เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส เพิ่มหรูไม่ทิ้งสปอร์ต

เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส เพิ่มหรูไม่ทิ้งสปอร์ต

พรุ่งนี้งานมอเตอร์โชว์ จะเปิดอย่างเป็นทางการสำหรับรอบสื่อมวลชน และภายในงานนี้จะมีรถใหม่เปิดตัวหลายรุ่นด้วยกัน

หนึ่งในนั้นคือ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส ใหม่ รหัส W205

ซี-คลาส เกิดขึ้นในโลกยานยนต์ตั้งแต่ปี 2525 แต่เจเนอเรชั่นแรก ใช้ชื่อ 190 อี

ผ่านไป 4 เจเนอเรชั่น ถือว่าซี-คลาส เป็นรถที่มีบทบาทต่อค่ายรถตราดาวอย่างมาก โดยมียอดขายสะสมกว่า 8.5 ล้านคัน

เจเนอเรชั่น 5 เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้ และมีการจัดกิจกรรมทดสอบสำหรับสื่อจากทั่วโลกไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ที่มาร์แซล ฝรั่งเศส เมืองที่มีความสวยงามแต่ชื่อเรียกยาก

ผมพยายามฟังทั้งกัปตันขับเครื่องบิน และเจ้าหน้าที่ในช่วงพรีเซนต์รถ ผมว่ามันน่าจะออกเสียงแบบที่ผมเขียนไปนั่นแหละครับ

ซี-คลาส ผลิตออกมาหลายรุ่นย่อย ทั้งเบนซิน ดีเซล และไฮบริด ส่วนในบ้านเราที่เปิดตัวมี 2 รุ่น คือ ซี 180 เอ็กซ์คลูซีฟ เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ราคา 2.79 ล้านบาท และ ซี 250 เอเอ็มจี ไดนามิค เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ค่าตัว 3.19 ล้านบาท ทั้ง 2 รุ่น เป็นเครื่องยนต์เบนซินแถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติเดินหน้า 7 สปีด (7G-TRONIC PLUS) พร้อมแพดเดิลชิฟท์ เปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย

หน้าตาของ 2 รุ่นนี้ต่างกันเล็กน้อยที่ด้านหน้า โดย 250 ไดนามิค โลโก้ ฝังอยู่กระจังหน้าแบบ 2 ซี่ ส่วน 180 เอ็กซ์คลูซีฟ เป็นแบบคลาสสิค ดาวสามแฉกอยู่บนฝากระโปรงหน้า โดยที่กระจังหน้าสามารถเปิด-ปิด อัตโนมัติ โดยจะเปิดเมื่อเครื่องยนต์ไม่ต้องการอากาศเข้าไประบายความร้อน ซึ่งจะช่วยลดการต้านลมได้

ส่วนภาพที่ตีพิมพ์นี้เป็นรุุ่น ซี 250 เอ็กซ์คลูซีฟ ที่ผมขับที่มาร์แซลครับ และจริงๆ ก็ยังมีรุ่นอื่นที่ขับ แต่ว่าไม่ได้ขายในบ้านเรา เอาไว้เดี๋ยวจะค่อยๆ เล่าให้ฟัง

รูปทรงของรถเห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงแนวคิดไปจากรุ่นเดิมอย่างชัดเจน นอกจากขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นแล้ว ผมว่าแนวคิดโดยรวมหันมาเน้นมุมมองที่ดูหรูหรามากขึ้นจากโฉมก่อนหน้า สันเหลี่ยมต่างๆ ลดลง ความโค้งมนเพิ่มมากขึ้น โดยเลือกใช้เส้นสายที่คมเพิ่มอารมณ์สปอร์ตแทน

โดยความเข้าใจส่วนตัว คิดว่านี่เป็นการปรับตลาดอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ซี-คลาส พยายามลงมาจับตลาดผู้บริหารรุ่นเยาว์ หรือว่าวัยรุ่นหนุ่มสาว เพื่อขยายฐานการตลาดมากขึ้น แต่เมื่อเมอร์เซเดส-เบนซ์ พัฒนา เอ-แพลทฟอร์ม ขึ้นมาใหม่ ด้วยเป้าหมายผลิตออกมา 5 รุ่นย่อย เริ่มไปแล้ว กับ เอ-คลาส ,ซีแอลเอ และจีแอลเอ ก็เชื่อว่าหน้าที่ดังกล่าวถูกโอนไปให้ซี-คลาส ที่จะหันมาเล่นตลาดหรูมากขึ้น

ภาพของความหรูหรา เห็นได้ชัดเจนจากภายในห้องโดยสาร ทั้งการออกแบบ และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ คุณภาพดี และดูดี มีราคา เสริมด้วยลูกเล่น อย่างเช่น จอแบบลอย คล้ายกับที่ใช้ในเอ-คลาส หรือว่าลวดลายของลำโพงด้านหน้า ที่ดูคลาสสิคมาก และยังมีลูกเล่นใหม่ทัชแพด (touchpad) ที่ติดตั้งบริเวณที่พักแขน ทำให้ทั้งผู้ขับ หรือว่าผู้สามารถสามารถควบคุมการทำงานของอุปกรณ์เครื่องเสียง อาทิ วิทยุ-ซีดี โดยการใช้ปลายนิ้วสัมผัส ท่าทางจะถูกอกถูกใจคอสมาร์ทโฟนทั้งหลาย ที่ชอบแตะๆ ถูๆ แถมเขียนด้วยนิ้วมือได้อีกต่างหาก

ซี-คลาส ใหม่ หันมาใช้อะลูมิเนียมมากขึ้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงสามารถลดน้ำหนักได้ 100 กก. เมื่อเทียบกับตัวเดิม ในขณะที่มีขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน และเมื่อรวมกับการจัดการด้านอื่นๆ รมถึงการออกแบบให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน ที่เรียกกันว่าค่า ซีดี ลงลงต่ำสุดในตลาดคือ 0.24 ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์บอกว่าช่วยให้ลดอัตราสิ้นเปลืองลงได้ 20%

ตัวรถมีความยาว 4,686 มม. เพิ่มขึ้น 95 มม. ถือว่าเยอะสำหรับโลกยานยนต์ ความกว้าง 1,810 มม. เพิ่มขึ้น 40 มม. และฐานล้อยาวขึ้น 80 มม.เป็น 2,840 มม. และศูนย์ถ่วงต่ำลง แน่นอนมันมีส่วนช่วยในเรื่องการทรงตัว การควบคุมรถที่คล่องแคล่วมากขึ้น

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง นั่งสบาย ตำแหน่งเบาะ และการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ทำได้ดี ปรับได้ง่าย แม้จะเป็นการขับขี่พวงมาลัยซ้ายก็ตาม

เส้นทางทดสอบย่านมาร์แซล และชานเมือง รวมถึงเมืองชื่อดังอย่าง โพรวองซ์ มีหลากหลายทั้งไฮเวย์ เส้นทางแคบๆในเมือง เส้นทางเล็กๆ ผ่านชนบท หรือคดเคี้ยวบนภูเขา ที่บางช่วงเป็นแบบ ซ้ายเหว ขวาเหว แถมไม่มีอะไรกั้นอีกต่างหาก

เลือกระบบขับขี่ตั้งแต่ Eco เพื่อความประหยัด ระบบพื้นฐาน Comfort และก็ยังมี Sport และ Sport+

หลักที่ผมใช้ คือ Comfort และ Sport โดย Comfort นั้นรองรับการขับขี่บนเส้นทางทั่วไปได้สบายๆ นุ่มนวล ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี นั่งสบาย เมื่อบวกกับการเก็บเสียงที่ทำได้เงียบมาก เป็นอีกจุดเด่นหนึ่ง มันช่วยให้การเดินทางรื่นรมย์อย่างมาก

ในเส้นทางคดเคี้ยว Comfort ก็ยังรองรับการใช้งานได้อย่างไม่มีอะไรบกพร่อง เล่นกับเส้นทาง ทะเลาะกับโค้งได้น่าพอใจ เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ถ้าปรับเปลี่ยนมาเป็น Sport สิ่งที่ได้มา คือความสนุกที่เพิ่มขึ้น และความคมของล้อหน้าที่จิกเข้าไปในโค้งทำได้ดีขึ้นอย่างชัดเจน

พวงมาลัยกระชับมือ ความแม่นยำของพวงมาลัยถือว่าสูงเลยทีเดียว อย่างนี้เจอเส้นทางในถนนที่โค้งซ้ายโค้งขวา คล้ายๆ งูเลื้อย นี่ทำเอาสนุกเลยทีเดียว ดาวสามแฉกฉีกลมพุ่งไปข้างหน้า ผ่านท้องไร่ท้องทุ่งเหมือนกับมันคุ้นเคยกับเส้นทางนั้นเป็นอย่างดี

แต่ก็ย้ำอีกครั้งว่า Comfort สอบผ่าน แต่ Sport เป็นโบนัสพิเศษ

การตอบสนองของเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ ตอบสนองรวดเร็ว ไม่มีอาการหน่วงให้เสียเวลา อัตราเร่งก็ทำได้ดี สบายใจได้เวลาเร่งแซง และทำเวลาได้ดี เมื่อออกจากโค้ง

ความเร็วระดับ 180 ทำได้อย่างรวดเร็ว และดูจากอาการแล้วหากเพิ่มความเร็วขึ้นอีก การตอบสนองก็จะใช้เวลาไม่นานนัก แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ไฮเวย์ที่นั่น สูงสุดอยู่ที่ 130 กม./ชม. โดยที่ความเร็วสูง รถก็ยังคงมีการทรงตัวที่ดี ไม่ต้องเกร็ง ไม่ต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้น และการเก็บเสียงก็ยังคงทำได้ดีเช่นเดิม

ส่วนการขับขี่ในเมืองที่ถนนเล็กๆ เพราะหลายๆ ที่เขาให้ความสำคัญกับคนเดินเท้ามากกว่า ถนนรถวิ่งพื้นที่น้อยกว่าทางเท้าคนเดินนั้น แม้จะดูว่าตัวรถมีขนาดใหญ่ แต่ก็มีความคล่องแคล่ว ซอกแซกไปได้ไม่เก้อเขิน

ซี-คลาส ใหม่ ถือว่าออกแบบมาได้ค่อนข้างสมบูรณ์ ลูกค้าอยากได้ความหรู ดูดี ก็มีให้ ใครอยากได้อารมณ์สปอร์ต ก็ไม่ยากที่จะรีดประสิทธิภาพจากมันออกมา เชื่อว่าจะเป็นรถที่โดดเด่นของค่ายดาวสามแฉกจากนี้ไปครับ