"ไทยงง..."!

"ไทยงง..."!

"ไทยงง....เป็นคำที่มีการกล่าวถึงกันมากในโลกโซเชียล มีเดีย โดยเฉพาะจากผู้สนับสนุนทั้งสองฝ่าย "!

ฝ่ายหนึ่ง..เช้าประกาศชัยชนะ ส่งสัญญาณเหมือนจะเลิกการชุมนุม วางแผนจัดบิ๊กคลีนนิ่งเดย์ ในเช้าวันที่ 4 ธ.ค.2556 แต่ช่วงบ่าย "สุเทพ เทือกสุบรรณ" แกนนำกลุ่มต่อต้านประกาศ"เดินหน้า" ชุมนุมต่อเนื่อง ตราบใดที่ยังไม่ได้ล้าง"ระบอบทักษิณ" เดินหน้า"สภาประชาชน" ปรับโครงสร้างประเทศ นั้นหมายความว่า นายกรัฐมนตรียุบสภาหรือลาออก"ไม่เพียงพอ"

ฝ่ายหนึ่ง...มีอารมณ์กับท่าทีใหม่ๆของรัฐบาลที่ยอมให้ผู้ชุมนุม บุกเข้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)และทำเนียบรัฐบาล ได้อย่างสะดวก ผิดจากหน้ามือ เป็นหลังมือ ขณะที่ก่อนหน้านั้น ถล่มยิ่งแก๊สน้ำตา กระสุนยาง และผู้ชุมนุมสองรายเจอยิงกระสุนจริง ไม่มีทีท่า ว่าจะ"ยอมง่ายๆ"อย่างที่ปรากฏเมื่อเช้าวันที่ 3 ธ.ค.2556

"ไทยงง"...จึงเป็นอาการของทั้งสองกลุ่ม และคนที่ติดตามการเมือง มีความรู้สึกร่วมกัน

"เกิดอะไรขึ้น"? ดูจะเป็นคำถามใหญ่ ทุกคนที่เกาะติดการเมือง

บ้างก็ว่า"สายฟ้าฟาด"ลงทั้งรัฐบาลและฝ่ายต่อต้าน ให้ยุติเพื่อเห็นแก่ประเทศชาติ

บ้างก็ว่า"ปฏิวัติเงียบ"โดยกองทัพเข้ามาเกี่ยวข้อง

บ้างก็ว่า"พักรบ"เพื่อให้พ้นช่วงแห่งความสุขของคนไทย แล้วหลัง 5 ธ.ค.2556 "ค่อยว่ากันใหม่"

แต่ถึงกระนั้น...บรรยากาศที่ไร้ข่าวความรุนแรงย่อมเป็นเรื่อง"ดี"แต่ถามว่า"สงบ"หรือไม่ เชื่อว่าทุกคนทราบดีว่า"ไม่" เพราะยังไม่แก้ไขหรือ จะเรียกปฏิรูป หรือปรับโครงสร้าง แต่อย่างใด สถานการณ์แบบนี้ "วันหนึ่ง" ประเทศไทยก็จะเผชิญความขัดแย้งกันอีก เหตุเพราะ "ต้นเหตุ"ยังคงอยู่ โดยเฉพาะอำนาจที่รวมศูนย์และความเหลื่อมล้ำ ของคนในสังคมที่ห่างกันมากขึ้น เศรษฐกิจประเทศถูกผูกขาดอยู่ไม่กี่คน

ส่วนรัฐบาล..ความชอบธรรมในการบริหารถดถอยลงเรื่อยๆ คอร์รัปชันขยายในวงกว้างและอัตราจ่ายเงินใต้โต๊ะสูงถึง 40% ความเป็นผู้นำ ของ"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"ในฐานะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไม่ชัดเจน หากเปรียบรัฐบาลเป็นรถต้องบอกว่า"เกียร์พัง"ไปแล้ว เดินหน้ายาก ถอยหลังก็ลำบาก!

"ยุบสภา"...ยังเป็นทางออกที่ดีสุดของรัฐบาลในวินาทีนี้ และยังถือว่ายังมีโอกาสอยู่ และเป็นวิถีทางที่ชอบธรรมในกระบวนการประชาธิปไตย

แต่หากหลงกับอำนาจ และสรุปว่าตัวเอง"ชนะ"ในยกแรกนี้ วันหนึ่งจะไม่มีโอกาสแม้จะใช้กลไกยุบสภา