2 สเต็ปง่ายๆ แพ็คส่งของอย่างไร ไม่บุบสลาย

เคยไหมที่ส่งพัสดุให้ลูกค้าทีไร ตองมีปัญหา
สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ส่วนใหญ่ การเลือกส่งสินค้าทางไปรษณีย์ถือเป็นช่องทางที่สะดวกและช่วยลดต้นทุน ลดเวลาให้ธุรกิจได้เป็นอย่างดี
แต่บ่อยครั้งเหมือนกันที่พ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ หรือแม้แต่แม่ค้ามืออาชีพบางคน ต้องประสบปัญหาน่าเบื่อ เมื่อสินค้าที่จัดส่งให้ลูกค้าทางไปรษณีย์นั้นชำรุด เสียหายทุกที โดยเฉพาะสินค้าบางประเภทที่มีความบอบบางหรือแตกหักง่ายเป็นพิเศษ
ทราบหรือไม่ว่า หนึ่งในต้นเหตุสำคัญนั้น อาจเกิดจากขั้นตอนของการห่อพัสดุที่ไม่เรียบร้อยสมบูรณ์ แต่ครั้นจะหาวัสดุเสริม มาช่วยห่อหุ้มเพิ่มความแข็งแรงก็เป็นเรื่องลำบากยุ่งยาก อยากจะเดินออกไปซื้อหาห่อกันกระแทก กันแตกเสียหายก็ดูเป็นเรื่องวุ่นวาย ยิ่งหากปริมาณสิ่งของที่คุณต้องการส่งนั้นมีปริมาณน้อยแค่ชิ้นเดียวหรือสองชิ้น ก็คงไม่คุ้มค่าและเวลา
วันนี้จึงมีเคล็ดลับพิเศษ ที่ช่วยให้ห่อพัสดุของคุณปลอดภัย จากการประยุกต์นำวัสดุใกล้ตัว ซึ่งหาได้ง่ายแถวบ้านเรา แต่สามารถนำใช้ประกอบการแพ็คสิ่งของได้ดีอย่างคาดไม่ถึง ด้วย 2 สเตปท์ง่ายๆ
ขั้นตอนที่ 1 ปกป้อง ปลอดภัย ด้วยวัสดุห่อหุ้ม
Air bubble วัสดุห่อหุ้มยอดเยี่ยมแห่งปี
อย่างไรก็ดี หากคุณมีโอกาสที่ต้องห่อสิ่งของบ่อยๆ หรือเป็นประจำล่ะก็ แนะนำให้หาซื้อ Air bubble ติดบ้านไว้จะดีกว่า ด้วยคุณสมบัติเด้งๆ ดึ๋งๆ ของเจ้า Air Bubble จึงเป็นวัสดุกันกระแทกชั้นดีที่จะป้องกันห่อหุ้มพัสดุของคุณให้ปลอดภัยตลอดเส้นทางจนถึงมือผู้รับได้ในทุกสถานการณ์
การหาซื้อ Air Bubble สามารถหาได้จากร้านค้าเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หรือที่ไปรษณีย์ไทย หรือหากมีเวลา ลองเดินหาร้าน ในแหล่งสินค้าขายส่งใหญ่ๆ อย่าง สำเพ็ง คุณจะได้ Air Bubble ม้วนใหญ่ในราคาถูกมากอย่างเหลือเชื่อ นอกจากนี้ ทุกครั้งที่คุณซื้อสินค้าแล้ว ได้เจ้า Air Bubble แถมมาห่อกับสินค้ามาก็สามารถเก็บไว้ และนำมาใช้ Re Use ได้อีกรอบ
เศษผ้า วัสดุหาง่ายในบ้าน
นอกจาก Air Bubble แล้ว วัสดุอื่นในบ้านที่จะประยุกต์ใช้ห่อหุ้มสิ่งของที่จะส่ง ด้วยเศษผ้าต่างๆ อาทิ จำพวกผ้านวม ผ้าเช็ดตัว ผ้าขนหนู หรือเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้แล้วก็เป็นอีกทางเลือกที่ใช้ได้เช่นกัน
เพราะความนุ่มนิ่มของผ้า จะช่วยซับแรงกระแทกสินค้าของคุณได้อย่างดี
ขั้นตอนที่ 2 อุ่นใจด้วยวัสดุเสริม เพิ่มความแน่นหนา
อีกปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งของการส่งสินค้าทางไปรษณีย์ แล้วชำรุดเสียหายคือการห่อสินค้าไม่แน่นหรือไม่แข็งแรงพอ เพราะมีช่องว่างที่เหลือด้านในกล่อง ทำให้ของขยับไปมาและทำให้เกิดความเสียหายได้ง่าย
แล้วทีนี้จะรู้ได้อย่างไรว่าพัสดุที่เราทำการห่อแล้วแน่นหรือไม่ เคล็ดลับสังเกตง่ายๆ คือ ให้ลองเขย่ากล่องนั้นดู หากไม่ได้ยินเสียงกุกกักหรือสินค้ากระดุกกระดิเคลื่อนตัวภายในกล่องหรือซอง คอนเฟิร์มได้ว่า พัสดุที่คุณห่อนั้นแน่นดีแล้ว
แต่สำหรับวิธีจะห่ออย่างไรให้พัสดุแข็งแรงแน่นปึ้กด้วยวัสดุง่ายๆ ใกล้ตัว เคล็ดลับอยู่ที่ให้ลองหาวัสดุที่ใช้กรุเสริมความแข็งแรงภายในกล่องหรือซองอีกชั้น อาทิ
กระดาษหนังสือพิมพ์ หรือกระดาษใกล้ตัวนี่แหล่ะ เป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด
นำมาอัดให้แน่นๆ ที่ช่องว่างตรงไหนอัดให้หมด เอาให้ไม่มีพื้นที่หายใจกันเลยทีเดียวยิ่งดี โดยนำกระดาษที่ใช้แล้วเหล่านี้ เอามาฉีกเป็นเส้นๆ ฝอยๆ แล้วขยำ นำไปอุดช่องว่างต่างๆ ภายในกล่องหรือซองพัสดุก็สามารถช่วยกันกระแทกได้อย่างดี
แกนกระดาษทิชชู่
นำมาวางเรียงกันในกล่องแบ่งเป็นช่องๆ ไม่ให้เกิดช่องว่าง จะช่วยจัดระเบียบของที่จะส่งหรือกรุสิ่งของไม่ให้เกิดช่องว่างภายในกล่องพัสดุได้เช่นกัน
กระดาษลูกฟูก
ถ้าเราต้องส่งหนังสือหรือของที่มีเหลี่ยมหรือแหลมคม ลองนำกระดาษลูกฟูกมาหุ้มปลายแหลม ใช้กระดาษลูกฟูกที่ลอกออกจากลังกระดาษเก่าๆ เอามาช่วยห่อสิ่งของ จะช่วยป้องกันการกระแทกมุมของสิ่งของไม่ให้เสียหายได้ และยังป้องกันปลายแหลมไม่ให้ทิ่มแทง ทะลุกล่องคนอื่นด้วย
กล่องคุกกี้หรือกล่องกระดาษเก่าๆ
ที่มีสภาพแข็งแรง หรือกล่องเหล็กจากของขวัญปีใหม่นนำมาทำเทคนิค Box in Box คือการใช้กล่องซ้อนกล่องสองชั้น ก็ยิ่งช่วยเพิ่มความแข็งแรงคูณ 2 ได้!!
นอกจากนี้ ยังมีของอีกหลายอย่างที่คุณสามารถนำมาประยุกต์ในการแพ็คของได้ง่ายๆ จากในบ้าน เช่น โฟมเก่าจากกล่องเครื่องใช้ไฟฟ้า ถุงผ้า เป็นต้น และอย่าลืม วัสดุและอุปกรณ์ทั่วไปที่ขาดไม่ได้ในการห่อพัสดุส่งไปรษณีย์ ได้แก่ กรรไกร เทปกาว และเชือก
ท้ายสุดที่สำคัญมากๆ ก่อนส่งทุกครั้ง อย่าลืมจ่าหน้าให้ถูกต้อง พร้อมกับเบอร์โทรติดต่อได้ตลอดเวลา ลงบนกล่องพัสดุทุกครั้งเมื่อนำส่งที่ทำการไปรษณีย์ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการส่งถึงจุดหมายปลายทาง
แค่นี้ก็ช่วยพิทักษ์สิ่งของคุณให้เดินทางอย่างปลอดภัยตลอดเส้นทาง จนถึงมือผู้รับ และยังช่วยให้การแพ็คของส่งของคุณเป็นเรื่องสร้างสนุกและสร้างสรรค์ได้อีกด้วย












