จากอุปสรรคสู่ความสำเร็จ

จากอุปสรรคสู่ความสำเร็จ

การกล้าทำในสิ่งที่ไม่มีใครอยากทำหรือไม่มีใครเคยทำสร้างทางรอดให้เราได้มากกว่า

ความสำเร็จของชนชาติอิสราเอลนั้นเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก แม้จะเป็นประเทศที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นานและตั้งอยู่ท่ามกลางประเทศที่มีความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงจนมีสงครามเกิดขึ้นตลอดมานับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศอิสราเอล แต่ประเทศเล็กแห่งนี้กลับยืนยงอยู่ได้อย่างมั่นคงจนถึงทุกวันนี้

เบื้องหลังความสำเร็จของอิสราเอล ไม่ใช่ทรัพยากรธรรมชาติอันมั่งคั่งหรือสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้ใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสบาย เพราะทั้งความแห้งแล้งและความกันดารทำให้ชาวอิสราเอลต้องดิ้นรนมากกว่าคนอื่นหลายเท่า ปัจจัยสำคัญที่สุดที่มีก็คือ “คน” ชาวอิสราเอลนี่เอง

คุณสมบัติแรกของชาวอิสราเอลที่ผมสัมผัสได้ก็คือความกล้าทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ หรือเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากทำ ซึ่งสอดคล้องกับการแข่งขันในยุคปัจจุบันที่คนทำธุรกิจไม่ได้มีทางเลือกมากนัก การกล้าทำในสิ่งที่ไม่มีใครอยากทำหรือไม่มีใครเคยทำจึงสร้างทางรอดให้เราได้มากกว่า

ประการถัดมาคือการไม่ปฏิเสธงานใดๆ หากสามารถทำงานนั้นได้ เพราะในทุกวันนี้เราจะเห็นการทำงานในองค์กรธุรกิจมักจะมีเส้นแบ่งอาณาเขตของแต่ละฝ่าย และมักไม่ยอมทำงานที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับมอบหมายทั้งๆ ที่เป็นงานเกี่ยวเนื่องกันเพราะไม่ต้องการรับผิดชอบงานเพิ่มเติม

ทั้งๆ ที่ในทุกวันนี้ต้นทุนการบริหารล้วนปรับเพิ่มขึ้นทุกอย่าง ทั้งค่าสถานที่ ค่าขนส่ง การเดินทาง ฯลฯ ทั้งหมดนี้หากเราไม่สามารถเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันก็จะทำให้เรายิ่งล้าหลังไปเรื่อยๆ การปฏิเสธงานใหม่ๆ จึงเป็นการเสียโอกาสอย่างมหาศาล

ประการที่ 3 อย่าคิดถึงแต่ตัวเอง เพราะหัวใจของการทำงานในองค์กรคือการทำงานเป็นทีม ทั้งต่อเพื่อนพนักงานด้วยกันไปจนถึงลูกค้าและคู่ค้าในอุตสาหกรรมเดียวกัน เพราะการทำงานในทุกวันนี้แต่ละแผนกมักจะขัดขากันเองอยู่บ่อยๆ ทำให้การประสานงานไม่ราบรื่นอย่างที่ควรจะเป็น

ยิ่งเป็นภายในแผนกเดียวกัน หากทำงานร่วมกันโดยมีแต่ความขัดแย้ง ชิงดีชิงเด่นกันตลอดเวลา ก็ยากที่จะทำงานร่วมกันเป็นทีมได้ ซึ่งเรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่เราพบเห็นได้บ่อยๆ ทั้งๆ ที่การทำงานทุกวันนี้เราต้องการความร่วมมือจากทีมงานอย่างเต็มพิกัด

เพราะการขายสินค้าและบริการได้แล้วไม่ได้เป็นเป้าหมายปลายทางที่เราต้องการเป็นหลัก หากแต่เป็นคำพูดชื่นชมของลูกค้าและการที่เขา “บอกต่อ” ให้คนอื่นรอบข้างมาใช้บริการของเราด้วยต่างหาก ซึ่งนั่นเป็นหน้าที่ของทุกแผนกต้องช่วยกันผลักดันให้สำเร็จ

ความคาดหวังของลูกค้าไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอะไรเลย หากเราสามารถให้บริการเขาได้มากกว่าสิ่งที่เขาคาดหวัง เขาก็ย่อมรู้สึกคุ้มค่าและกล้าบอกต่อ ดังนั้นหากลูกค้ามีความต้องการ 1.0 แล้วเราทำได้เพียง 0.8 จึงถือว่าน่าผิดหวังและเขาก็คงไม่กล้าซื้อของจากเราอีก

แต่หากเราให้เขาได้ 1.3-1.5 ก็จะทำให้เขารู้สึกเหนือความคาดหมายและพร้อมจะแนะนำเราให้ผู้คนรอบข้างในอนาคต เราจึงได้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นทันที ดังนั้นมูลค่าของสินค้าและบริการใดๆ จึงขึ้นอยู่กับราคาที่ลูกค้าจ่าย บวกด้วยความคาดหวังของลูกค้า ลบด้วยประสบการณ์ที่ได้จากการใช้งานจริง

การทำให้มูลค่านั้นเป็นบวก ต้องอาศัยความร่วมมือกันของทั้งองค์กร ไม่ใช่พนักงานคนใดคนหนึ่ง หรือแผนกใดแผนกหนึ่ง การทำงานร่วมกันเป็นทีมจึงสำคัญมาก

ประการที่ 4 ต้องกระตือรือร้น พร้อมที่จะเรียนรู้เสมอ และอย่าเอ่ยคำว่ารู้เพียงพอแล้ว เพราะในความเป็นจริงแล้วมีเรื่องให้เราเรียนรู้เพิ่มขึ้นมากมายในทุกวัน การเปิดรับความรู้ใหม่ๆ จึงเป็นการสร้างโอกาสให้เราไต่เต้าไปหาความสำเร็จใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา

ประการสุดท้ายต้องกล้าทำ กล้าถาม และกล้ารับผิดชอบ ข้อมูลที่ผมกล่าวมานั้น เป็นสิ่งที่ผมได้สัมผัสในระยะเวลาสั้นๆ ที่เดินทางไปพบปะกับนักธุรกิจชาวอิสราเอล ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ชาวอิสราเอลแตกต่างจากชนชาติอื่นและสร้างความสำเร็จให้กับประเทศมาจนถึงทุกวันนี้