ปาฏิหาริย์หลวงพ่อคุณ

ปาฏิหาริย์หลวงพ่อคุณ

ชาวพุทธจากทั่วสารทิศหลั่งไหลไปเคารพสรีระสังขาร พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ

           ตั้งบำเพ็ญกุศลที่หอประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น อย่างต่อเนื่อง

        เรื่องราวปาฏิหาริย์ อภินิหาริย์ ของหลวงพ่อคูณ เล่าขานปากต่อปาก รุ่นสู่รุ่น

          เครื่องรางของขลังของท่านอยู่ที่ใครจะเชื่อหรือศรัทธา แต่ทุกอย่างมีที่มา อย่างเช่นเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานตุ๊กตาเคเดอร์ มีชายหนุ่มห้อยเหรียญหลวงพ่อคูณ กระโดดออกจากกองเพลิง โดยไม่เป็นอะไร ผู้คนเริ่มพูดถึงเหรียญรุ่นนั้น ว่า "รุ่นกระโดดตึก" ต่อมาก็เกิดเหตุโรงแรมรอยัล นครราชสีมาถล่ม ผู้หญิงคนหนึ่งก็รอดเพราะห้อยเหรียญหลวงพ่อคูณ แม้จะต้องถูกตัดขาเพราะคานปูนขนาดใหญ่ทับอยู่

          เมื่อคืนผมมีโอกาสได้นั่งพูดคุย กับ ไพฑูรย์ ธัญญา ผู้เขียนหนังสือ "เทพเจ้าแห่งด่านขุนทด" สารคดีชีวิตหลวงพ่อคูณ ตีพิมพ์เมื่อปี 2556 โดยสำนักพิมพ์เนั่น

          ไพฑูรย์ ธัญญา เล่าผ่านความทรงจำซึ่งต้องย้อนไปตั้งแต่ปี 2545 ว่า คนส่วนใหญ่รู้จักหลวงพ่อคูณ หลังท่านดังแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นไม่มีใครรู้ว่าพระที่จะมาเรียนคาถาอาคม หรือไสยเวทย์ วิทยาคมเหล่านี้ไม่ได้มาง่ายๆ ทุกท่านต้องผ่านวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งมันเป็นรากฐาน หลวงพ่อคูณ เรียนวิปัสนากับพระอาจารย์ "หลวงพ่อคง" มานาน ธุดงค์ที่ลาว ที่เขมร หลายปี ท่านไปเคี่ยวกรำไปศึกษาบ่มเพาะตัวเอง ไม่เช่นนั้นท่านจะไม่เรืองอาคมขนาดนี้ แล้วท่านค่อยกลับมาพัฒนาวัดบ้านไร่ บ้านเกิดของท่าน

          ตอนหนึ่งท่านไปธุดงค์ที่ลาว ชาวบ้านก็ปรามว่าหลวงพ่ออย่างขึ้นไปบนเขาเลย บนนั้นมีเสือดุร้าย หลวงพ่อคูณก็บอกว่า "เสือก็อยู่ส่วนเสือ"

          หรือตอนที่ไปธุดงค์อีกแห่งหนึ่ง ชาวบ้านเกิดความสงสัยว่าหลวงพ่ออยู่ได้อย่างไรหลายวันทั้งที่บริเวณนั้นไม่มีบ้านเรือนผู้คน ท่านก็บอกว่า "มีคนมาใส่บาตรให้กูทุกวัน"

          ต่อมาก็ทราบจากตำนานว่า บริเวณนั้นเคยเป็นเมืองเก่าเมืองร้างมาก่อน ท่านถึงกับบอกว่า "นี่กูกินข้าวผีมาหลายมื้อแล้ว"

          เป็นเวลา 1 ปีที่ ไพฑูรย์ ธัญญา เทียวไปเทียวมาระหว่างมหาสารคาม กับวัดบ้านไร่ เพื่อเก็บข้อมูล ซึ่งหลวงพ่อคูณ "ท่านจะมีของดีอันหนึ่งคือ ตะกรุด จะฝังไว้ใต้ท้องแขน ผมก็เกือบจะได้ฝัง"

          การเก็บข้อมูลวัดบ้านไร่ ไพฑูรย์ ธัญญา ต้องไปคลุกคลีกับวัด ไปลงดูบัญชีบริจาคซึ่งมีหลายเล่มมาก และนี่ถือเป็นความรัดกุม วัดบ้านไร่มีระบบเรื่องเงินดีมาก มีคนบริจาคเยอะมาก มีสมุดหลายเล่มมาก ท่านให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องเงินบริจาคต้องระวัง "หูโลก ตาโลกมีอยู่" ท่านมองอย่างนั้น กล่าวคือ ต้องโปร่งใสชี้แจงได้

          "สายวันหนึ่งขณะผมนั่งดูสมุดบัญชีบริจาค ก็มีลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งขับปิกอัพเข้ามา กระหืดกระหอบมาหาผม ถามว่าหลวงพ่ออยู่ไหม ผมก็บอกว่าอยู่ พี่มีธุระอะไร แกก็เล่าว่า ชื่อชะอ้อน เป็นนายกอบต.อยู่อำเภอบางมูลนาค โคราชนี่แหละ จะมากราบหลวงพ่อ จะมาเล่าให้ฟังว่าแกถูกยิงมา แกถามผมว่าคุณไม่รู้เหรอ ไทยรัฐ ยังลงข่าวตั้งหลายวัน ถูกไล่ยิงทั้งคืนแต่แกไม่เป็นอะไร แกมีผล ซึ่งในหนังสือผมมีรูป แกเล่าว่าฝังตะกรุดหลวงพ่อไว้ที่แขน สักพักหลวงพ่อก็ออกมา ผมก็อยากได้ข้อมูลก็ทำเนียนเข้าไปกราบท่านพร้อมอบจ.ชะอ้อน หลวงพ่อก็ฟังพี่ชะอ้อน เล่า ผมก็สังเกตว่า สิ่งที่โดดเด่นของหลวงพ่อคือ สายตาแววตา ใบหน้าสีหน้า และท่านั่ง ท่านฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉย อุเบกขา ไม่ยินดียินร้าย หลวงพ่อคูณ พูดมาคำหนึ่งว่า ดีแล้วไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว..."

         ไพฑูรย์ ธัญญา ผู้เขียนหนังสือ "เทพเจ้าแห่งด่านขุนทด" บอกว่า ด้วยท่วงท่าการปล่อยวางของท่าน การวางเฉยของหลวงพ่อคูณ มองได้ผ่านพระเครื่อง หรือเครื่องรางของหลวงพ่อคูณ นั้น มันมีความเป็นกลาง

          แต่การให้ความหมาย การแปลความหมาย การให้คุณค่าเครื่องรางของขลัง มันอยู่ที่แต่ละคนที่นำไปบูชา ว่าจะเชื่ออย่างไร