เอ็มจี ตั้งเป้า ชิงแชร์ 5% ขึ้นท็อป 5 เปิดตัว MG IM6 ชนพรีเมียมอีวี

เปิดวิสัยทัศน์เอ็มจี ตั้งเป้าขึ้นแท่น ท็อป 5 ทศวรรษที่ 2 ในไทย ชู 4 กลยุทธ์หลักขับเคลื่อน พร้อมเสริมตลาด อีวี เปิดตัว MG IM6 อัดออปชั่น ชนตลาดเอสยูวี เคาะเริ่มต้น 1.39 ล้าน
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจี เผยวิสัยทัศน์เอ็มจี ทิศทางและแผนการดำเนินธุรกิจในไทยปีนี้ โดยตั้งเป้าสร้างส่วนแบ่งการตลาด 5%
พร้อมตั้งเป้าหมาย ขึ้นแท่นท็อป 5 แบรนด์รถยนต์ในไทยในช่วงทศวรรษที่ 2 ที่ดำเนินธุรกิจในไทย
ทั้งนี้เอ็มจีเริ่มต้นเข้าสู่ตลาดประเทศไทยในปี 2556 โดย SAIC MOTOR CORPORATION กับ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมก่อตั้ง บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ในเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ก่อนที่จะเปิดตัวรถรุ่นแรก “MG 6” ในปี 2557
สิ่งที่จะนำให้เอ็มจีไปสู่เป้าหมายดังกล่าวได้ จะใช้ 4 กลยุทธ์หลัก คือ
1.ตอกย้ำความเป็นผู้บุกเบิกด้านยานยนต์ไฟฟ้าในไทยด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง
ทั้งนี้ เอ็มจี ได้ชื่อว่าเป็นผู้เริ่มต้นผลักดันให้ อีวี ในไทย ขยายตัวเข้าสู่ตลาด mass ตั้งแต่ปี 2562
ภายใต้กลยุทธ์นี้ เอ็มจีจะเน้นการนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัยตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะการพัฒนารถพลังงานไฟฟ้าที่เน้นสมรรถนะการขับขี่ที่
โดยภายในปี 2569 เอ็มจี เตรียมขยายไลน์อัพรถไฟฟ้าใหม่ ทั้ง SUV และ MPV
นอกจากนี้ เอ็มจี ยังเป็นแบรนด์แรกและแบรนด์เดียวในขณะนี้ที่รับประกันคุณภาพแบตเตอรี่ มอเตอร์ขับเคลื่อน และชุดควบคุมมอเตอร์ตลอดอายุการใช้งาน (LIFETIME WARRANTY) เพื่อลดความกังวลเกี่ยวกับความทนทานของระบบไฟฟ้าและเพิ่มมูลค่าให้กับรถมือสอง รวมถึงให้ความสำคัญกับการยกระดับโรงงานผลิตแบตเตอรี่ เพื่อให้พร้อมต่อการขยายตัวในการใช้รถอีวี
2. การพัฒนาพลังงานทางเลือก เพื่อเสริมประสิทธิภาพและยกระดับประสบการณ์การขับขี่
โดยเอ็มจี พัฒนาเทคโนโลยีไฮบริดภายใต้แนวคิด “Global Quality, Local Relevance” ด้วยนำเทคโนโลยีไฮบริดเจเนอเรชันที่ 2 จาก SAIC MOTOR CORPORATION มาชูจุดเด่นด้านสมรรถนะที่ดีขึ้น การประหยัดน้ำมัน และการขับขี่ที่นุ่มนวล เริ่มต้นกับ MG3 Hybrid + ในปีที่ผ่านมา
และวางแผนขยายตลาดเปิดตัวรุ่นใหม่ภายในปี 2569 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทั้งในกลุ่มครอบครัวและกลุ่มที่มองหาความประหยัดในการใช้งาน
3. สร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าในทุกด้าน โดยยกระดับบริการหลังการขายให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการพัฒนา E-Workshop ระบบบริการดิจิทัล ที่ให้ลูกค้าติดตามงานซ่อมได้แบบเรียลไทม์ สะดวก
พร้อมตั้งเป้าอัตราการจัดหาอะไหล่ 99% เพื่อให้บริการได้รวดเร็ว ลดระยะเวลารอคอย เสริมด้วยบริการ ช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง และการดูแลแบบใส่ใจรายบุคคล
4. การขับเคลื่อนแบรนด์สู่ความยั่งยืน โดยปีนี้ เอ็มจี จะยังคงเดินหน้าพันธกิจนำแบรนด์สู่ความยั่งยืน โดยร่วมมือกับทั้งลูกค้า พาร์ทเนอร์ และหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อพัฒนาองค์กรและสังคมไปพร้อมกัน
รวมถึงมุ่งถ่ายทอดทักษะด้านนวัตกรรมในการพัฒนาเทคโนโลยี NEV ด้วยการขยายความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำทั่วประเทศ เพื่อต่อยอดสู่การพัฒนาทักษะในอนาคต และยังเป็นการสร้างบุคลากรเข้าสู่ตลาดแรงงานอย่างมีคุณภาพ
สำหรับเอ็มจี ตั้งแต่เริ่มตนทำตลาดในประเทศไทย ปัจจุบันมียอดขายสะสมกว่า 220,000 คัน
ด้านการส่งออกรถจากฐานการผลิตในประเทศไทยไปยังประเทศในภูมิภาคอาเซียนมีจำนวนมากกว่า 32,000 คัน
สำหรับกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ และ อีวี ล่าสุดวันที่ 18 มีนาคม 2568 เอ็มจี เสริมตลาดด้วยการเปิดตัว MG IM6 (ไอเอ็ม6) อีวี รุ่นเรือธง เป็นรถเอยูวี ซี-เซ็กเมนต์
และเตรียมเสริมอีก 1 รุ่นในตลาด บี-เอสยูวี คือ MG S5 EV ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46
สำหรับ MG IM6 ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของแบรนด์ เอ็มจี ซึ่ง NEW MG IM6 ถือเป็นรถพรีเมียมมาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ “ขับเคลื่อนตัวตน บนความเป็นตัวเอง” (I'M WHO I’M) มีความโดดเด่นทั้งด้านสมรรถนะ และการออกแบบ ซึ่งล่าสุดคว้ารางวัล 2024 Red Dot Product Design Award
โดยรุ่นย่อย และราคา IM6 ประกอบด้วย
- Premium ขับเคลื่อนล้อหลัง ราคา 1,399,900 บาท
- Performance ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 1,799,900 บาท
อ่านรายละเอียดของทั้ง 2 รุ่น ได้ที่ https://www.bangkokbiznews.com/auto/1169488