กระทิงดุ 'ลัมโบร์กินี' สร้างสถิติยอดขายสูงสุด

กระทิงดุ 'ลัมโบร์กินี' สร้างสถิติยอดขายสูงสุด

ลัมโบร์กินี ซูเปอร์คาร์จากอิตาลี สร้างสถิติใหม่ยอดขายสุงสุด ปี 2564 หลังโดดเข้าร่วมวงในตลาดเอสยูวี พร้อมเตรียมเดินหน้าพัฒนาพลังงานไฟฟ้า ประเดิมเปิดตัว ไฮบริดปี 2566

กระทิงดุ ซูเปอร์คาร์ แดนมะกะโรนี “ลัมโบร์กินี” สร้างสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2564 ที่ผ่านมา ด้วยตัวเลข 8,405 คัน เพิ่มขึ้น 13% จากปี 2563 

สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานและซีอีโอ ออโตโมบิลิ ลัมโบร์กินี กล่าวว่า การเติบโตที่แข็งแกร่งของตลาดมาจากปัจจัยหลัก คือ ความแข็งแกร่งของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และความสามารถของตัวแทนจำหน่าย 173 รายใน 52 ประเทศทั่วโลก 

ทั้งนี้การเติบโตของลัมโบร์กินี โดดเด่นด้วยตัวเลข 2 หลักใน 3 ภูมิภาค  ทั้งทวีปอเมริกาที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 14%, เอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้น 14% และ EMEA (ยุโรป, ตะวันออกกลางและแอฟริกา) เพิ่มขึ้น 12% 
ขณะที่สัดส่วนการขายของทั้ง 3 ภูมิภาค อยู่ที่ 35% 27% และ 39% ตามลำดับ 

ส่วนตลาดรายประเทศที่โดดเด่น นำโดยสหรัฐที่มียอดขายสูงสุด 2,472 คัน ซึ่งเติบโต 11%

ตามมาด้วย จีนที่ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ด้วยยอดขาย 935 คัน เพิ่มขึ้น 55% เยอรมนี706 คัน เพิ่มขึ้น 16% สหราชอาณาจักร 564 คัน คเพิ่มขึ้น 9% อิตาลี 359 คัน เพิ่มขึ้น 3%

ยอดขายที่เติบโตอย่างโดดเด่น มาจากการที่ลัมโบร์กินี ตัดสินใจโดดเข้ามาเล่นในตลาดเอสยูวี ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดย ลัมโบร์กินี อูรุส (Urus) ที่สามารถส่งมอบได้ 5,021 คัน

ขณะที่ Huracan ซูเปอร์สปอร์ตเครื่องยนต์ V10 ได้แรงส่งจาก Huracan STO ทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 2,586 คัน ตามมาด้วย Aventador เครื่องยนต์ V12  798 คันทั่วโลก

กระทิงดุ \'ลัมโบร์กินี\' สร้างสถิติยอดขายสูงสุด

สำหรับปีนี้ ลัมโบร์กินี ประเมินว่าว่าแนวโน้มยอดขายจะเติบโตจากคำสั่งซื้อจำนวนมากซึ่งครอบคลุมการผลิตเกือบทั้งหมดที่ได้วางแผนไว้ในปีนี้แล้ว โดยบริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่รวม 4 รุ่นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

นอกจากนี้ผู้ผลิตซูเปอร์คาร์กระทิงดุ ยังเตรียมแผนที่จะผลิตรถพลังงานทางเลือกอย่างรถไฮบริดตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไปอีกด้วย 
ทั้งนี้ปี 2564 ที่ผ่านมา ลัมโบร์กินีนำเสนอแผนงานสำหรับการใช้พลังงานไฟฟ้า โดยจะใช้งบประมาณมากกว่า 1,500 ล้านยูโรภายในช่วง 4 ปี 

โดยหลังจากเปิดตัวไฮบริดรุ่นแรกในปี 2566 แล้ว จากนั้นภายในสิ้นปี 2567 ลัมโบร์กินีทุกรุ่นจะใช้พลังงานไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายลดการปล่อยมลพิษ 50% ตั้งแต่ปี 2568  เป็นต้นไป จากนั้น จะเพิ่มโมเดลไฟฟ้าเต็มรูปแบบในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษ