ว่าด้วย "ร้านสะดวกซื้อ" ในอินเดีย

ว่าด้วย "ร้านสะดวกซื้อ" ในอินเดีย

คำถามที่มักจะถูกถามจากคนไทยที่เดินทางมาอินเดียเป็นครั้งแรกไม่ว่าจะมาท่องเที่ยวหรือมาธุรกิจอยู่เสมอๆ

ก็คือ “ที่อินเดียมีร้าน 7-11 หรือเปล่า?” เพราะอาจจะเคยชินมาจากไทยแลนด์ดินแดนแสนสะดวกที่นึกจะซื้อหาอะไรเวลาไหนก็ได้เสมอ พอได้ทราบคำตอบว่าที่อินเดียยังไม่มีร้าน 7-11 ก็จะทำหน้างงๆ กึ่งประหลาดใจว่าทำไมถึงไม่มี ก็เลยต้องอธิบายกันยกใหญ่ว่าที่อินเดียไม่เหมือนเมืองไทยเพราะร้านค้าส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 92 ยังเป็นร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมที่เรียกว่า Kirana ซึ่งมีตั้งแต่เป็นเพิงไปจนถึงห้องแถว ที่พวกเราซึ่งใช้ชีวิตอยู่ที่อินเดียชอบพูดเล่นกันเสมอว่าเป็น “ร้านสะดวกขาย” มากกว่า “ร้านสะดวกซื้อ” เนื่องจากอาบังแกขายของตามใจคนขายมากกว่าตามใจคนซื้อและไม่มีความสะดวกเอาเสียเลยซึ่งอันนี้ก็เป็นผลมาจากการที่รัฐบาลอินเดียพยายามปกป้องร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมนี้ด้วยเกรงว่าหากปล่อยให้บริษัทค้าปลีกต่างชาติบุกเข้ามามากเกินไป ร้านค้าปลีกที่เรียกว่า Kirana เหล่านี้ก็จะอยู่ไม่รอด

แม้ว่าที่อินเดียจะยังไม่มีร้าน 7-11 ที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง แต่ปัจจุบันก็เริ่มมีการเปิด “ร้านสะดวกซื้อ” มากขึ้นแล้วตามความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคมของอินเดียยุคใหม่ที่มีแนวโน้มปรับตัวไปสู่ความทันสมัยแบบโลกตะวันตกด้วยเหตุผลมาตรฐานคือ คนอินเดียยุคใหม่มีรายได้เพิ่มขึ้น มีการขยายตัวของเมือง (Urbanization) มากขึ้น จำนวนคนชั้นกลางเพิ่มมากขึ้น รสนิยมของคนอินเดียรุ่นใหม่ทันสมัยขึ้นจากการได้เดินทางไปต่างประเทศมากขึ้นและเปิดรับข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อต่างๆ มากขึ้นโดยเฉพาะสื่อออนไลน์ที่ทำให้โลกเราไร้พรมแดนอย่างในปัจจุบัน

ร้านสะดวกซื้อ หรือ Convenience Store ในอินเดียเป็นร้านค้าปลีกแบบทันสมัยหรือโมเดิร์นเทรดที่ดำเนินการโดยบริษัทค้าปลีกของอินเดียเอง เนื่องจากนโยบายเปิดเสรีค้าปลีกของรัฐบาลอินเดียที่โหมโรงมาตั้งแต่ปี 2555 ยังไม่คืบหน้าทำให้เป็นอุปสรรคสำหรับบริษัทค้าปลีกต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนเปิดธุรกิจค้าปลีกในอินเดีย แต่กระนั้นก็ตาม มูลค่ายอดขายของร้านสะดวกซื้อในอินเดียก็ขยายตัวอยู่ในอัตราสูงโดยคาดว่าในช่วงปี 2556-2561 อัตราการขยายตัวเฉลี่ยต่อปีจะอยู่ในระดับสูงถึงร้อยละ 18.7 เลยทีเดียว ทั้งนี้ ในปี 2556 ที่ผ่านมา มูลค่ายอดขายสินค้าผ่านร้านสะดวกซื้อในอินเดียอยู่ที่ 120,800 ล้านรูปี (ประมาณ 6 หมื่นกว่าล้านบาท) และในปี 2557 นี้คาดว่ามูลค่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 143,200 ล้านรูปีและจะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องทุกปีโดยในปี 2561 คาดว่ามูลค่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นเป็น 284,900 ล้านรูปี

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากเทียบกับมูลค่ายอดขายในตลาดค้าปลีกทั้งหมดของอินเดียทั้งประเทศแล้วถือว่ายอดขายของร้านสะดวกซื้อในอินเดียยังคงมีสัดส่วนน้อยมาก โดยในปี 2556 ยอดขายของร้านสะดวกซื้อมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 0.42 เท่านั้น แต่ก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2561 ยอดขายของร้านสะดวกซื้อในอินเดียจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 0.60 ของมูลค่ายอดขายในตลาดค้าปลีกทั้งหมดของอินเดีย ร้านสะดวกซื้อในอินเดียจึงถือว่ายังอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้นเองแต่ก็มีแนวโน้มที่จะขยายตัวอย่างรวดเร็วรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคอินเดียสมัยใหม่ที่มีเวลาน้อยลงแต่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น

ร้านสะดวกซื้อสมัยใหม่ในอินเดียโดยปกติจะมีพื้นที่เฉลี่ยประมาณ 4,700 ตารางฟุตต่อร้าน (พื้นที่สำหรับจำหน่ายสินค้าประมาณ 2,800 ตารางฟุต) ซึ่งถือเป็นร้านค้าปลีกขนาดเล็กที่เน้นเปิดให้บริการอยู่ในย่านที่พักอาศัยของลูกค้าผ่านระบบแฟรนไชส์ จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคไม่มากรายการนัก ส่วนใหญ่จะเป็นอาหาร ของขบเคี้ยว เครื่องดื่ม ลอตเตอรี่ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ยา ผัก ผลไม้ และของใช้จำเป็นบางอย่าง แต่ก็ยังมีร้านสะดวกซื้อบางประเภทที่เปิดอยู่ในสถานีบริการน้ำมันที่จะมีรายการสินค้าเกี่ยวกับรถยนต์เพิ่มเติมขึ้นมาอีกเช่น น้ำมันหล่อลื่น น้ำกลั่น และอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ เป็นต้น โดยจุดขายสำคัญของร้านสะดวกซื้อคือ จะตั้งอยู่ในย่านที่พักอาศัยของลูกค้ามีช่วงเวลาเปิดให้บริการยาวนานกว่าปกติและมักจะไม่มีวันหยุดเพื่อมอบความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าแบบสุดๆ และก็แน่นอนว่าราคาสินค้าในร้านสะดวกซื้อก็จะต้องแพงกว่าร้านค้าอื่นๆ เป็นธรรมดา

แม้ว่าร้านสะดวกซื้อในอินเดียจะยังคงมีสัดส่วนไม่มากนัก แต่แนวโน้มในการขยายตัวมีสูงมาก เนื่องจากประชาชนมีรายได้ที่จับจ่ายใช้สอยได้สูงขึ้น มีเวลาน้อยลง และต้องการความสะดวกสบายมากขึ้นในการจับจ่ายใช้สอย อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อการขยายตัวของร้านสะดวกซื้อในอินเดียอย่างมีนัยสำคัญคือ มีการใช้บัตรเครดิตและบัตรเดบิตมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภคโดยในปี 2557 มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตในร้านค้าปลีกสมัยใหม่เป็นมูลค่า 2.54 ล้านล้านรูปี แบ่งเป็นใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 1.54 ล้านล้านรูปีและผ่านบัตรเดบิต 1 ล้านล้านรูปี ทั้งนี้ อัตราการขยายตัวเฉลี่ยของการใช้จ่ายบัตรเครดิตและบัตรเดบิตจนถึงปี 2561 จะอยู่ในระดับสูงถึงร้อยละ 29.1 ต่อปี และความนิยมในการใช้บัตรเครดิตและบัตรเดบิตได้ส่งผลให้มีการใช้จ่ายด้วยเงินสดในร้านค้าปลีกสมัยใหม่ของอินเดียลดลงร้อยละ 5 ทั้งนี้ ในปี 2557 บัตรเครดิตทั่วประเทศอินเดียมีจำนวนทั้งสิ้น 28 ล้านใบเทียบกับ 21 ล้านใบในปี 2553

นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยด้านประชากรของอินเดียที่ส่งผลในทางบวกต่อการขยายตัวของร้านสะดวกซื้อในอินเดียอีกด้วย โดยคาดว่าภายในปี 2574 อินเดียจะมีประชากรในวัยทำงานที่อยู่ในช่วงอายุ 20-35 ปีกว่าร้อยละ 64 และระหว่างปี 2554-2559 จะมีจำนวนประชากรในวัยทำงานในช่วงอายุดังกล่าวเพิ่มขึ้นมาอีกประมาณ 63.5 ล้านคน นอกจากนั้น ในปี 2563 อายุเฉลี่ยของประชาชนอินเดียทั้งประเทศจะอยู่ที่ 29 ปี ต่ำกว่าอายุเฉลี่ยของประชากรในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกาอีกด้วย ที่สำคัญคือ ประชากรหรือผู้บริโภครุ่นใหม่เหล่านี้จะมีพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไปด้วย โดยเริ่มจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นกว่าคนรุ่นเก่าที่มักจะเน้นการออมเป็นหลัก และเริ่มเปลี่ยนจากการซื้อสินค้าราคาถูกมาเน้นที่ความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอยแทนและเลือกใช้สินค้าที่มีคุณภาพดีขึ้น และทั้งหมดนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการขยายตัวของร้านสะดวกซื้อในอินเดียในอนาคต

ผู้เล่นสำคัญในตลาดร้านสะดวกซื้อในอินเดียประกอบไปด้วยบริษัทใหญ่หลักๆ 6 บริษัทคือ บริษัท Bharat Petroleum, บริษัท REI Six Ten Retail, บริษัท Bharti Retail, บริษัท Mother Dairy Fruit and Vegetable, บริษัท Reliance Retail และบริษัท Twenty Four Seven Retail โดยบริษัทที่มีสาขาร้านสะดวกซื้อมากที่สุดคือ บริษัท Reliance Retail ซึ่งเป็นเจ้าของร้านสะดวกซื้อ “Reliance Fresh” จำนวน 550 สาขา รองลงมาคือ บริษัท Mother Dairy Fruit and Vegetableซึ่งมีร้านสะดวกซื้อภายใต้ชื่อ “Safal”(จนถึงสิ้นปี 2557) จำนวน 485 สาขา อยู่ที่กรุงนิวเดลีและปริมณฑล จำนวน 440 สาขาและเมืองบังกาลอร์ จำนวน 45 สาขา บริษัท REI Six Ten Retailมีร้านสะดวกซื้อภายใต้ชื่อ “6 Ten” จำนวน 344 สาขาในหลายรัฐ บริษัท Bharti Retailมีร้านสะดวกซื้อภายใต้ชื่อ “easyday” จำนวน 220 สาขาใน 13 รัฐของอินเดีย บริษัท Bharat Petroleum ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันใหญ่อันดับสองของอินเดียมีร้านสะดวกซื้อภายใต้ชื่อ “In & Out” จำนวน 182 สาขาโดยจะตั้งอยู่ตามสถานีบริการน้ำมันของบริษัททั่วประเทศอินเดีย และบริษัท Twenty Four Seven Retail ซึ่งแค่ชื่อของบริษัทก็แฝงนัยอยู่แล้วว่าเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อแบบเปิด 24 ชั่วโมงภายใต้ชื่อ “Twenty Four Seven” เช่นเดียวกับร้าน 7-11 เลย โดยปัจจุบันมีอยู่ 38 สาขาในแถบกรุงนิวเดลีและปริมณฑลเป็นหลัก แต่มีแผนที่จะขยายเป็น 100 สาขาทั่วประเทศอินเดียภายในอีก 5 ปีข้างหน้า

แม้ว่าร้านสะดวกซื้อในอินเดียจะยังมีสัดส่วนน้อยมากในตลาดค้าปลีกรวมของอินเดีย แต่เท่าที่ดูแล้วแนวโน้มของร้านสะดวกซื้อในอินเดียมาแน่ๆ และคงจะเติบโตจากบริษัทค้าปลีกของอินเดียเองเพราะค้าปลีกต่างชาติคงจะยังเข้าตลาดไม่ได้อีกนาน สินค้าไทยที่จะจับตลาดคนชั้นกลางขึ้นไปที่อาศัยอยู่ในเมืองของอินเดียก็ต้องปรับสินค้าและหีบห่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายและเลือกผู้นำเข้าสินค้าที่มีความสามารถในการกระจายสินค้าผ่านช่องทางร้านสะดวกซื้อก็จะสามารถตามทันแนวโน้มนี้ได้