รถพลังงานไฟฟ้า

จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ก็ยังไม่มีข่าวคืบหน้าในเวลานี้ว่าจะมีการประชุมเมื่อไร และรายละเอียดเป็นอย่างไร รถกลุ่มไหนที่จะได้รับการส่งเสริมบ้าง จะเป็น BEV (Battery Electric Vehicle) หรือ PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) หรือทั้ง 2 อย่าง และมีเงื่อนไขเหมือนหรือต่างกันอย่างไร

แต่ในมุมของบริษัทรถยนต์หลายๆ บริษัทที่ตอบคำถามนักข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ยังคงมีท่าทีเอนเอียงไปทาง พีเอชอีวี มากกว่า บีอีวี เพราะเชื่อว่าจะเกิดในเชิงพาณิชย์ได้จริง แต่ทุกค่ายก็รอดูรายละเอียดมาตรการอย่างเป็นทางการเสียก่อน แล้วค่อยพิจารณาว่าจะเดินไปในทิศทางไหนต่อไป 

กระแสของรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า จะทั้งหมดหรือบางส่วน นั้นส่วนใหญ่เชื่อว่ามาแน่ แต่จะใช้เวลามามากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมและการส่งเสริมของแต่ละประเทศ แต่ถ้ามองในเวทีโลกเชื่อว่าผู้ผลิตจะต้องหันไปในทางนั้น 

โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในบริษัทที่ริเริ่มการทำตลาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวรถไฮบริดอย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อ 20 ปีก่อน และมียอดขายสะสมถึงขณะนี้ทะลุ 10 ล้านคันไปแล้ว  และปีที่ผ่านมา ก็เปิดตัวเชิงพาณิชย์ของรถเซลล์พลังงาน (fuelcell) บอกว่ามีเป้าหมายที่ท้าทายคือปี 2593 จะลดผลกระทบด้านลบของรถยนต์ต่อสิ่งแวดล้อมในระดับโลก ให้เหลือใกล้เคียงศูนย์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

 แต่ทั้งนี้คงไม่ได้มีเพียงโตโยต้าเท่านั้น ค่ายอื่นๆ ก็คงมีเป้าหมายในทิศทางเดียวกันซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี และเป็นตัวเร่งให้การทำตลาดในรายย่อย แต่ละประเทศเกิดขึ้นได้เร็วขึ้นด้วย

ย้อนมาบ้านเรา ก็ใช่ว่าจะยังไกลตัว เพียงแต่ว่ารถพลังงานไฟฟ้าที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าจะเปิดตัวแน่นอน ไม่ใช่รถยนต์ แต่เป็นรถจักรยานยนต์ โดยล่าสุดฮอนด้า ผู้นำตลาดบอกว่าภายใน 3 ปีนี้จะมีรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าทำตลาด

ทำไมต้อง 3 ปี ทั้งที่หลายคนมองว่าด้วยเทคโนโลยีที่มีก็น่าที่จะทำตลาดได้เร็วกว่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ผู้บริหารมองว่าต้องการใช้เวลาในช่วงนี้สำหรับการปูฐานให้เรียบร้อยก่อน ทั้งเรื่องการสร้างความรู้ ความเข้าใจกับผู้บริโภคให้เห็นถึงข้อดีของรถประเภทนี้ ทั้งเรื่องของสิ่งแวดล้อมและสมรรถนะการใช้งาน รวมไปถึงความพร้อมในด้านการเตรียมการบริการของตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ทั้งความพร้อมของอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือ หรือองค์ความรู้ของพนักงาน ซึ่งเมื่อทุกอย่างพร้อม การเปิดตัวก็จะทำได้ง่าย ก็ถือว่าเป็นแนวคิดการทำตลาดที่ดี 

และไม่แน่ว่าหากจักรยานยนต์ไฟฟ้าประสบความสำเร็จที่ดี ก็จะช่วยเสริมให้ความเข้าใจของผู้บริโภคเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าดียิ่งขึ้น และเอื้อต่อการเปิดตลาดรถยนต์ในอนาคตครับ