โครงการพัฒนาลุ่มน้ำประชารัฐ ‘อ่างเก็บนํ้าพระปรง’ เพื่อการเกษตร อีกต้นแบบความสำเร็จของกรมชลฯ

โครงการพัฒนาลุ่มน้ำประชารัฐ  ‘อ่างเก็บนํ้าพระปรง’ เพื่อการเกษตร อีกต้นแบบความสำเร็จของกรมชลฯ

จากที่กรมชลประทานได้เดินหน้าวางยุทธศาสตร์ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในการขับเคลื่อนปัญหาน้ำเพื่อฟื้นฟูแหล่งน้ำเดิม และพัฒนาแหล่งน้ำใหม่ภายใต้ชื่อ โครงการพัฒนาลุ่มน้ำแบบประชารัฐชลประทานจังหวัดสระแก้วถือเป็น 1 ใน 8 พื้นที่นำร่องที่ได้เริ่มดำเนินโครงการดังกล่าวร่วมกับประชาชนในพื้นที่มาตั้งปี 2560 ในนามของคณะทำงานประชารัฐเพื่อกำหนดแนวทางในการพัฒนาแหล่งน้ำของแต่ละชุมชนด้วยตนเอง

โครงการพัฒนาลุ่มน้ำประชารัฐ  ‘อ่างเก็บนํ้าพระปรง’ เพื่อการเกษตร อีกต้นแบบความสำเร็จของกรมชลฯ

นายณัฐวุฒิ  สร้อยประเสริฐ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสระแก้ว เล่าว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่กรมชลประทานเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนและเกษตรกรได้เข้ามามีบทบาทในการคิดแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยสิ่งที่เกษตรกรได้คือ ได้ความรัก ความผูกพัน และความสามัคคี จากเขาเหล่านี้เป็นคนคิดโครงการขึ้นมาเอง ก็จะเกิดความหวงแหน และช่วยกันจะรักษา เปลี่ยนจากรูปแบบเดิมๆ ที่ ส่วนราชการ เช่นกรมชลประทานจะไปพิจารณาความเหมาะสม ในเรื่องการพัฒนาแหล่งน้ำ ไม่ว่าจะเป็นฝาย แก้มลิง คลองส่งน้ำ หรืออ่างเก็บน้ำ โดยกรมชลประทานจะไปพิจารณาสำรวจ ออกแบบ และก่อสร้าง ซึ่งอาจจะไม่ค่อยตรงใจ ตรงปัญหาของพี่น้องประชาชนในพื้นที่มากนัก

แต่ครั้งนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เข้ามามีบทบาทในการวิจัยงานด้วยตัวเองในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำแล้ง น้ำท่วม น้ำเน่าเสีย เป็นครั้งแรกที่ทำให้พี่น้องเกษตรกรสามารถค้นหาปัญหา  สาเหตุ และนำไปสู่การแก้ไขโครงการได้ ซึ่งทั้งเราและชาวบ้านได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทำให้ประโยชน์เกิดขึ้นในชุมชนจริงๆ

โครงการพัฒนาลุ่มน้ำประชารัฐ  ‘อ่างเก็บนํ้าพระปรง’ เพื่อการเกษตร อีกต้นแบบความสำเร็จของกรมชลฯ

ขณะเดียวกันโครงการอ่างเก็บน้ำพระปรง อันเนื่องมาจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9  นับเป็นอีกหนึ่งโครงการต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร สำหรับการเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดสระแก้ว อาทิ ข้าว มันสำปะหลัง อ้อย ยูคาลิปตัส และปาล์มน้ำมัน โดยเกษตรกรในพื้นที่สามารถเพาะปลูกได้ตลอดปี ทั้งในฤดูฝน ฤดูแล้ง โดยทางโครงการฯได้มีปรับปรุงและพัฒนาอ่างเก็บน้ำ และคลอง    ส่งน้ำอย่างต่อเนื่องเป็นประจำ ทำให้มีน้ำเพียงพอต่อการทำเกษตร ช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกรและมีรายได้เพิ่มขึ้นในทุกปี ทั้งนี้ยังได้ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ใช้น้ำในพื้นที่เพื่อวางแผนการเพาะปลูก และการใช้น้ำช่วงฤดูฝน และฤดูแล้งอย่างเหมาะสมอีกด้วย

สำหรับอ่างเก็บน้ำพระปรง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่ตำบลช่องกุ่ม อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว มีการส่งน้ำท้ายเขื่อนในพื้นที่ชลประทานผ่านระบบคลองส่งน้ำสายใหญ่ 2 สาย ประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากอ่างเก็บน้ำพระปรงได้ช่วยเหลือพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน 3 ตำบล มีสมาชิกที่เป็นกลุ่มบริหารการใช้น้ำพระปรง ประมาณ 635 คน ซึ่งหลังจากที่ก่อสร้างอ่างฯ แล้วเสร็จในปี 2544 ได้ก่อให้เกิดประโยชน์มากมายต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่

โครงการพัฒนาลุ่มน้ำประชารัฐ  ‘อ่างเก็บนํ้าพระปรง’ เพื่อการเกษตร อีกต้นแบบความสำเร็จของกรมชลฯ

“พื้นที่แถบนี้ค่อนข้างมีความแห้งแล้ง ในฤดูแล้งเกษตรกร หรือประชาชนไม่สามารถทำการเกษตรได้เลย แต่หลังจากที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานพระราชดำริอ่างเก็บน้ำพระปรง และก่อสร้างแล้วเสร็จทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎร จิตใจ รวมถึงเรื่องความมั่นคงด้านอาหารดีขึ้นมาก ทุกวันนี้เรามีการบริหารจัดการน้ำ โดยประสานกับกลุ่มผู้ใช้น้ำ มีการประชุมหารือ และวางแผนร่วมกันเป็นประจำในทุกปีในช่วงฤดูแล้งก่อนที่จะส่งน้ำ ขณะที่เกษตรกรก็ได้ให้ความร่วมมือในการพัฒนา ขุดลอกคูคลองเพื่อให้น้ำสามารถไหลไปถึงแปลงเพาะปลูกได้โดยสะดวก ลดการสูญเสีย เพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ถือเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับชุมชนที่ก่อให้เกิดความยั่งยืน” นายณัฐวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย