Bosch Engineering ผนึก สยามเรซซิ่ง ดันไทยศูนย์กลางยานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง

Bosch Engineering จับมือ สยามเรซซิ่ง เพื่อสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาระบบรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับยานยนต์สมรรถนะสูง ให้มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น ชาญฉลาดยิ่งขึ้น และสะอาดขึ้น
นี่คือก้าวสำคัญของ อุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ที่สะท้อนบทบาทศูนย์กลางใหม่แห่งโซลูชันการขับเคลื่อนอัจฉริยะและนวัตกรรมยั่งยืน เมื่อ Bosch Engineering (บ๊อช เอ็นจิเนียริ่ง) ผู้ให้บริการระดับโลกด้านการออกแบบจำเพาะทางวิศวกรรมยานยนต์ จับมือกับ Siam Racing Automobile (สยาม เรซซิ่ง ออโตโมบิลส์) หรือ SRA ผู้ผลิตรถแข่งและรถสมรรถนะสูงชั้นนำของไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) เพื่อสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาระบบรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับยานยนต์สมรรถนะสูง
Bosch เสริมศักยภาพพันธมิตรทั่วโลก
โยฮันเนส-ยอร์ก รูเกอร์ ประธาน บ๊อช เอ็นจิเนียริ่ง กล่าวว่า Bosch Engineering ก่อตั้งบนพื้นฐานประวัติศาสตร์ยานยนต์ที่ยาวนาน ตั้งแต่ระบบกลไกยุคแรกจนถึงเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ขั้นสูงในปัจจุบัน
"จุดแข็งของเรา คือ การเสริมศักยภาพพันธมิตรทั่วโลก ตั้งแต่สตาร์ทอัพ ผู้ผลิต ไปจนถึงสถาบันวิจัย เพื่อร่วมกันสร้างโซลูชันที่สามารถปรับแต่งตามความเหมาะสม ขยายโอกาส และความยั่งยืนทางธุรกิจ"
ความร่วมมือกับ SRA เป็นการผลักดันขีดจำกัด ไม่ใช่เพียงทำซ้ำสิ่งที่มีอยู่ แต่คือการค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ สะท้อนบทบาทที่เติบโตขึ้นของประเทศไทยในภูมิทัศน์ยานยนต์-ระดับโลก ด้วยฐานอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง บุคลากรที่มีทักษะ และนโยบายที่ก้าวหน้า ทำให้ไทยมีศักยภาพก้าวสู่ผู้นำการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีอัจฉริยะ
ลงทุนวิจัยหนุนยานยนต์อนาคต
โจเซฟ ฮง กรรมการผู้จัดการ บ๊อช ประเทศไทยและลาว กล่าวว่า ตลอดหลายปีที่ผ่านมา บ๊อช ได้ลงทุนอย่างหนักในการวิจัยและพัฒนาในหลายโดเมน เช่น ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าและซอฟต์แวร์ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง และโซลูชันขั้นสูงอื่นๆ ด้วยเหตุนี้ บ๊อชจึงอยู่ในตำแหน่งที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์
"เรามองว่าการร่วมมือกับพันธมิตรท้องถิ่นคือกุญแจสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาคด้านโซลูชันยานยนต์และการขับเคลื่อนขั้นสูง ความร่วมมือของ Bosch Engineering กับ SRA จึงสะท้อนวิสัยทัศน์ร่วมกันในการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) เจเนอเรชันใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มไฮเปอร์คาร์และซูเปอร์คาร์ที่ต้องการสมรรถนะ ประสิทธิภาพ และนวัตกรรมสูงสุด"
ความร่วมมือนี้ ครอบคลุมวงจรนวัตกรรมครบทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวิจัยและออกแบบระยะเริ่มต้น การตรวจสอบและทดสอบ การพัฒนาเชิงอุตสาหกรรม ไปจนถึงการผลิต โดยทั้งหมดจะดำเนินตามมาตรฐานสากล เพื่อก้าวสู่การผลิตระดับโลก
นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว บ๊อชยังให้ความสำคัญกับการลงทุนในบุคลากร ผ่านโครงการพัฒนาร่วม การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และการทำงานทางวิศวกรรมร่วมกัน เพื่อส่งเสริมให้วิศวกร นักวิจัย และช่างเทคนิคชาวไทยได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในการกำหนดเทคโนโลยีแห่งอนาคต
ความมุ่งมั่นต่อความยั่งยืน
โจเซฟ เน้นย้ำว่า ความยั่งยืนถือเป็นหัวใจสำคัญของ บ๊อช โดยตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutral) ในสถานที่ตั้งของบริษัทฯ เอง การร่วมมือกับซัพพลายเออร์และลูกค้าจึงเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม
การที่บ๊อชทำงานร่วมกับทีมแข่งรถเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ และปรับปรุง วิศวกรรมการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นหนึ่งในแนวทางริเริ่มเพื่อสร้างอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการผลิต การออกแบบวิศวกรรม ไปจนถึงโซลูชันด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม
สานจิตวิญญาณมอเตอร์สปอร์ตไทยสู่เวทีโลก
พ.ท. ม.ร.ว.พีรานุพงศ์ ภาณุพันธ์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท สยาม เรซซิ่ง ออโตโมบิลส์ จำกัด (SRA) กล่าวว่า การลงนาม MOU ในครั้งนี้ คือการร่วมกันกำหนดอนาคตของระบบการเดินทางสมรรถนะสูงทั้งในประเทศไทยและบนเวทีโลก
"SRA ยังคงสืบสานจิตวิญญาณของมอเตอร์สปอร์ตไทย โดยได้รับแรงบันดาลใจจากตำนานอย่าง พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช (พระบิดา) ผู้ซึ่งแสดงให้โลกเห็นว่าพรสวรรค์และวิศวกรรมของคนไทยสามารถยืนหยัดในระดับสากลได้"
ความร่วมมือนี้ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาระบบย่อยของรถยนต์ไฟฟ้าขั้นสูง (Advanced EV Subsystems) ครอบคลุมตั้งแต่สถาปัตยกรรมระบบส่งกำลังและระบบพลังงาน ไปจนถึงเทคโนโลยีควบคุมยานยนต์อัจฉริยะ ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่โครงการทางวิศวกรรม แต่คือการวางรากฐานให้กับยานยนต์ยั่งยืนสมรรถนะสูงเจเนอเรชันใหม่ และยังเป็นการเปิดโอกาสให้วิศวกร ซัพพลายเออร์ และนักนวัตกรรมชาวไทยได้ก้าวสู่เวทีโลก
จาก Formula 1 สู่ยานยนต์ไฟฟ้าเจเนอเรชันใหม่
ภาคิน แสงวิจิตร ผู้ร่วมก่อตั้ง และผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ บริษัท สยาม เรซซิ่ง ออโตโมบิลส์ จำกัด (SRA) กล่าวว่า SRA ได้รับแรงบันดาลใจจากรากฐานของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช ที่แสดงให้โลกเห็นว่าพรสวรรค์สามารถอยู่ได้ทุกสนามแข่งขัน และนำแนวคิดแบบ Formula 1 มาสู่เวิร์กช็อป ด้วยการทำงานเป็นทีมที่ไม่ย่อท้อ ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และเข้มข้น
ความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นการผสานความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีระดับโลกของ Bosch เข้ากับความมุ่งมั่นด้านการออกแบบของ SRA และจิตวิญญาณของกีฬาไทย เพื่อนำแนวคิดจากห้องปฏิบัติการออกสู่ท้องถนน ด้วยยานยนต์ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น ชาญฉลาดยิ่งขึ้น และสะอาดขึ้น โดยจะมุ่งเน้น 3 ความสำคัญหลัก ได้แก่
- นวัตกรรม – ผลักดันการพัฒนาระบบการเดินทางแห่งอนาคต
- การสร้างมูลค่าในประเทศ – ผ่านการพัฒนาซัพพลายเออร์และการผลิตขั้นสูง
- การเติบโตของบุคลากร – ยกระดับทักษะเพื่อให้ไทยแข่งขันได้ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก
บ๊อช เอ็นจิเนียริ่ง และ สยามเรซซิ่ง ออโตโมบิลส์ จะร่วมกันสร้างระบบนิเวศที่จะขับเคลื่อนความเป็นผู้นำของประเทศไทยในอนาคตของการเดินทาง







