพร้อม 'เม็ดเงินต่างชาติ' สู่ตลาดหุ้นไทย

เตรียมพร้อม 'เม็ดเงินต่างชาติ' สู่ตลาดหุ้นไทย

ธนาคารกลางหลายแห่งของโลกมีแนวโน้มจะลดการคุมเข้มสภาพคล่อง และการปล่อยสินเชี่อ

ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวได้ดีเกินคาดหลังจากจบสิ้นไตรมาสแรกของปี รวมถึงประเทศไทย (อัตราผลตอบแทนลงทุนตลาดหุ้นไทย 7.28% จากต้นปี เทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 1.30-1.75% ต่อปี) ซึ่งเกิดจากปัจจัยที่ธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยปีนี้เทียบกับคาดการณ์เดิมว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มอีก 0.75% ในปี 2562 นอกจากนี้ผลกระทบต่อความตึงเครียดระหว่างข้อพิพากการค้าระหว่างสหรัฐ และจีนนับจากต้นปี 2561 ดูผ่อนคลายมากขึ้นภายหลังการตั้งโต๊ะเจรจาการค้าของสองประเทศในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา

ยิ่งกว่านั้น ธนาคารกลางหลายแห่งของโลกมีแนวโน้มจะลดการคุมเข้มสภาพคล่อง และการปล่อยสินเชี่อ เนื่องจากตัวเลขอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจปรับชะลอลงจนเข้าสู่เขตปกติ ไม่ร้อนแรงเกินไปแล้ว ทำให้ธนาคารกลางหลายประเทศเริ่มพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย หรือ พร้อมอัดฉีดสภาพคล่องการเงินเข้าสู่ระบบหากตัวเลขอัตราขยายตัวเศรษฐกิจยังมีแนวโน้มอ่อนตัวลงมากจากระดับปัจจุบัน

สำหรับประเทศไทย เราผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว เพียงรอการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เท่านั้น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจพร้อมประกาศใช้ทันทีเมื่อรัฐบาลใหม่ (ไม่ว่าจะนำโดยพรรคใดก็ตาม) เข้าสู่สภา จริงอยู่.. แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจ และกำไรบริษัทจดทะเบียนยังขยายตัวได้ไม่ดีนัก แต่นักลงทุนน่าจะมีความเชื่อมั่นว่า กำไรของบริษัทจดทะเบียนไทยน่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้น และราคาหุ้นหลายบริษัทได้สะท้อนการคาดหวังของนักลงทุนต่ออัตราขยายตัวกำไรที่ต่ำ ผ่านสัดส่วน ราคาหุ้น/กำไร ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี

ตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ถือว่าปรับตัวได้แย่รั้งท้ายเทียบกับตลาดหุ้นเอเซียอื่น ขณะที่เม็ดเงินต่างชาติยังไหลไปตลาดหุ้นเอเซียหลายแห่งมากกว่า อย่างไรก็ดี มุมมองของผม คือ ตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในเรดาร์นักลงทุนต่างชาติ และดูมีความน่าสนใจเพิ่มมากกว่าเดิมในสายตาของต่างชาติอีกด้วย

หากพิจารณาแสดงความแตกต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนเงินปันผลตลาดหุ้นไทยกับเอเซีย พบว่า ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนปรับตัวลดลงและบ่งชี้ว่า ตลาดหุ้นไทยเข้าโซนมูลค่าถูกเทียบตลาดหุ้นเอเซียโดยรวม

ข้อสังเกต คือ หากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นในตลาดหุ้นไทยท่ามกลางความไม่แน่นอน แต่ดัชนีนี้เข้าสู่โซนระดับล่าง (เส้นสีเขียว)ตลาดหุ้นไทยมักจะผ่านจุดต่ำสุดไปได้ และสามารถปรับตัวขึ้นได้ดีต่อจากกำไรบริษัทฯที่จะฟื้นตัวได้ดีขึ้นในอนาคต ซึ่งทำให้เราสามารถสร้างอัตราผลตอบแทน โดยผมยังประเมินว่า โอกาสนักลงทุนต่างชาติจะเทเงินเข้าสู่ตลาดหุ้นไทยนั้นเพิ่มมากขึ้น

กลยุทธ์ทำไงดี ? ทางเลือกลงทุน

1.เราสามารถซื้อหน่วยลงทุน BMSCITH /BSET100 ได้จากกระดานซื้อขายหุ้น

2.เปิดสัญญา LONG ใน TFEX

3.เลือกซื้อหุ้นในกลุ่มที่ได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักมากเป็นพิเศษจากสัดส่วน NVDR หรืออาจเพิ่ม Leverage ผ่าน block trade ซึ่งบล. บัวหลวงมีบริการนี้สำหรับลูกค้าด้วยเพียงอัตราดอกเบี้ย 5.06% ต่อปีเท่านั้น