วางแผนอนาคตให้ธุรกิจ ด้วยภาพจำลองสถานการณ์

วางแผนอนาคตให้ธุรกิจ ด้วยภาพจำลองสถานการณ์

ในปัจจุบันที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ต่างๆ ไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นในด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม 

การวางแผนธุรกิจในอนาคต จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการเพื่อให้รองรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที

เทคนิคหรือกรรมวิธีการวางแผนธุรกิจที่เคยใช้และเป็นวิธีที่ยอมรับการมาแต่เดิม เช่น การพยากรณ์อนาคตจากการใช้ข้อมูลแนวโน้มของสถิติที่เกิดขึ้นในอดีต เริ่มที่จะทำให้ผลการพยากรณ์ไม่แม่นยำเหมือนเดิม เนื่องจากการเกิดขึ้นของสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้ขาดข้อมูลหรือสถิติที่จะนำมาใช้เป็นค่าฐานสำหรับการพยากรณ์อนาคต

วิธีการใหม่ที่ได้รับความสนใจจากนักบริหารธุรกิจสมัยใหม่เพื่อนำมาใช้ประกอบในการวางแผนกลยุทธ์ในอนาคตให้กับธุรกิจวิธีหนึ่ง ได้แก่ การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจด้วยการสร้างภาพจำลองสถานการณ์ หรือ Scenario Planning ซึ่งจะทำให้ธุรกิจสามารถปรับตัวเข้ากับสภาวะในอนาคตได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

หลักการที่สำคัญ จะใช้วิธีให้ผู้บริหารหรือนักกลยุทธ์ขององค์กร หรือผู้เชี่ยวชาญภายนอก มาช่วยกันระดมสมองเพื่อสร้างภาพจำลองของธุรกิจว่า ในอนาคต ธุรกิจจะมีสภาพเป็นอย่างไร และโดยปกติ มักจะได้ภาพอนาคตออกมาประมาณ 3-4 ฉากที่แตกต่างกัน

ทำให้ได้แบบจำลองฉากของธุรกิจในอนาคต เพื่อมาเป็นต้นแบบของการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจให้เหมาะสำหรับสถานการณ์สมมติในฉากอนาคตแต่ละฉากที่สร้างขึ้นมา

ฉากภาพในอนาคต จะถูกสร้างขึ้นมาจากข้อมูลอย่างน้อย 3 ส่วน คือ

(1) ข้อมูลที่มีสถิติย้อนหลังและสามารถใช้เป็นแนวทางในการพยากรณ์อนาคตไปข้างหน้าได้ค่อนข้างแม่นยำ เช่น ข้อมูลภายในของธุรกิจที่เป็นอยุ่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจุดแข็ง จุดอ่อน ความสามารถหลัก ความสามารถพิเศษ ฯลฯ

(2) ข้อมูลที่มีผู้วิเคราะห์แนวโน้มในอนาคตไว้บ้างแล้ว และน่าเชื่อถือได้ว่ามีความเป็นไปได้สูง เช่น แนวโน้มของสังคมสูงวัย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (สภาวะโลกร้อน) การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะทำให้การสื่อสารเกิดขึ้นได้อย่างกว้างขวางและรวดเร็วขึ้น และ สังคมไร้เงินสด เป็นต้น

(3) ข้อมูลที่เกิดจากจินตนาการว่าอนาคตต่อไปจะความเป็นไปได้ที่จะมีสภาพอย่างไร โดยการอนุมานหรือคาดการณ์จากแนวโน้มที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

บริษัท เชลล์ (Shell) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก เป็นผู้นำในการนำกระบวนการ Scenario Planning มาใช้ในการทำนายอนาคตของโลกเพื่อเตรียมแผนกลยุทธ์ธุรกิจที่จะมารองรับ โดยในปี 2005 เชลล์ได้สร้างฉากภาพของโลกในปี 2025 ออกเป็น 3 สถานการณ์ คือ โลกที่เต็มไปด้วยกฏหมายกฏระเบียบที่เข้มงวด เพื่อปกป้องคุ้มครองประชากรของโลกจากภัยคุกคามของการก่อการร้าย โลกที่เต็มไปด้วยความร่วมมือร่วมใจการประสานงานที่ดีด้วยความเชื่อถือซึ่งกันและกันทั้งในระดับองค์กรและระดับธุรกิจ และโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขันเพื่อครองความเป็นผู้นำด้วยความเชื่อที่ว่าการเป็นผู้ชนะจะทำให้เปรียบในการแข่งขัน และด้วยฉากภาพที่แตกต่างกันทั้ง 3 สถานการณ์นี้ ทำให้เชลล์เตรียมสร้างกลยุทธ์ธุรกิจไว้รองรับไม่ว่าโลกจะพัฒนาไปสู่ฉากภาพใดก็ตาม หรือแม้แต่การผสมผสานระหว่างฉากภาพเหล่านี้ เพื่อให้สามารถครองความเป็นผู้นำทางธุรกิจไว้ได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง

โดยปกติแล้ว การสร้างภาพจำลองสถานการณ์ในอนาคต จะเริ่มจากการตั้งโจทย์ประเด็นที่เป็นสาระสำคัญที่จะวิเคราะห์ และการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย โดยเน้นไปที่ข้อมูลที่จะสะท้อนการชี้บ่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่มาจากสื่อต่างๆ วารสารวิชาการ ความเคลื่อนไหวในสื่อสังคม ข้อมูลจากเว็ปไซต์และอินเตอร์เน็ต รวมถึงข้อมูลจากการประชุม สัมมนา หรือเวทีจากการวิพากษ์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของนักวิชาการ นักการเมือง หรือนักธุรกิจชั้นนำ เป็นต้น

ข้อมูลที่มาจากแหล่งข้อมูลต่างๆ จะถูกนำมาแยกแยะเป็นประเด็นตามแนวโน้มของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในมิติต่างๆ เช่น ผลกระทบด้านสังคม ผลกระทบด้านเทคโนโลยี ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และผลกระทบด้านการเมืองการปกครอง เป็นต้น

ผลกระทบต่างๆ จะถูกนำมาเรียงลำดับความสำคัญตามโอกาสและความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นได้มากน้อยเพียงใด และหากเกิดขึ้นแล้ว จะสร้างผลกระทบได้มากหรือน้อยเพียงใดต่อโจทย์คำถามที่ได้ตั้งไว้ตั้งแต่ต้น

การใช้แนวทางใหม่ๆ ในการวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจเหล่านี้ จะช่วยให้ธุรกิจเปลี่ยนแปลงวิธีคิดจากการนำอดีตเป็นตัวตั้งและใช้สถิติในอดีตมาพยากรณ์อนาคต มาเป็นการมองโอกาสที่อนาคตจะเป็นไป แล้วเตรียมการรองรับสถานการณ์ไว้ก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้นจริงตามการคาดการณ์

ซึ่งจะทำให้ธุรกิจสามารถปรับตัวได้อย่างทันท่วงทีกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างซับซ้อนและรวดเร็ว