NT บรรลุข้อตกลงฯ เพื่อให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมแก่แหล่งเอราวัณต่อเนื่อง

NT บรรลุข้อตกลงฯ เพื่อให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมแก่แหล่งเอราวัณต่อเนื่อง

NT บรรลุข้อตกลงฯ เพื่อให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมแก่แหล่งเอราวัณต่อเนื่อง

บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT บรรลุข้อตกลงในการให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม รวมถึงการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติเอราวัณอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินงานต่างๆ ราบรื่น ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด

NT บรรลุข้อตกลงฯ เพื่อให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมแก่แหล่งเอราวัณต่อเนื่อง

การผลิตก๊าซธรรมชาติจากฐานปฏิบัติการบนแท่นผลิตปิโตรเลียม ซึ่งอยู่กลางทะเลอ่าวไทยที่ห่างไกลออกไปจากฝั่ง  การสื่อสารที่แม่นยำและฉับไวมีความจำเป็นอย่างยิ่ง  นายสมยศ ธนพิรุณธร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “NT มีความภูมิใจที่ได้ให้บริการด้านสื่อสารโทรคมนาคมในแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติเอราวัณ (แปลงสัมปทานหมายเลข 10-13) แก่บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด (เชฟรอนประเทศไทย) มาอย่างยาวนาน โดยได้นำระบบเคเบิลใยแก้วใต้น้ำอ่าวไทย ที่ออกแบบมาเพื่อระบบการสื่อสารที่ทันสมัย และรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมการสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของประเทศ ซึ่งช่วยสนับสนุนการใช้งานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารระหว่างสำนักงานใหญ่บนฝั่งกับฐานปฏิบัติการกลางทะเลได้อย่างปลอดภัย ราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ทำให้เชฟรอนประเทศไทยสามารถสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสำนักงานและแท่นผลิตกลางทะเลได้ด้วยประสิทธิภาพความเร็วเทียบเท่าการทำงานในสำนักงานบนฝั่ง อีกทั้งการใช้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศผ่านระบบเคเบิลใยแก้วใต้น้ำอ่าวไทยนี้ ยังเป็นส่วนสำคัญต่อการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมด้านพลังงาน และสนับสนุนการผลิตพลังงานเพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรม เนื่องจากก๊าซธรรมชาติจากแหล่งเอราวัณมีคุณภาพที่สามารถเป็นวัตถุดิบให้แก่ภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ ที่นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ยั่งยืน”

ในโอกาสที่เชฟรอนประเทศไทยจะส่งมอบแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติเอราวัณให้กับผู้ดำเนินงานรายใหม่ในเดือนเมษายน 2565 นี้ NT ที่เป็นผู้ร่วมพัฒนาและสนับสนุนด้านเทคโนโลยีโครงข่ายการสื่อสารผ่านระบบเครือข่ายเคเบิลใยแก้วใต้น้ำอ่าวไทย พร้อมที่จะสานต่อการทำงาน และร่วมสนับสนุนการดำเนินงานช่วงเปลี่ยนผ่านของแหล่งเอราวัณด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ และโครงข่ายการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเฉกเช่นที่ผ่านมา เพื่อให้การดำเนินงานต่างๆ ในแหล่งก๊าซธรรมชาติเอราวัณมีประสิทธิภาพสูงสุด