ไฮบริด ยังแรง ฮอนด้า ครองอันดับ 1 xEV ต่อเนื่องปีที่ 2

ไฮบริด ยังแรง ฮอนด้า ครองอันดับ 1 xEV ต่อเนื่องปีที่ 2

แม้ว่ากระแสรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) จะขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากความนิยมผู้บริโภค ทางเลือกสินค้าใหม่เพิ่มมากขึ้น แต่พบว่าพลังงานทางเลือกลูกผสมอย่าง ไฮบรืด ก็ยังคงได้รับความนิยมในระดับที่สูง 

โดยฮอนด้า เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่เน้นการทำตลาดรถกลุ่มไฮบริดแบบ ฟูล ไฮบริด ที่หลากหลายในชื่อ e:HEV ตั้งแต่รุ่นเล็กอย่าง ซิตี้ ไปจนถึง แอคคอร์ด 

ล่าสุดบริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด รายงานผลประกอบการรถยนต์ฟูลไฮบริด e:HEV ที่ฮอนด้าสามารถครองตำแหน่งผู้นำยอดขายกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (xEV) ในตลาดรถยนต์ประเทศไทยปี 2566 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยมียอดขายสะสม 48,208 คัน ครองส่วนแบ่งทางการตลาด xEV มากกว่า 27% และเป็นผู้นำใน  3 เซกเมนต์หลักของตลาด xEV ได้แก่ 

  • คอมแพคท์คาร์ 
  • เอสยูวีขนาดกลาง 
  • เอสยูวีขนาดใหญ่ 

ฮอนด้าระบุว่า การสร้างยอดขายดังกล่าวเป็นกาดรตอกย้ำความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ในการนำเสนอยนตรกรรมคุณภาพในหลากหลายเซกเมนต์ และฟูลไฮบริด e:HEV เป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุดกับการใช้งานในปัจจุบัน 

สำหรับยอดขายของรถแต่ละกลุ่มที่ฮอนด้าเป็นผู้นำตลาด xEV ได้แก่

  • กลุ่มคอมแพคท์คาร์ ซีวิค อี:เอชอีวี ยอดขายสูงสุด 9,121 คัน 
  • กลุ่มเอสยูวีขนาดกลาง (M-SUV) เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี ยอดขายสูงสุด  23,631  คัน 
  • กลุ่มเอสยูวีขนาดใหญ่ (L-SUV) นำโดย ซีอาร์-วี อี:เอชอีวี  ยอดขายสูงสุด  8,921 คัน

สำหรับฮอนด้า นอกจากเน้นการทำตลาด ฟูลไฮบริดแล้ว ยังเตรียมเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ อีวี (EV) ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ โดยขณะนี้ได้เริ่มต้นเปิดสายการผลิต อีวี รุ่น e:N1 ที่โรงงานในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ปราจีนบุรี