Toddler จากปัญหามาสู่ธุรกิจ

Toddler จากปัญหามาสู่ธุรกิจ

คุณวิภาวรรณ วิวิธเทศ (คุณแนน) เจ้าของธุรกิจถุงเก็บน้ำนมแม่ แบรนด์ “ท็อดเลอร์” (Toddler)

เริ่มต้นมาจากการประสบการณ์ของคนในครอบครัวและเพื่อนร่วมงานที่มีโอกาสได้ใช้ถุงเก็บน้ำนมที่วางขาย ต้องพบกับปัญหาถุงเก็บน้ำนมแตกและรั่วซึมอยู่บ่อย คุณแนนจึงให้ความสนใจในการพัฒนาสินค้าใหม่ให้แก้ไขปัญหาที่คุณแม่ต้องพบเจอ

คุณแนนเริ่มจากการศึกษาวัสดุและพบว่า วัสดุมีอยู่สองประเภทคือ พลาสติกชนิด Low-density polyethylene (LDPE) กับ Polypropylene (PP) โดยทาง Toddler จะเลือก LDPE มาใช้ เนื่องจากเนื้อของพลาสติกมีความยืดหยุ่นที่สูงกว่า แต่ความหนาของเนื้อไม่เท่ากับ PP ซึ่งจะมีผลในเรื่องความคงทน คุณแนนและผู้ผลิตจึงพยายามหานวัตกรรมที่จะนำมาช่วยแก้ไขปัญหา จนนำมาสู่ Toddler เนื้อ LDPE ที่เป็น Crystal Clear Plastic ซึ่งมีความเหนียว หนา และ ใส โดยความใสจะทำให้คุณแม่มองเห็นตะกอนการเปลี่ยนแปลงของสีของน้ำนมได้ชัดเจนขึ้น และ เมื่อบรรจุน้ำนมและนำไปแช่แข็งหรือถูกนำมาละลาย ตัวถุงจะยืดหยุ่นได้สูง ดังนั้นจะไม่เกิดการรั่วซึมตามขอบถุงเช่นวัสดุแบบเดิมๆ เพื่อที่จะควบคุมคุณภาพของสินค้า ผลิตภัณฑ์ของ Toddler เลือกใช้วัสดุที่เป็น food grade ทั้งหมดอีกทั้งมีการส่งตรวจสอบมาตรฐานการควบคุมสารเคมีตกค้างที่ประเทศญี่ปุ่น

นอกจากนั้น จุดเด่นอีกอย่างของสินค้า คือตัวถุงเป็น Triple zip มีซิปล็อค 3 ชั้น ป้องกันการรั่วซึมได้มากยิ่งขึ้น ด้วยระบบซิปกลม 2 ชั้น ป้องกันของเหลวรั่วซึมและระบบซิปเหลี่ยม 1 ชั้น ป้องกันอากาศเข้า เนื่องจากอากาศมีผลต่อความเย็นและแรงดันภายในถุง

คุณแนนยังพัฒนาในถุงเก็บน้ำนม Toddler เป็นMulti-Color Bag สีสันสดใสมีให้เลือกมากถึง 7 สี ซึ่งมีประโยชน์คือสีสันจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กได้ดี อีกทั้งคุณแม่ยังสามารถใช้สีแบ่งจำนวนออนซ์ในการเก็บ หรือใช้แบ่งตามจำนวนวันก็ได้ ใช้ได้สะดวกมากขึ้น

คุณแนนเล่าว่า ในช่วงเริ่มต้นของธุรกิจนั้น ต้องพบกับปัญหาของยอดขาย จนรู้สึกท้อว่า ทำไมตั้งใจผลิตสินค้าดีแต่ไม่ได้รับการตอบรับเท่าที่ควร ยอดขายอยู่ในระดับหลักหมื่นต่อเดือน แต่จากการที่ได้ที่คุณแม่บางท่านที่ใช้สินค้าและประทับใจในคุณภาพช่วยมารีวิวสินค้าให้ทำให้เกิดกำลังใจในการทำธุรกิจกลับมาอีกครั้ง

นอกจากนั้นโอกาสทางการตลาดเกิดจากที่ รัฐบาลสนับสนุนให้คุณแม่หยุดงานหรือลางานได้นานขึ้นเพื่อให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ รวมถึงมีการออกกฏให้โรงพยาบาลมีการจัดคอร์สอบรมสำหรับการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ คือ คอร์สการดูปฏิบัติและการดูแลตนเองของคนตั้งครรภ์ และ คอร์เตรียมความพร้อมสำหรับการคลอด ซึ่งจะสอนเกี่ยวกับ การดูแลตัวเองก่อนคลอด และ การเลี้ยงลูกหลังคลอด การให้นมบุตร โดยหนึ่งในเนื้อหาจะสอนให้คุณแม่มือใหม่ได้รู้ว่า หากคุณแม่มีน้ำนมมากควรต้องใช้ถุงในการเก็บน้ำนม เมื่อมีการ Educate ตลาดมากขึ้น ทำให้ตลาดถุงเก็บน้ำนมเติบโตมากขึ้น

สำหรับกลยุทธ์เรื่องราคานั้น บางแบรนด์ในตลาดเลือกที่จะแข่งขันกันด้วยราคา ในขณะที่บางแบรนด์เน้นการแข่งขันด้วยคุณภาพ สำหรับ Toddler นั้นเลือกจะแข่งด้วยคุณภาพ หากต้องเน้นเรื่องราคา จะใช้ในรูปแบบของการขายยกลัง คุณแนนเล่าว่า คุณแม่ในยุค 4.0 นั้น หาข้อมูลเยอะมาก่อนที่จะตัดสินใจซื้อของ ดังนั้นแม้มีการเปรียบเทียบราคาแต่เรื่องความคุ้มค่ากับคุณภาพก็เป็นหลักในการตัดสินใจ

คุณแนนให้ความคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับ consumer insight ในตลาดแม่และเด็กว่า การที่สินค้าจะเข้าไปนั่งใจคุณแม่ได้นั้น หัวใจสำคัญเลยก็คือการให้ความรู้คุณแม่ นอกจากนั้นการให้ความสำคัญกับคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะกับสินค้าใหม่ คุณแม่ในยุค 4.0 จะให้ความสนใจและยอมทุ่มเงินในการซื้อ แม้คุณแม่จะกลับมาทำงาน คุณแม่และครอบครัวในยุคนี้จะไม่หยุดที่จะช้อปสินค้าให้กับลูก ดังนั้นแม้เศรษฐกิจช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีเศรษฐกิจที่ชะลอตัวหรือไม่ดี แต่สินค้าแม่และเด็กกลับไม่ได้รับผลกระทบเลย

กรณีศึกษา Toddler สะท้อนให้เห็นถึงการเข้าใจพฤติกรรมการใช้งาน ปัญหาและข้อจำกัดของสินค้าเดิมที่มีในตลาด นำนวัตกรรมมาเพื่อสร้างสินค้าใหม่ที่ลด pain และ สร้าง gain แม้จะเป็น follower ในตลาด แต่ก็สามารถสร้างฐานลูกค้าและสร้างส่วนแบ่งการตลาดได้อย่างดี

--------------------------------

เครดิตกรณีศึกษาและการสัมภาษณ์ โดยคุณ ธนัชพร เถลิงพล หลักสูตรตรีควบโท วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล