จากจีนถึงไทย

ที่ควบคุมไม่ได้นั้น เปลี่ยนแปลงพลิกผันอย่างรุนแรง รวดเร็ว และบ่อยครั้ง (2) วิธีคิดแบบเดิม ๆ ที่อยู่บนความเชื่อที่ว่า อนาคตคือเส้นตรงที่ลากต่อจากอดีต ข้อนี้คือกับดักทางปัญญาอย่างแท้จริง

การท่องเที่ยวคือแหล่งรายได้สำคัญของไทยช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากตัวเลขของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ปี 2560 ไทยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35.38 ล้านคน มากสุดคือจีน กว่า 9.8 ล้านคน (ปี 2559 กว่า 8.7 ล้านคน ปี 2558 กว่า 7.9 ล้านคน) คิดเป็นสัดส่วน 27.7 % จีนยังสร้างรายได้สูงสุดกว่า 524,000 ล้านบาท คาดการณ์ว่าปี 2561 จะมีนักท่องเที่ยวจีนกว่า 11 ล้านคน และมันก็เป็นดังคาด ช่วงครึ่งปีแรก จีนเที่ยวไทย 5.93 ล้านคน เพิ่มขึ้น 25.88 % สร้างรายได้ 241,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.77 %

จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นกรกฎาคม เปอร์เซนต์นักท่องเที่ยวแทนที่จะเพิ่ม 2 หลักเหมือนทุกเดือน กลับติดลบ 0.87 % สิงหาคมยิ่งหนัก -11.77 % กันยายนคงติดลบมากขึ้นอีก ที่น่าสนใจคือ 1 – 10 ตุลาคมที่เป็นช่วงหยุดวันชาติจีน ยอดพักหายไป 30 – 50 % ในเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต ฯลฯ สถานการณ์หนักขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งติดตามข่าวสารจากทุกฝ่าย ยิ่งน่าห่วงท่องเที่ยวไทย

นี่คือตัวอย่างของการใช้วิธีคิดแบบเส้นตรงมาทำนายอนาคต (ที่ผู้เขียนเตือนอยู่เสมอ) ความพลิกผันแปรเปลี่ยนเช่นนี้แม้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ทุกครั้งที่เกิดจะสร้างความเสียหายมหาศาล เราจึงต้องย้ำเตือนตัวเองถึงจุดอ่อนและข้อจำกัดต่าง ๆ ก่อนที่จะใช้มัน

แล้วมีวิธีอื่นที่ดีกว่าไหม ? แม้เป็นศาสตร์โบราณที่คนปัจจุบันไม่เห็นค่า แต่โหราศาสตร์ก็ทำนายอนาคตได้ดีมาก โดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนผ่านทั้งหลาย ในงานสัมมนา “Turning Point 2017 : นักเศรษฐศาสตร์ปะทะโหราจารย์” เมื่อ 20/1/2560 ผู้เขียนทำนายว่า “...ราหูเข้ากรกฎ ในกรกฎมีดาวจันทร์ จันทร์หมายถึงการท่องเที่ยว ราหูเดิมเป็นตัวที่ให้โทษในดวงเมืองอยู่แล้ว นับตั้งแต่กันยายนนี้ไปอีกปีครึ่ง มีแนวโน้มสูงมากที่การท่องเที่ยวจะประสบปัญหา...”

(https://www.youtube.com/watch?v=HnmZZWsblxM คลิปนาทีที่ 122)

ราหูเข้ากรกฎ 9 กันยายน 2560 ทำไมท่องเที่ยวเพิ่งตกเมื่อกรกฎาคม 2561 ? ในหลักการพยากรณ์ เหตุการณ์จะเกิดขึ้นเมื่อดาวจรทำมุมถึงดาวเดิมสนิทองศาเท่านั้น  ราหูจรราศีละ 18 เดือน ราหูย้อนจักรจากปลายกรกฎ กว่าจะถึงจันทร์เดิมที่ 11:38 องศา ก็เป็นเดือนกรกฎาคม 2561 เหตุที่ยังโตก่อนหน้าก็เพราะพฤหัสตุลย์เป็นเกณฑ์ 4 กับจันทร์เดิมนั่นเอง

ไม่เพียงเท่านี้ การกลับทิศกะทันหันจากบวกเป็นลบ ยังได้รับอิทธิพลจากคราสด้วย ใน “คราส 2561” เมื่อ 19/1/2561 (http://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/643680) ผู้เขียนทำนายว่า “...วันที่ 13 กรกฎาคม เวลา 9:48 น. เกิดสุริยคราสในราศีเมถุนที่ 26:34 องศา คราสนี้ 90 กับราหูเดิมในภพ 12 (วินาศ) ของดวงเมือง กลุ่มใต้ดินและศัตรูลับของบ้านเมือง (โดยเฉพาะต่างชาติ) จะเคลื่อนไหวก่อการ ราหูจรในกรกฎ-แม่ธาตุน้ำ พึงระวังภัยอันตรายที่เกี่ยวกับน้ำหรือสถานที่ใกล้น้ำ...”

คราสมีกำลังสูงสุดภายในหน้า 7 หลัง 7 วัน วันที่ 5 กรกฎาคม เรือนักท่องเที่ยวจีนล่มที่เกาะเฮ-ภูเก็ต เหตุเกิดจากผู้ประกอบการชาวจีน (ต่างชาติ) แก็งค์ทัวร์ศูนย์เหรียญ (กลุ่มใต้ดิน) ฝ่าฝืนคำสั่งทางการเรื่องคลื่นลมแรง วันนั้นราหูทับจันทร์เดิมสนิทพอดี มีผู้เสียชีวิต 45 คนและบาดเจ็บนับร้อย การจัดการภัยพิบัติที่ไร้ประสิทธิภาพ การดูแลรักษาความปลอดภัยที่ไม่ดีพอ และการเพิกเฉยไม่สืบสวนหาผู้กระทำผิดในหน่วยราชการ (ที่ปล่อยให้มีแก็งค์นี้) ของฝ่ายไทย ทำให้รัฐบาลจีนและชาวจีนไม่พอใจมาก นับจากนั้นทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิม

วันที่ 28 กรกฎาคม เกิดจันทรคราส (เต็มดวง) ที่ 10:38 องศามังกร เล็ง 180 จันทร์เดิมสนิท สถานการณ์ยิ่งย่ำแย่ คราสมีอิทธิพล (อย่างน้อย) 1 ปี วันที่ 27 กันยายน อังคารมังกรทับคราสและเล็งจันทร์เดิมอีกครั้ง เกิดเหตุการณ์ที่สนามบินดอนเมือง คนจีนไม่จ่ายทิป ถูกรปภ.ทำร้าย และถูกส่งกลับ ไม่มีคำอธิบายที่กระจ่างชัดเจนจากรัฐบาลในเรื่องค่าทิป ภาพลักษณ์ประเทศมัวหมอง ความรุ่งเรืองจากนักท่องเที่ยวจีนสูญหายกลายเป็นความตกต่ำ

วิธีคิดแบบเส้นตรงทำให้เราเชื่อว่านักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ เราจึงประมาท ไม่เคยตรวจสอบตัวเองและบริหารจัดการให้ดี แต่ปล่อยทุกอย่างไปตามยถากรรม ที่สุดก็กลายเป็นปัญหาที่ย้อนกลับมาทำลายตัวเอง  ราหูจรกรกฎถึง 23 มีนาคม 2562 นักท่องเที่ยวจีนจะเป็นปัญหาใหญ่ของไทยต่อไป พฤหัสพิจิกที่ตรีโกณจันทร์เดิม ช่วยบรรเทาไม่ให้มันเลวร้ายมาก (หรือเฟื่องฟูปลายปีแล้วฟุบต่อ) ถึงนาทีนี้การมองโลกสวยและปลอบใจตัวเอง ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้

ถ้าถือจันทร์เป็นลัคน์ ตอนนี้ราหูทับลัคน์และเสาร์ธนูอยู่ภพ 6 (อริ) จันทร์ถูกเบียนหนัก ยังมีมฤตยูเมษในภพ 10 อีก ท่องเที่ยวไทยถ้าอยากดีดังเดิม ต้องปรับตัวยอมรับการเปลี่ยนแปลง มิฉะนั้นถ้าราหูเข้าเมถุนในภพ 12 (วินาศ) เล็งเสาร์ จะถูกกัดกร่อนบ่อนทำลายจากทั้งภายนอกภายใน เมื่อเสาร์เข้ามังกร 24 มกราคม 2563 เล็งจันทร์เดิม ทุกอย่างจะยิ่งทรุด ซบเซาหนัก และยากที่จะกอบกู้ฟื้นคืน

เศรษฐกิจไทยหลายปีนี้ประคองตัวได้ อาศัยเครื่องยนต์ 2 ตัวคือส่งออกกับท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก สงครามการค้าจีนอเมริกามีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและลากยาวไปอีกหลายปี แม้มีการย้ายฐานผลิตบางส่วนมาที่ไทย แต่ปริมาณการค้าในภาพใหญ่ทั้งโลกลดลง ส่งออกไทยคงได้รับผลกระทบตามไปด้วย

เมื่อดูดวงเมืองจีน เศรษฐกิจจะชะลอตัวหรือซึมลงไปเรื่อย ๆ ถึงกันยายน 2563 เป็นอย่างน้อย ถ้าแย่สุด ๆ อาจยืดเยื้อถึงมีนาคม 2566  คนจีนมีกำลังซื้อน้อยลง เงินหยวนอ่อนค่า นักท่องเที่ยวจีนย่อมหายไปด้วย นี่คือปัญหาใหญ่ของท่องเที่ยวไทยในอนาคตอันใกล้

ผลกระทบจากจีนถึงไทยยิ่งใหญ่กว่าที่คิด เราเตรียมตัวกันหรือยัง